อาร์เซโลน่า....ย้ายมาย้ายไป!

สาวกของ “เดอะ กันเนอร์ส” คงจะเจ็บจี๊ดเข้าที่กลางใจและลำไส้ใหญ่ไม่ใช่น้อย!

“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล มีอันต้องสูญเสียนักเตะที่สำคัญที่สุดอีกคนในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ ออกไป นั่นคือ ฟรานเชส ฟาเบรกาส

ย้ำกันอีกครั้งว่า อาร์เซนอล ได้เสียกัปตันทีมหนุ่มกระทิงอย่าง เชส ไปเรียบร้อยแล้ว

เป็นอีกทีที่ อาร์เซนอล ของ อาร์แซน ต้องเสียนักเตะกำลังสำคัญของทีมออกไป

บิ๊กเนมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปาทริค วิเอร่า, แอชลี่ย์ โคล, เธียร์รี่ อองรี, โรแบร์ ปิแรส, โซล แคมป์เบลล์, เดนนิส เบิร์กแคมป์ เป็นต้น

บางคนก็ตามวัย ส่วนบางคนนั้นก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกันว่า อายุเลข 3 นำหน้าแค่เนี้ย มาขายผมออกไปทำไม

ที่สำคัญ เชส คือนักเตะคนสุดท้ายที่เหลือมาจากชุด “ไร้พ่าย” เมื่อ 7 ปีที่แล้ว

ทำไม เวนเกอร์ ถึงได้ไม่อยากจะปล่อย เชส ออกไปจากทีม ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก และป่านนี้ก็แทบจะอกแตกเมื่อเห็นภาพ เชส จุมพิตลงที่สัญลักษณ์ของบาร์ซ่า

อย่างที่ทราบกัน เวนเกอร์ ต้องการที่จะสร้างให้ เชส เป็น “แกนนำรุ่นใหม่” ของยังกันส์ ณ กันเนอร์ส หลังจากสิ้นยุคทองของ วิเอร่า, มานู เปอตีต์, จิลแบร์โต้ ซิลวา และ เอดู

ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้ามอบตำแหน่งกัปตันทีมให้ตั้งแต่ถึงวัยเกณฑ์ทหาร

เชส คือนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมปืนใหญ่ ที่ได้ลงสนามในเกมชุดใหญ่ นั่นคือดวลกับ ร็อทเธอร์แฮม ในวันที่ 23 ตุลาคม 2003 ในเกมลีกคัพ หลังจากเซ็นสัญญามาอยู่กับ อาร์เซนอล เมื่อ 11 กันยายนปีเดียวกัน

ตอนประเดิมสนามตอนนั้น เชส อายุแค่ 16 ปี 177 วัน

พร้อมกับใส่เบอร์ 57 ลงสนาม

จากนั้น เชส ได้ลงเล่นในเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 2005 ก่อนจะปราบ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยการยิงจุดโทษ และนั่นเป็นโทรฟี่หนึ่งเดียวที่ เชส คว้ามาครองได้ในชุดอาร์เซนอล

เชส ต้องผิดหวังในนัดชิงชนะเลิศ ไม่ว่าจะเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และคาร์ลิ่ง คัพ จนกระทั่งมาเป็นกัปตันทีมแทนที่ วิลเลี่ยม กัลลาส เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2008

ก่อนจะนำทัพเฉียดไปเฉียดมากับแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 2 ครั้ง และเป็นแค่รองแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นจุดหักเหของฤดูกาล ทำให้พลาดทุกแชมป์ทั้งที่มีลุ้นอยู่ถึง 4 รายการ

นาทีนี้ เชส ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า อีกครั้ง โดยจะไปประสานพลังกับ ลิโอเนล เมสซี่ และเจราร์ด ปีเก้ ที่เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ในทีมเยาวชนเมื่อ 9 ปีก่อน

ยิ่งไปกว่านั้น เชส จะได้ไปเล่นฟุตบอลภายใต้การโค้ชของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เป็น “ไอดอล” ของเขาอีกด้วย

น่าสนใจทีเดียวที่ อาร์เซนอล กับ บาร์เซโลน่า มักจะซื้อขายนักเตะกันไปมา ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือว่าเผลอใจ

ก่อนหน้านี้ มานู เปอตีต์, ซิลวินโญ่, โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์,  มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, เธียร์รี่ อองรี และ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ก็ย้ายไปอยู่ที่คัมป์นู มาแล้ว

สังเกตมั้ยครับว่า แต่ละคนที่จากปืนไปซบบาร์ซ่า จะเป็นประเภทไม้ใกล้ฝั่งทั้งนั้น ยกเว้นแค่ เชส

ผิดกับเวลาที่ บาร์ซ่ามาปืน ส่วนใหญ่จะเป็นดาวรุ่งจาก “ลา มาเซีย” ทั้งนั้น

เริ่มจาก เชส ปี 2003 ต่อด้วย ฟราน เมริด้า ในตำแหน่งมิดฟิลด์ เมื่อปี 2005, อิกนาซี่ มิเกล กองหลังเมื่อปี 2009, จอห์น มิเกล โทรัล ฮาร์เปอร์ กองกลางที่เพิ่งเซ็นเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 16 ปี และล่าสุดคือ เอ๊คตอร์ เบลเลริน แบ็กขวาวัย 16 ปี เช่นกัน เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมนี่เอง

คลาสสิกดีครับ คลาสสิกดี

ไม่มีอีกแล้วที่จะเป็นแบบนี้ อาร์เซนอล กับ บาร์เซโลน่า ต่างฝ่ายก็ต่างควักกันไปควักกันมา เมื่อเป็นแบบนี้โทษใครไม่ได้

ทีใคร...ทีมัน!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ may i come in please