สกู๊ป : "เวนเกอร์" กุนซือตกยุค

“ผมใช้เงินในตลาดซื้อขายนักเตะรอบคอบ เสมือนหนึ่งเป็นเงินของผมเอง” – อาร์เซน เวนเกอร์

ไม่รู้ว่าแฟนๆ “ไอ้ปืนโต” จะดีใจหรือเสียใจดี กับข้อความข้างต้นของบุรุษผู้กุมชะตาของยอดทีมแห่งลอนดอนเหนือมายาวนานกว่า 20 ปี

เรื่องฝีไม้ลายมือ คงไม่มีใครปฏิเสธ ว่า “เจ๊เวง” จัดเป็นหนึ่งในกุนซือแถวหน้าของโลก เป็นระดับ “อ๋อง” เคียงข้างมากับบรรดาโคตรกุนซืออย่าง เฟอร์กี้ ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็น “คู่ปรับแห่งโชคชะตา” หากแต่วันนี้หลายๆอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

กุนซือเลือดใหม่ ฝีมือดี กำเนิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มูรินโญ่, คล็อปป์, เป็ป หรือคอนเต้ ที่น่าสนใจที่สุดคือ ทั้งหมดที่กล่าวมา ย้ายมาฟัดกันในศึกพรีเมียร์ลีกที่จะถึง

จะด้วยความที่มีพื้นฐานการศึกษาด้วยธุรกิจ หรือจะฝังอยู่ในจิตใต้สำนักก็แล้วแต่ เวนเกอร์ จัดเป็นกุนซือที่บริหารจัดการเรื่องเงินๆทองๆได้ดีที่สุดคนหนึ่งในโลกฟุตบอลทุนนิยมอันบิดเบี้ยวใบนี้

อาร์เซนอลเป็นหนึ่งในไม่กี่สโมสรในอังกฤษ หรืออาจจะในโลกด้วยซ้ำ ที่งบดุลประจำปีเป็นบวกแทบจะทุกครั้ง แปลง่ายๆคือ ไม่ใช้เงินเกินตัว มีเท่าไร ใช้เท่านั้น

เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ, กรานิต ชาก้า หรือ มหาเทพอย่าง แดนิอุส เวลเบ็ค ชื่อพวกนี้ถูกซื้อมาในราคาแพงหูฉี่ทั้งนั้น แต่ทั้งหมดทั้งหมดทั้งมวลเพิ่งถูกซื้อในช่วง 2-3 ปีมานี้ เมื่อสโมสรสามารถปลดหนี้ค่าก่อสร้างสนามใหม่ได้เรียบร้อยโดยสมบูรณ์

หากเป็นเมื่อ 10 ปีก่อนยังไม่เป็นไร แต่ตอนนี้นักเตะคนเดียวสามารถมีค่าตัวระดับ 100 ล้านปอนด์ได้ไม่ยาก งบการซื้อขายแต่ละครั้งของบรรดาเศรษฐีแต่ระดับ 1-200 ล้านแทบทุกปี จะทีก็แต่อาร์เซนอลที่ทุ่มน้อยหน่อย

สุดท้ายแล้วแม้เวนเกอร์จะพาทีมไป UCL ได้ทุกปี ลุ้นแชมป์ได้ทุกปี แล้วก็แห้วได้ทุกปี ไม่เว้นปีที่แย่งแชมป์กับทีมอย่างเลสเตอร์

ฤดูกาลนี้จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่สุดสำหรับเวนเกอร์เอง ว่าเขายังเป็นคนที่ใช่สำหรับสโมสรหรือไม่ หรือว่าจริงๆแล้ว เขาได้กลายเป็น “กุนซือตกยุค” ไม่ต่างอะไรกับ จารย์หลุยส์ ที่มีเพียงความสำเร็จในอดีต แต่ไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับโลกฟุตบอลยุคใหม่

แต่ต่างกันแค่ว่า จารย์หลุยส์ ตกยุคในเรื่องแท็คติก หากแต่เวนเกอร์นั้น ผิด ที่ไม่กล้าใช้เงิน เท่านั้นเอง

Kobig