สกู๊ป : คำสาป "แซมบ้า" ในฟุตบอลโอลิมปิก?!

สกู๊ป : คำสาป "แซมบ้า" ในฟุตบอลโอลิมปิก?!

สกู๊ป : คำสาป "แซมบ้า" ในฟุตบอลโอลิมปิก?!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ไม่รู้"

คำนี้น่าจะเป็นคำที่น่าจะติดอยู่ในใจของคนบราซิลทั้งชาติครับ หลังจากที่ได้เห็น “โอ เซเลเซา” หรือทีมชาติอันน่าภาคภูมิใจของพวกเขา ทำได้เพียงแค่เสมอกับทีมชาติแอฟริกาใต้ ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น ในเกมนัดแรกของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ

ไม่รู้ทำไมถึงไม่ชนะ ไม่รู้ทำไมถึงเล่นได้น่าขายหน้าเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าจะต้องตกอยู่ใต้สภาพนี้ไปอีกนานแค่ไหน

ไม่รู้เลยจริงๆ

"ริโอ 2016" อาจจะเป็นโอลิมปิกที่เละเทะในเรื่องของความพร้อม การจัดการ ซึ่งแย่ยิ่งกว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อ 2 ปีก่อนด้วยซ้ำ และไม่ใช่มหกรรมกีฬาที่ชาวบราซิลจะ “อิน” ไปด้วย เพราะใจพวกเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับการนำเงินของชาติมาผลาญกับมหกรรมกีฬาโง่ๆพรรค์นี้ (คนส่วนหนึ่งคิดเช่นนั้นจริงครับ)

บราซิล ไม่มีวันได้เป็นจ้าวเหรียญทองอยู่แล้ว และจะมีสักกี่ประเภทกีฬาที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จ

แต่อย่างน้อยที่สุดมีหนึ่งชนิดกีฬาที่พวกเขายอมใครไม่ได้

ฟุตบอล คือสิ่งที่พวกเขาจะไม่ยอมก้มหัวต่อใครเด็ดขาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อชัยชนะในโอลิมปิกเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคว้ามาครองได้ และนี่คือฟุตบอลโอลิมปิกบนแผ่นดินเกิดของตัวเองด้วยแล้ว “เหรียญทอง” เท่านั้นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ

และเหนืออื่นใด ถึงมันไม่อาจจะทดแทนกันได้แต่อย่างน้อยชัยชนะครั้งแรกในโอลิมปิกก็สามารถบรรเทาความเจ็บปวดจากฝันร้ายที่อำมหิตสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพ่ายต่อ เยอรมนี ถึง 1-7 บนแผ่นดินของตัวเองในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อ 2 ปีก่อน

นี่คือภารกิจที่ เนย์มาร์ เจ้าชายลูกหนังของพวกเขาซึ่งโชคร้ายบาดเจ็บรุนแรงจนไม่สามารถลงช่วยทีมได้ “ติดค้าง” ต่อชาวบราซิลทั้งชาติ

แต่ดูเหมือนคำสาปและฝันร้ายนั้นยังคงอยู่ไม่เคยจางหาย

ความผิดหวังจากผลงานในสนามของนักเตะเซเลเซาทั้ง 11 คน ซึ่งนำมาโดย เนย์มาร์ รวมถึงความหวังใหม่ของชาติอย่าง กาเบรียล เฮซุส ทำให้แฟนบอลอดรนทนไม่ไหว ต้องส่งเสียงความไม่พอใจออกมาให้ได้รู้

ในสภาพการณ์ตอนนี้ บราซิล ไม่ต่างอะไรจากเจ้าหญิงนิทราที่ยังไม่มีเจ้าชายรูปงามปรากฏโฉมและคลายคำสาปให้

แต่นั่นคือการมองในเชิงยกย่องว่าพวกเขายังเป็นมหาอำนาจลูกหนังตลอดกาลของโลก

หากมองในเชิงของผลงานแล้ว จะเห็นได้ชัดว่าผลงานของทีมแซมบ้าในเวทีโลกนั้นตกต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ไม่ว่าจะในช่วงก่อนฟุตบอลโลก ช่วงฟุตบอลโลก ในโคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ ที่เพิ่งผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวอีกครั้งในฟุตบอลโอลิมปิกครั้งนี้

นั่นหมายความว่า บราซิล ยุคนี้กำลังเดินทางมาถึงวัฏจักรของความเสื่อมพอดี ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคร้ายและน่าเห็นใจครับ

อย่างไรก็ดี ไม่มี “ข้ออ้าง” ใดๆที่ทีมของ โรเจริโอ มิคาเล่ จะนำมาใช้อ้าง

เวลานี้ ชัยชนะไม่สำคัญเท่ากับความภูมิใจครับ พวกเขาจำเป็นที่จะต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจกลับมาอีกครั้งให้ได้ภายใน 2 เกมที่เหลือของรอบแรก

สภาวะแบบนี้เป็นเรื่องของ “ใจ” และ “ความเชื่อ” ซึ่งมันไม่เหลืออยู่แม้แต่นิด

ยิ่งพลาดโอกาสทองในการจะ “ลบ” ฝันร้ายทุกอย่างไปด้วยการเสมอกับ แอฟริกาใต้ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 59 เมื่อ โมโตบี้ เอ็มวาล่า กองหลังบาฟาน่าโดนไล่ออกจากสนามไป อาการยิ่งหนักมากขึ้นไปอีกหลายเท่า

ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อยากเห็นบราซิลชุดนี้ สร้างเรื่องโรแมนติกลูกหนังด้วยการพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าแชมป์และเหรียญทองสมัยแรก ซึ่งหากทีมชายทำได้ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะได้ครองความเป็นหนึ่งทั้งหมด เพราะในประเภททีมหญิงแข้งสาวแซมบ้าที่นำมาโดยตำนานอย่าง มาร์ทา ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

แต่เมื่อคิดต่อว่าแล้วพวกเขาจะกลับมาได้อย่างไร

ถึงจะรู้ว่ามันง่ายมากครับกับแค่การเก็บชัยชนะให้ได้ และส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้ได้ ก็จะเป็นการปลดล็อกทุกอย่างเองโดยธรรมชาติ แต่เมื่อคิดถึง “สภาพ” ของบราซิลที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้

คำตอบสุดท้ายของผมยังเหมือนกับคำแรกที่เริ่มต้นเรื่องราวในวันนี้

ไม่รู้...

ลูกแม่กิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook