สกู๊ป : "10 แคนดิเดต" นักเตะยอดเยี่ยมยุโรป

สกู๊ป : "10 แคนดิเดต" นักเตะยอดเยี่ยมยุโรป

สกู๊ป : "10 แคนดิเดต" นักเตะยอดเยี่ยมยุโรป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ได้สะบัดคีย์บอร์ด (ปากกา) ว่าด้วยเรื่องราวในโลกลูกหนังหลายวัน เนื่องเพราะว่า เริ่มมีโปรแกรมอุ่นเครื่องของบรรดาทีมดังๆ กันถี่ขึ้นเรื่อยๆ แต่คืนนี้ (พฤหัสบดีที่ 21 ก.ค.)

เป็นวันที่ปลอดโปร่ง ไม่มีทีมใหญ่ลงสนามฟาดแข้ง ก็เลยได้โอกาสมาบอกเล่าเก้าสิบ ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ "นักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป ฤดูกาล 2015-16" ครับ

เมื่อวันจันทร์ (18 ก.ค.) ที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ "ยูฟา" ได้มีการประกาศรายชื่อ 10 นักเตะ ที่เป็นแคนดิเดตชุดสุดท้าย ที่มีสิทธิคว้ารางวัลดังกล่าว เป็นใครกันบ้าง

เชื่อว่า ทุกท่านคงได้ทราบกันแล้ว แต่วันนี้ ผมลองรวบรวมเอาผลงานของนักเตะเหล่านั้น ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาว่า ทำอะไรกันบ้างมาฝาก

ก็ลองดูนะครับว่า แต่ละคน ทำอะไรกันไว้บ้าง ถึงได้ถูกเลือกให้เป็นพวกที่ "เข้ารอบสุดท้าย" ลุ้นรางวัลนี้กัน

แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด , ทีมชาติเวลส์)

เกียรติยศ : แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

ผลงานในลีก : ลงเล่น 23 นัด , ยิง 19 ประตู , ไส่พาน 10 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 8 นัด , ใส่พาน 3 ประตู

ผลงานในฟุตบอลยูโร 2016 : ลงเล่น 6 นัด , ยิง 3 ประตู , ใส่พาน 1 ประตู

บทสรุป : แม้จะเป็นฤดูกาลที่ เบล ได้ลงเล่นไม่ค่อยสม่ำเสมอนักในช่วงต้นๆ เนื่องจากเจออาการบาดเจ็บรบกวน แต่กองหน้าชาวเวลส์ ก็ยังรับบทฮีโร่ที่มิลาน

เมื่อยิงประตูจากจุดโทษคนสุดท้าย ช่วยให้ทีมชุดขาว ซิวแชมป์ยุโรปสมัยที่ 11 และเป็นหนที่ 2 ในรอบ 3 ปี ก่อนที่จะพาทีม "มังกรแดง" เวลส์ ทะลุถึงรอบตัดเชือกยูโร 2016 แบบสุดเซอร์ไพรส์

จิอันลุยจิ บุฟฟอน (ยูเวนตุส , ทีมชาติอิตาลี)

เกียรติยศ : แชมป์กัลโช เซรี อา , แชมป์โคปปา อิตาเลีย

ผลงานในลีก : ลงเล่น 35 นัด , ไม่เสียประตู 21 นัด

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 8 นัด , ไม่เสียประตู 3 นัด

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 4 นัด , ไม่เสียประตู 3 นัด

บทสรุป : ในวัย 38 ปี บุฟฟอน สมราคายอดนายทวาร เมื่อช่วยให้ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ซิวแชมป์เซรี อา 5 สมัยติดต่อกัน (เป็นสมัยที่ 7 ของเขากับทีม)

ส่วนบอลโคปปา นี่คือสมัยที่ 2 ของเขากับทีมที่ทั้ง 2 ครั้ง เป็นการคว้าดับเบิลแชมป์ (อา กับ โคปปา) อีกด้วย นอกจากนี้ บุฟฟอน ยังสร้างสถิติใหม่ในอาขึ้น เมื่อไม่เสียประตูยาวนานถึง 974 นาที

อองตวน กรีซมันน์ (แอตฯ มาดริด , ทีมชาติฝรั่งเศส)

เกียรติยศ : รองแชมป์ยูโร 2016

ผลงานในลีก : ลงเล่น 38 นัด , ยิง 22 ประตู , ใส่พาน 5 ประตู

ผลงานในแชมเปียนสส์ลีก : ลงเล่น 13 นัด , ยิง 7 ประตู , ใส่พาน 1 ประตู

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 7 นัด , ยิง 6 ประตู , ใส่พาน 2 ประตู

บทสรุป : เป็นฤดูกาลแห่ง "พระรอง" โดยแท้สำหรับกรีซมันน์ โดยเฉพาะในบอลแชมเปียนส์ลีก ที่พาทีมตราหมี เข้าชิงฯ เป็นหนที่สองในรอบสามปี

แต่ก็ต้องเป็นฝ่ายปราชัยต่อ เรอัล มาดริด ไปอีกคำรบ โดย กรีซมันน์ ยิงลูกโทษไม่เข้าในช่วงครึ่งเวลาหลังอีกด้วย ในนัดชิงดำกับทีมชุดขาว ส่วนในศึกยูโร 2016

แม้จะยิงได้ถึง 6 ประตู จนได้ตำแหน่งรองเท้าทองคำ แต่ก็ไม่อาจช่วยให้ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ได้

โทนี โครส (เรอัล มาดริด , ทีมชาติเยอรมนี)

เกียรติยศ : แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก

ผลงานในลีก : ลงเล่น 32 นัด , ยิง 1 ประตู , ใส่พาน 10 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 12 นัด , ใส่พาน 1 ประตู

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 6 นัด , ใส่พาน 1 ประตู

บทสรุป : โทนี โครส คว้าแชมป์สโมสรยุโรป เป็นหนที่ 2 ในรอบ 4 ปี ด้วยบทบาทมิดฟิลด์หัวใจสำคัญของทีม เขาพา เรอัล มาดริด ซิวถ้วยยูฟา แชมเปียนส์ลีก

ด้วยการชนะจุดโทษ แอตฯ มาดริด (แชมป์หนแรก ปี 2013 กับ บาเยิร์น) นอกจากนั้ โครส ยังลงเล่นเต็ม 570 นาที ให้กับทีม "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ในศึกยูโร 2016 ที่พวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศ

ลีโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา , ทีมชาติอาร์เจนติน่า)

เกียรติยศ : แชมป์ลาลีกา , โคปา เดลเรย์ , ฟีฟา คลับ เวิลด์คัพ

ผลงานในลีก : ลงเล่น 33 นัด , ยิง 26 ประตู , ใส่พาน 18 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 7 นัด , ยิง 6 ประตู , ใส่พาน 1 ประตู

บทสรุป : เป็นฤดูกาลที่เงียบมากๆ สำหรับอดีตนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป 2 สมัย การได้แชมป์ลาลีกา พร้อมกับการทำประตูให้บาร์ซาครบ 300 ประตู อันถือเป็นสถิติสูงสุดของลีกสเปน

เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ดูจะทำให้ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ลืมความผิดหวังของการตกรอบแชมเปียนส์ลีก แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แถมยังไม่อาจช่วยให้ อาร์เจนตินา ซิวแชมป์ทวีปอีกด้วย

โธมัส มุลเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค , ทีมชาติเยอรมนี)

เกียรติยศ : แชมป์บุนเดสลีกา , เดเอฟเบ โพคาล

ผลงานในลีก : ลงเล่น 31 นัด , ยิง 20 ประตู , ใส่พาน 5 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 12 นัด , ยิง 8 ประตู , ใส่พาน 3 ประตู

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 6 นัด , ใส่พาน 1 ประตู

บทสรุป : การร่วมงานกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ทำให้ทั้งคู่ผลิตสกอร์ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ได้ถึง 50 ประตูในลีก ส่วนในแชมเปียนส์ลีก มุลเลอร์ ยิงไป 8 ประตู

แต่ช่วยทีมไปได้แค่รอบตัดเชือกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนในบอลยุโรปที่ฝรั่งเศส เขาไม่อาจมองหาประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในการลงสนามทั้ง 6 นัดกับทีมชาติเยอรมนี

มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค , ทีมชาติเยอรมนี)

เกียรติยศ : แชมป์บุนเดสลีกา , เดเอฟเบ โพคาล

ผลงานในลีก : ลงเล่น 34 นัด , ไม่เสียประตู 20 นัด

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 11 นัด , ไม่เสียประตู 4 นัด

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 6 นัด , ไม่เสียประตู 4 นัด

บทสรุป : นอยเออร์ ลงเล่นทั้ง 34 นัดในลีกเมื่อซีซั่นที่แล้ว จนได้แชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 4 กับทีม พ่วงด้วยดับเบิลแชมป์ 3 หนใน 4 ฤดูกาล ช่วยให้ทีมเสือใต้

เข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายบอลแชมเปียนส์ลีกก่อนจะช่วยทีมชาติเยอรมนี เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2016

เปเป (เรอัล มาดริด , ทีมชาติโปรตุเกส)

เกียรติยศ : แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก , แชมป์ยูโร 2016

ผลงานในลีก : ลงเล่น 21 นัด , ยิง 1 ประตู , ใส่พาน 1 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 9 นัด

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 6 นัด

บทสรุป : แม้จะพลาดการลงเตะนัดชิงฯ ในศึกแชมเปียนส์ลีก แต่ เปเป ก็ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทีมชุดขาว จนก้าวทะลุไปคว้าแชมป์หนที่สอง ในรอบ 3 ปี

ก่อนจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมชาติโปรตุเกส ซิวแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขา

คริสติอาโน โรนัลโด (เรอัล มาดริด , ทีมชาติโปรตุเกส)

เกียรติยศ : แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก , แชมป์ยูโร 2016

ผลงานในลีก : ลงเล่น 36 นัด , ยิง 35 ประตู , ใส่พาน 11 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 12 นัด , ยิง 16 ประตู , ใส่พาน 4 ประตู

ผลงานในยูโร 2016 : ลงเล่น 7 นัด , ยิง 3 ประตู , ใส่พาน 3 ประตู

บทสรุป : ผลงานยอดเยี่ยมทั้งการพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก เป็นสมัยที่ 11 แถมด้วยการยิงไปถึง 16 ประตู แต่ที่สำคัญมที่สุดก็คือ

การพาทีมชาติ โปรตุเกส ซิวแชมป์ยูโร 2016 แม้ว่าจะมีส่วนร่วมในเกมนัดชิงฯ เพียงแค่ 25 นาที แต่เขาก็แสดงให้เห็นมาตลอดว่าคือ ทุกสิ่งทุกอย่างของทีมจริงๆ

หลุยส์ ซัวเรซ (บาร์เซโลนา , ทีมชาติอุรุกวัย)

เกียรติยศ : แชมป์ลาลีกา , โคปาเดลเรย์ , ยูฟา ซูเปอร์คัพ

ผลงานในลีก : ลงเล่น 35 นัด , ยิง 40 ประตู , ใส่พาน 16 ประตู

ผลงานในแชมเปียนส์ลีก : ลงเล่น 9 นัด , ยิง 8 ประตู , ใส่พาน 3 ประตู

บทสรุป : ยิง 40 ประตู ในลีกสูงสุดของสเปน ถือเป็นผลงานการเล่นในลีกที่ยอดเยี่ยมที่สุด เท่าที่ หลุยส์ ซัวเรซ จะเคยทำได้ในการเล่นบอลลีก (ทุกลีกที่เคยเล่น)

แถมยังครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดแทนที่ของ เมสซี กับ โรนัลโด ที่ผลัดกันมาโดยตลอดในช่วง 6 ฤดูกาลหลังสุดด้วย

ครับ นี่คือผลงานของ 10 แคนดิเดต ที่มีลุ้นรางวัล "นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรป" ประจำฤดูกาล 2015-16 แต่ใครจะได้ตำแหน่งนี้ 25 สิงหาคมรู้กันครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook