"เมืองฟุตบอลที่ถูกแช่แข็ง"

"เมืองฟุตบอลที่ถูกแช่แข็ง"

"เมืองฟุตบอลที่ถูกแช่แข็ง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาข่าวใหญ่สำหรับหรับคอฟุตบอลลาลีกา สเปน คงหนีไม่พ้น ผลการยื่นอุทธรณ์ของสองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองมาดริด “เรอัล มาดริด” กับ “แอตฯมาดริด”

ในกรณีถูกลงโทษแบนห้ามซื้อขายนักเตะเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากทั้งสองสโมสรละเมิดกฎการย้ายผู้เล่นต่างชาติอายุไม่เกิน 18 ปี

โดยผลปรากฏว่าการยื่นอุทธรณ์ไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า “ไม่ผ่าน”

นั้นหมายถึงว่าทั้งสองทีมจะไม่สามารถซื้อผู้เล่นเข้ามาเสริมทีมนับตั้งแต่ตลาดนักเตะเปิดหน้าหนาวช่วงเดือนมกราคมปีหน้า และช่วงปิดฤดูกาลนี้ จะต้องรอไปจนถึงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมของปี 2018 เลยทีเดียว ยกเว้นทีมฟุตบอลหญิง ฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดของทีมที่ยังซื้อขายนักเตะตามปกติ

อีกทั้งยังถูกปรับเงินด้วย โดยราชันชุดขาวถูกปรับ 360,000 ฟรังส์สวิส (ประมาณ 13 ล้านบาท) และตราหมีถูกปรับ 900,000 ฟรังส์สวิส (ประมาณ 32.4 ล้านบาท) เรื่องเงินเชื่อว่าทั้งสองทีมคงไม่มีปัญหาจ่ายได้อยู่แล้ว

แต่การถูกแบนไม่ให้ซื้อขายนักเตะคือเรื่องใหญ่ แน่นอนว่า 1 ปีอาจจะไม่ใช่ระยะเวลาที่ยาวนานซักเท่าไหร่ เพราะคู่ปรับของทั้งสองทีมอย่าง “บาร์เซโลน่า” ก็เคยโดนโทษแบบนี้ในช่วงปี 2015

และเพิ่งจะพ้นโทษซึ่งส่งผลต่อยอดทีมจากแคว้นกาตาลันพอสมควรโดยเฉพาะความสำเร็จในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก

เรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหากับสองทีมจากเมืองหลางมากกว่า เพราะระบบเยาวชนของทั้งคู่ไม่แข็งแกร่งเหมือน “บาร์เซโลน่า” ทำให้ทีมต้องอาศัยการซื้อนักเตะเก่งๆจากทุกมุมโลกเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งเป็นหลัก

 แม้ว่าสไตล์การซื้อจะต่างกัน “มาดริด” ชอบซื้อนักเตะประเภท “สำเร็จ” แล้วคือเก่งเลยจากทีมอื่น ไม่ต้องมาพิสูจน์ตัวเองหรือมาปั้นอีกถึงจะแพงแค่ไหนก็ตาม ต่างจาก “ตราหมี” ที่มักจะหานักเตะดาวรุ่งมาปั้นจนเก่ง

ถึงแม้ทั้งสองทีมจะเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก แต่ถ้าดูจากการซื้อขายนักเตะในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลเชื่อน่าจะเตรียมใจและเตรียมพร้อมกับการถูกแบนไว้เรียบร้อยแล้ว

เริ่มจาก “มาดริด” ที่ปล่อย “เฆเซ่” กับ “เดนิส เชริเชฟ” ออกจากทีมเท่านั้น พวกแกนหลักในทีมยังอยู่เหมือนเดิมแถมซื้อ “อัลวาโร่ โมราต้า” กลับมาจากยูเวนตุส ได้ “ลูคัส ซิลวา” กับ “ฟาบิโอ โคเอนเทรา” กลับมาจากการให้ทีมอื่นยืมตัว ไม่นับการเรียกดาวรุ่งหลายคนที่ถูกยืมตัวไปกลับมาสู่ทีม บางคนเช่น “มาร์โก อเซนซิโอ” ถูกดันขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่

ขณะที่ “ตราหมี” ใช้เงินมหาศาลถึง 80 ล้านยูโรในการซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทีม มี “เควิน กาเมโร่” กองหน้าจากเซบีญ่า 32 ล้านยูโร “นิโคล่าห์ ไกตัน” จากเบนฟิก้า 25 ล้านยูโร “ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้” จากซัซซูโอโล่ 16 ล้านยูโร “ดิโอโก้ โจต้า” จากปากอส เดอ แฟร์ไรร่าในโปรตุเกส 7.2 ล้านยูโร และไม่ผู้เล่นตัวหลักออกไปเลยซักคน

มาถึงตอนนี้ต้องดูว่าทั้งคู่จะยืนระยะโดยไม่ซื้อนักเตะเข้ามาใหม่ได้หรือไปในอีก 1 ปีข้างหน้า แต่อย่างน้อยๆสีสันในตลาดซื้อขายนักเตะของยุโรปคงขาดสีสันไปพอสมควร โดยเฉพาะการไม่มี “เรอัล มาดริด” ที่เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดเกือบฤดูกาลในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

บางที่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นโอกาสให้ทั้งสองสโมสร โดยเฉพาะมาดริดกลับมาทบทวนถึงการสร้างและปั้นนักเตะเยาวชนของตัวเองอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้ทำอะไรไม่ได้จริงๆ

นี้แหละคือ เมืองที่ถูก “แช่แข็ง” ในเรื่องของฟุตบอลครับ


โดย แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook