ตราหมีมาแล้ว!!!

ชัยชนะ 2-0 ที่เมสตาย่า สเตเดี้ยมเหนือเจ้าถิ่น “บาเลนเซีย” ของขุนพลตราหมี “แอต.มาดริด” ทำให้ลูกทีมของ “ดิเอโก้ ซิเอโมเน่” ขึ้นมาเป็นจ่าฝูงชั่วคราว หรืออาจจะไม่ชั่วคราวถ้าเกิด “เรอัล มาดริด” กับ “บาร์เซโลน่า” ที่ลงเตะดึกไม่ชนะคู่แข่ง

แน่นอนว่าฟุตบอล “ลาลีกา สเปน” ปีนี้คงไม่ต่างจากปีที่ผ่านๆมา มีเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้นคือ “เรอัล มาดริด” “บาร์เซโลน่า” และ “แอต.มาดริด” ในการลุ้นแชมป์ลีก นอกนั้นไม่รับพิจารณาเพราะระดับของฟุตบอลต่างกันเกินไป

ทั้ง 3 ทีมถือว่าศักยภาพของทีมไม่ต่างกัน รู้ไส้รู้พุงกันอย่างดี อย่างไรก็ตามถ้าเปรียบเทียบเรื่องของตัวผู้เล่นน่าจะเป็นนักเตะตราหมีที่ดูเป็นรองกว่าใครเพื่อน เอาแค่แนวรุกราชันชุดขาวมี “บีบีซี” หรือบาร์ซ่าที่มี “เอ็มเอสเอ็น”

แม้ว่าทีมจะมี “อ็องตวน กรีซมันน์” “เฟร์นันโด ตอร์เรส” และ “เควิน กาเมโร่” ที่เพิ่งซื้อเข้ามาในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวสามารถปรับตัวพร้อมสร้างประโยชน์ในแนวรุกคอยช่วย “กรีซมันน์” กับ “ตอร์เรส” เป็นอย่างดี

แต่สิ่งที่ยอดทีมแห่งบิเซนเต้ กัลเดล่อนเหยนือกว่าคือเรื่องของ “โค้ช” ที่ “ดิเอโก้ ซิเอโมน่” เหนือกว่า ทีมแบกโค้ชอย่าง “หลุยส์ เอนริเก้” ของบาร์เซโลน่า กับ พี่ตำนาน “ซีเนอดิน ซีดาน” ของเรอัล มาดริด ซึ่งทั้งคู่ถูกมองว่านักเตะภายในทีม “โค-ตรเก่ง” อยู่แล้ว บางทีปล่อยให้เล่นเองยังได้เลย

สำหรับช่วงต้นฤดูกาลแฟนบอลของทีมอาจจะเซ็งไปบ้างเพราะ 2 นัดแรก ทำให้แค่เสมอกับน้องใหม่ “อลาเบส” 1-1 และบุกไปเสมอ “เลกาเนส” 0-0 ทั้งๆที่ทีมควรจะเก็บชัยชนะรวดพร้อม 6 คะแนนเต็ม แต่หลังจากนั้นทีมก็ไม่พลาดเลย นอกจากการบุกเสมอ “บาร์เซโลน่า” 1-1 ที่ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในฟุตบอล “แชมเปี้ยนลีก” ก็สามารถบุกปราบ “พีเอสวี ไอโฮเฟ่น” 1-0 และดับซ่าพี่เสือ “บาเยิร์น มิวนิค” 1-0

มาถึงตอนนี้สไตล์บอลของ “ซิเอโมเน่” ที่เรารู้จักเป็นยังไง ก็เป็นแบบนั้นเหมือนเดิม มีจุดเด่นที่แผงมิดฟิลด์สามารถขับเคลื่อนเกมขึ้นไปลุ้นประตู บวกกับความเฉียบคมของแนวรุกที่ไม่ต้องการโอกาสมากมาย ขอแค่จังหวะเดียวในเกมก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย โดยเฉพาะ “กรีซมันน์” กองหน้าตัวเก่งประจำทีมที่ซัดไปแล้ว 6 ประตู

ถ้าดูเผินๆ หลายคนอาจจะมองว่าเกมของตราหมีมีแค่มิติเดียว ไม่น่าหวือหวาตื่นเต้นเหมือนดู “บาร์ซ่า” กับ “มาดริด” แต่ถ้าดูแบบละเอียดต้องซูฮกให้กับ “ซิเอโมเน่” ที่ละเอียดมาก ยิ่งเกมโต้กลับที่รวดเร็ว “กาบี้” กับ “โกเก้” เข้าในหน้าที่ของตัวเองในการเชื่อมเกมเป็นอย่างดี หรือ “ซาอูล นิเกซ” ที่มีทีเด็ดเรื่องลูกยิงไกลอีกต่างหาก

 ในส่วนเกมรับก็เหนียวแน่น ไม่ได้ก็ไม่เสียประตูไว้ก่อน มิเช่นนั้นทีมคงไม่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกตอนนี้แค่ 2 ประตูหรอกถึงจะไม่มี “ดิเอโก้ โกดิน”ก็ตาม เพราะ “สเตฟาน ซาวิซ” กับ “เฟลิเป้ หลุยส์” สองเซนเตอร์ของทีมตอนนี้มีความแน่นอน ไม่มีการเล่นในจังหวะที่เสี่ยงเป็นอันขาด ลูกไหนเตะทิ้งได้ก็เตะเลยไม่เสียดาย

ที่สำคัญ “ความกระหาย” และ “ความมุ่งมั่น” ของทั้งนักเตะและโค้ชที่ผิดหวังมาจากฤดูกาลที่แล้วที่ได้แค่รองแชมป์ลีกกับแชมเปี้ยนลีก ส่งผลให้ขุนพลตราหมีมีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม เรียกว่า “ครบเครื่อง” ทั้งเกมรุก “รัดกุมเหนียวแน่น” ในเกมรับ ถึงจะ “ไม่หวือหวา” ก็ไม่เป็นไร

สุดท้ายเชื่อว่าถ้าเกิด “มาดริด” กับ “บาร์ซ่า” ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่แบบนี้ เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ปีนี้จะเป็นทีของ “ตราหมี” อีกครั้ง เพราะ ตราหมีมาแล้ว!!!! เดินเครื่องพร้อมตะปปเหยื่อครับ

แบงค์ พิพัช