"เรือใบ"ขนหมู!!!!!!

"เรือใบ"ขนหมู!!!!!!

"เรือใบ"ขนหมู!!!!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ระฆังส่งสัญญาณของฟุตบอลอังกฤษเริ่มต้นหนนี้ได้ดังมาก..........

ดังสนั่นจริง ๆ เนื่องจากตลอดเกมนั้นต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รังสรรค์เกมออกมาได้อย่างถึงใจพระคุณพระเดชอย่างแท้จริง

การแข่งขันฟุตบอลประเพณีเพื่อการกุศลของประเทศอังกฤษ “คอมมูนิตี้ ชิลด์” ที่นิว เวมบลีย์ เป็นการโคจรมาปะทะกันของสองทีมดังจากเมืองแมนเชสเตอร์

ถือเป็นเกม “ชิลด์ ดาร์บี้” ครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์

แต่น่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้

บอกตามตรงว่า ไม่ได้ดูเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ หรือ แชริตี้ ชิลด์ สนุกแบบนี้มาพอสมควรแล้ว ส่วนสำคัญก็คือการเจอกันของสองทีมจากเมืองเดียวกันที่ปีก่อนต้องบอกว่า “เคี้ยวกันไม่ค่อยลง”

ศักดิ์ศรีมันค้ำคอกันจนก้มหน้าแทบไม่ได้

อย่างที่เห็นไปว่า เกมเดือดตั้งแต่เปิดฉาก มีใบเหลืองปลิวว่อนถึง 4 ใบ ก่อนที่จะมีประตูแรกของเกม

ซิตี้ นำก่อนจากการโขกของ โจลีออน เลสค็อตต์ นาทีที่ 36 จากนั้นก่อนหมดเวลานาทีเดียว เอดิน เซโก้ หัวหอกค่าตัวแพงยิงไกล ดาวิด เด เกอา โกล์ใหม่ผี พุ่งรับไม่ทันทั้งที่ลูกไม่ห่างตัวเท่าไหร่ ทำให้ ซิตี้ ออกนำในครึ่งแรก 2-0

ไม่มีใครคิดหรอกครับว่า ยูไนเต็ด จะกลับมาได้ขนาดนี้

แต่หลังจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำนั่นคือเปลี่ยนมันรวดเดียว 3 ตัวรวด และสามารถพลิกเกมให้กลับมาคว้าชัยได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ส่วนหนึ่งก็คือ ซิตี้ นั่นแหละ

การประกบตัวที่ห่วยมากจนเสียประตูตีไข่แตกอย่างรวดเร็วให้กับ คริส สมอลลิ่ง ก่อนที่จะโดนการเลี้ยงบอลเข้าใส่แบบซึ่ง ๆ หน้า และมีโชคเข้ามาช่วยในจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ จงใจจะไขว้ให้ นานี่ เห็น ๆ

แต่บอลมาเข้าทางของ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ แล้วก็แตะต่อให้พอดิบพอดีเป๊ะ!

สุดท้ายที่มันไม่มีอะไรแน่ ๆ จากจังหวะที่สกัดจากหน้าประตูตัวเองของ เวย์น รูนี่ย์ บอลลอยโด่งขึ้นมาตกลงที่จุดเกรงใจระหว่าง แวงซ็องต์ ก็อมปานี กับ กาแอล กลิชี่

ปกติแล้วลูกนี้ กลิชี่ ต้องเล่น แต่ดันยืนมองว่า “ไอ้ก็อม...มึงเข้ามาเล่นดี๊”

ก็เลยเสร็จ นานี่ ที่เลี้ยงเดี่ยวไป จนมีเวลาสามารถคิดถึงเมนูที่จะไปกินกับเมียตอนเย็นได้อย่างสบาย และก็ยิงเข้าไปได้อย่างนิ่มๆ นำทัพ “ปิศาจแดง” พลิกกลับชนะสุดมันส์ 3-2 คว้าแชมป์แรกของปีนี้ได้สำเร็จ

หลายคนยังงง ๆ อยู่ว่า ที่สกอร์มันออกมาเป็นแบบนี้เพราะว่า ยูไนเต็ด ดีจริง หรือเป็นเพราะว่า ซิตี้ ห่วยกว่ากันแน่

คำตอบก็คือทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ

ยูไนเต็ด มีมาตรฐานการเล่นของตัวเองอยู่แล้ว ที่สามารถจะยกระดับความสามารถของเกมให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้เวลาไม่มาก ในขณะที่ ซิตี้ มีปัญหาชัดเจนในเรื่องของทีมเวิร์ก

อย่างที่คาดการณ์กันไว้ว่า ถ้าจะดูความวูบวาบมันอยู่ที่ซิตี้ แต่ความเด็ดขาดและเป็นแบบเป็นแผนอยู่ที่ยูไนเต็ด

บทสรุปออกมาเราได้เห็นแล้วว่า ซิตี้ มีปัญหาจริงๆ ซึ่งมันเป็นปัญหาที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมาเอง นั่นคือนักเตะดีๆ มีอยู่มากมายจนล้นทีมแทบจะเหยียบกันตาย แต่สิ่งที่เป็นปริศนาก็คือ พวกเขาเล่นเพื่อทีม เล่นเพื่อสโมสร

หรือว่าเซ็นสัญญาเพื่อเงินกันแน่


“เรือใบ”ลำนี้มันขน “หมู”มาทั้งลำหรืออย่างไร ดาวดังเยอะดีแต่ไร้ซึ่งสปิริต ไม่อย่างนั้น กลิชี่ ที่เพิ่งย้ายมา อย่างน้อยมันก็น่าจะวิ่งไล่ลูกนั้นบ้าง ไม่ใช่ยืนแคะขี้ฟันรอชะตากรรมอย่างเดียว พร้อมกับช่วยปกปิดความผิดพลาดง่ายๆ ของ ดาวิด เด เกอา โกล์ใหม่ผีที่ทะเล่อทะล่าเสียสองประตูที่ "ไม่ยาก" หากเป็น เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อีกด้วย

มีคนบอกว่า นีล วอร์น็อค ผู้จัดการทีมควีนส์ปาร์ค จะเป็นกุนซือพรีเมียร์ลีกคนแรกที่จะโดนไล่ออกในปีนี้ แต่ถ้าหากแก้ไขเรื่องการ “ทับเส้น” หรือว่า “สปิริต” ไม่ได้ ดีไม่ดีคนแรกที่จะต้องไป

อาจจะเป็นผู้ชายที่ชื่อ โรแบร์โต้ มันชินี่!

บี แหลมสิงห์

ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์  may i come in plese

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook