รอยเปื้อนบนชุดขาว

รอยเปื้อนบนชุดขาว

รอยเปื้อนบนชุดขาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากดูอันดับบนตาราง ลา ลีกา ในเวลานี้แล้วทีมอย่าง เรอัล มาดริด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะพวกเขายังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้เหนือคู่ปรับอย่าง บาร์เซโลน่า โดยที่ยังไม่แพ้ใครใน 6 นัดแรกของฤดูกาล

แต่การเสมอ 2 เกมติดต่อกันในเกมกับ บีญาร์เรอัล - ซึ่งทำให้ทีมถูกหยุดสถิติการชนะติดต่อกันใน ลา ลีกา เอาไว้แค่ 16 นัด - ก่อนจะโดน ลาส พัลมาส น้องใหม่ที่สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ไล่ตีเสมอในช่วงท้ายเกมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมากำลังทำให้เกิดประเด็น “ร้อน” ขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด

จริงอยู่ว่าการที่ทีมระดับ เรอัล มาดริด (หรือบาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค) จะเสมอ 2 นัดติดต่อกันมันถือเป็น “เรื่องใหญ่”

แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดที่จะเรียกว่าเป็น “วิกฤติ” อะไรขนาดนั้น


ประเด็นใหญ่กว่าที่หลายคนสนใจคือการที่ ซีเนอดีน ซีดาน ตัดสินใจเปลี่ยนตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากสนาม

นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่โรนัลโด้ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากทีมนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ ซานติอาโก เบอร์นาบิว

เรื่องนี้ต่างหากครับที่ “เป็นเรื่อง” ของจริง

ภาพของ CR7 ที่ไม่พอใจกับการถูกถอดออกจากสนามและมีอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดที่ม้านั่งสำรองถูกนำมาขยายความต่อโดยผู้สื่อข่าว และนำไปสู่คำถามในช่วงของการแถลงข่าวหลังจบเกม ซึ่งซีเนอดีน ซีดาน พยายามที่จะ “หยุด” เรื่องเอาไว้แค่ตรงนี้

โดยยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวออกในครั้งนี้เพราะต้องการ “เก็บ” โรนัลโด้ เอาไว้สำหรับเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นเกมสำคัญที่จะพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์


ในคำชี้แจงของอดีตนักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกนั้น โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า “ฟังขึ้น” ครับ

เพราะสถานการณ์ในช่วงที่โรนัลโด้ ถูกเปลี่ยนตัวออกมานั้น เรอัล มาดริด ยังเป็นฝ่ายที่ขึ้นนำอยู่ และโรนัลโด้เองก็ไม่ได้เล่นแย่อะไร เพียงแต่ด้วยสภาพร่างกายที่เพิ่งจะฟื้นตัวกลับมาลงเล่นได้อีกครั้งหลังบาดเจ็บตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร และด้วยวัย 31 ปี บางครั้งก็ควรรู้จักถนอมตัวบ้าง

แต่การที่ถูกเปลี่ยนตัวออกเป็นครั้งแรก โดยที่นักเตะคนนั้นคือ โรนัลโด้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่

คำถามคือหากไม่ใช่ ซีดาน แล้วจะโค้ชคนไหนในโลกที่กล้าจะ “งัด” กับ CR7 ในเรื่องนี้?

บนโลกนี้อาจจะมีเพียงไม่กี่คนครับ เพราะนักเตะอย่างโรนัลโด้ การกระทบกระเทือนแม้เพียงเล็กน้อยนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อมากมาย เหมือนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องกระเด็นจากเก้าอี้โค้ชเรอัล มาดริด ที่เขารอคอยมาตลอดชีวิตเพียงการปฏิเสธที่จะพูดยกย่องโรนัลโด้ว่าเป็นนักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลก


สำหรับ ซีดาน เขาเองเคยอยู่ในสถานะเดียวกับโรนัลโด้มาก่อน และมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับฝ่ายบริหารของสโมสร โดยเฉพาะประธานอย่าง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ การตัดสินใจเรื่องนี้จึงอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่การงานมากนัก

พูดง่ายๆคือซีดานเองก็ “เส้นใหญ่” ไม่แพ้กัน หรืออาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำไป

แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่ต้องทำอะไร

เรื่องนี้ซีดาน ต้อง “ปิดประตู” คุยกับโรนัลโด้ โดยส่วนตัวอีกครั้งครับ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดบรรยากาศที่ไม่พึงประสงค์ภายในทีมขึ้นแน่ และเรื่องนี้เป็น “อันตราย” มากสำหรับทีมที่มีความอ่อนไหวสูงอย่าง เรอัล มาดริด
อย่างไรก็ดีหาก ซีดาน เคลียร์ได้จบ ก็จะเป็นการส่ง “สัญญาณ” ที่น่าสนใจเช่นกัน

สัญญาณดังกล่าวคือการบอกว่าที่ ซานติอาโก เบอร์นาบิวนี้เขาเป็นคนที่ “คุม”

นอกเหนือจากรายของ โรนัลโด้ อีกหนึ่งซูเปอร์สตาร์ที่ส่อแววจะมีปัญหาเหมือนกันคือ แกเร็ธ เบล ที่เริ่มมีกระแสข่าวจากฝั่งสเปนว่า นักเตะเวลส์ “ผิดใจ” กับ ซีดาน และเปเรซ ในเรื่องของการต่อสัญญาฉบับใหม่ที่ยังไม่เรียบร้อยดี

เรื่องของเรื่องคือก่อนหน้านี้ เบล ได้รับ “คำมั่น” ว่าในสัญญาฉบับใหม่ของเขา อดีตนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกจะได้รับสัญญามูลค่าระดับเดียวกับที่ โรนัลโด้ ได้รับ

นอกเหนือจากนั้นคือการที่ เบล จะได้ก้าวขึ้นมาเป็น “ศูนย์กลาง” ของทีมแทนโรนัลโด้ด้วย


แต่ในเกมเสมอกับ บีญาร์เรอัล เมื่อกลางสัปดาห์ก่อน เบล กลับเป็นนักเตะคนแรกที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากทีม ทั้งที่เจ้าตัวคิดว่าเขาทำผลงานได้ดีกว่า โรนัลโด้ หรือ คาริม เบนเซม่า ที่ได้อยู่ในสนาม

GOL - สื่อในสเปน รายงานว่า เบล เหนื่อยหน่ายกับสถานการณ์ที่เขาต้อง “เสียสละ” เช่นนี้ตลอด และยังมีความบาดหมางกับ โรนัลโด้ ในสนามอีกครั้งจากการที่ไม่ยอมผ่านบอลให้แก่กัน ซึ่งทำให้ทั้งสองไม่มองหน้ากัน

ในกระแสข่าวของเบล - ฟังแล้วยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ โดยเฉพาะเรื่องของความขัดแย้งกับโรนัลโด้ ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องรุนแรงอะไรขนาดนั้น เพราะต่อให้ไม่ชอบหน้ากันจริงๆ นักเตะทั้งสองมีความเป็นมืออาชีพมากพอที่จะรักษาหน้าของกันและกันและรักษาทีมสปิริตของทีม

แต่เรื่องของ “ศักดิ์ศรี” ที่ลงลึกในรายละเอียดถึงเรื่องของมูลค่าเงินที่ได้รับในสัญญา หรือการต้องเป็นฝ่ายถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนนั้น เป็นเรื่องเซนซิทีฟที่มีความน่ากังวล

บางที - การเปลี่ยนตัว โรนัลโด้ ออกจากสนามก็อาจจะเป็นการแสดงออกว่าเขาพร้อมจะเปลี่ยนใครออกก็ได้ถ้าจำเป็นหรือต้องการ

อย่างไรก็ดีในสถานการณ์ที่จู่ๆก็มาคุแบบนี้ของมาดริด จะพิสูจน์ฝีมือในการบริหารทีมของ ซีดาน ได้เป็นอย่างดี

เพราะบางทีสำหรับทีมระดับ “โลส บลังโกส” เรื่องที่น่าปวดหัวมากที่สุดอาจไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะคู่แข่งในสนาม

แต่เป็นการรักษาบรรยากาศและควบคุมนักเตะระดับเวิลด์คลาสพวกนี้ให้อยู่ใต้อาณัติ

นิทานลูกหนัง by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook