สกู๊ป : "เรือใบ" อย่า "พลาดเอง"

สกู๊ป : "เรือใบ" อย่า "พลาดเอง"

สกู๊ป : "เรือใบ" อย่า "พลาดเอง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สืบเนื่องจากแมตช์บุก "คัมป์ นู" แล้วพ่ายยับถึง 0-4 ของแมนฯ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ได้สร้างคำถามสงสัยถึงวิธีการทำทีมล่าสุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

ซึ่งก็ไม่แปลกครับหากเทียบกับ 3 แมตช์ก่อนหน้านี้ที่ไม่ชนะเลย ไล่จากเสมอเซลติก 3-3, แพ้สเปอร์ส 0-2 และ เสมอเอฟเวอร์ตัน 1-1

เรียกได้ว่า 4 แมตช์เต็มๆ หลังชนะรวด 10 นัดแรกของฤดูกาล แมนฯ ซิตี้ ในขณะนี้ไม่ชนะใครก่อนเกม "ซูเปอร์ซันเดย์" กับเซาแธมป์ตัน

หากจะมีนัดที่ 5 ติดต่อกันจะถือว่าเป็น "สัญญาณอันตราย" อย่างยิ่งว่าเกิดอะไรขึ้นกับทีมเรือใบสีฟ้าทีมนี้!

โดยจากทั้ง 4 เกมข้างต้น น่าจะกล่าวได้ว่ามี 2 นัด ที่จริงๆแล้วทีมเรือใบสีฟ้า เล่นได้แบบสมควรแพ้ หรือไม่ชนะจริงๆ

นั่นคือเกมเสมอเซลติก และแพ้สเปอร์ส

นอกนั้นกับเอฟเวอร์ตันที่ยิงจุดโทษพลาดกัน 2 หนในเกมเดียว หรือล่าสุดกับบาร์เซโลน่า ผมมองว่า "โชคชะตา" ดูจะใจร้ายกับซิตี้มากเกินไป

ผมเองจำข้อเขียนตัวเองได้ครับที่เคยบอกว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่มี "แพลน B"

และจากเกมโดนเซลติกค้นพบ "พิมพ์เขียว" ด้วยสไตล์ "เพรสซิ่งสูง" และบีบแดนบนตั้งแต่ เคลาดิโอ บราโว่ ซึ่งสเปอร์สก็ใช้วิธีการเดียวกัน

สถานการณ์มันบ่งบอกค่อนข้างชัดเจนว่า ซิตี้มีปัญหาตอนเจอเกมเพรสซิ่งลักษณะดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งก่อนหน้านี้ที่มัก "รับต่ำ"

ทำให้พวกเค้ามีเวลาเซ็ตบอลจากแดนหลังที่มีตัวออก "บอลแรก" ดีๆ อย่าง จอห์น สโตนส์ และสามารถสร้างเกมครองบอล ต่อบอล แบบที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดีครับ จะด้วยความบังเอิญ หรือจริงๆแล้ว "มาตรฐานฟุตบอล" ของเป๊ป กับแมนฯ ซิตี้ด้วยนั่นแหละ บวกกับการกลับมาของ เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งแต่แมตช์เอฟเวอร์ตัน

ตามด้วยบาร์เซโลน่าที่แมนฯ ซิตี้ สร้างรูปแบบการเล่นที่ดีได้

เพียงแต่ "ผลงาน" ไม่เป็นใจ เฉพาะอย่างยิ่งกับเกมเยือนคัมป์ นู ที่ใครได้ชมเพียงไฟนอลสกอร์คงคิดว่า ซิตี้ ห่วยบรม และชื่นชมเมสซี่ ที่ยิงแฮตทริกถล่ม 4-0 ได้

แต่ความจริงก็คือ แทบทุกประตูเกิดจากความผิดพลาดส่วนบุคคลที่แก้ไขได้ หรือไม่สามารถ Coaching ได้ด้วยโค้ชคนใดในโลก

ไม่ว่าจะลื่นล้ม, คืนหลังไม่ดี, จ่ายบอลเสีย, โกล์ออกมาเล่นบอลแล้วพลาดก่อนทำแฮนด์บอลโดนไล่ออก

ทุกประเด็นมีส่วน และเป็นปัจจัยหลักทำให้ "เกมเปลี่ยน"

นอกเหนือจากนี้คือ ซิตี้มีโอกาสทำประตูได้ทั้งตอน 11 คนเท่ากัน และตอนบราโว่โดนไล่ออกแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้ พลาดนิด พลาดหน่อย เช่น สโตนส์ เขกถากเสา

แน่นอนครับกับเวที UCL หากมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ หรือหากพลาดเองง่ายๆ จะโดน "ลงโทษ" แบบหนักหนาสาหัส

เพราะคุณภาพฟุตบอล UCL นั้นสูง ความผิดพลาดที่อาจไม่โดนลงโทษในลีกจะ "โดนเละ" ที่นี่

ทั้งนี้ความผิดพลาดอาจไม่ใช่แค่เกมรับเท่านั้น แต่ประเด็นมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ เช่น กุน อเกวโร่ พลาดจุดโทษแล้ว 4 จาก 8 ครั้งล่าสุด รวมเกมเอฟเวอร์ตันที่เดอ บรอยน์ ก็พลาด

มันไม่ควรจะเกิดขึ้น!

ครับ การไม่ชนะ 4 เกมติด, การพลาดจุดโทษ, การเสียประตูง่ายๆ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อความมั่นใจ

มองในแง่ดี ผมยังมั่นใจว่า เป๊ปจะยังสั่งลูกทีมไม่ว่านัด "รีแมตช์" กับบาร์ซ่าในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า หรือวันอาทิตย์นี้กับเซาแธมป์ตันให้เล่นฟุตบอลเหมือนเดิม

หรือยึด "แพลน A" แพลนเดียวที่มีนั่นแหละต่อไป

แต่ต้องลดความ "ผิดพลาด" ทั้งเกมรุก เกมรับ ส่วนบุคคลออกไปให้ได้ และรีบฟื้นคืนความมั่นใจกลับมาให้ได้

ข้อดีคือ เป๊ปเป็นคนมั่นใจ และจะยังคงเดินหน้าให้ บราโว่ เล่นแบบนี้ รวมถึงกองหลัง, กองกลาง และกองหน้าเล่นแบบนี้ต่อไปแน่ๆ

ต่างจากกุนซือบางคนที่อาจออกลูกลังเลกับปรัชญาตัวเอง

ครับ ฟุตบอลแม้จะยิงไม่ได้ แต่หากไม่พลาดเอง หรือทำอะไร "หวือหวา" เกินจริงก็คงจะไม่เสียประตู และไม่แพ้เป็นอย่างน้อย

การหยุดสถิติ "สะดุด" ผมว่า ไม่ใช่ประเด็น ตราบใดที่ "คุณภาพ" ทุกอย่างยังคงอยู่

เหตุผลเรื่องการโดน "จับทาง" ได้ไม่น่าจะใช่ จากภาพเหตุการณ์ 2 นัดล่าสุดที่เป็นเพราะพลาดเองมากกว่า

งานนี้จึงไม่มีใครจะเหมาะเท่าเซาแธมป์ตันของ คลอด ปูเอล ที่ไม่แพ้ใครมา 7 เกม จะเดินทางมาให้แมนฯ ซิตี้ เรียกขวัญกำลังใจกลับคืน

และชนะเป็นนัดแรกในรอบ 5 เกมได้แล้วล่ะครับ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ สกู๊ป : "เรือใบ" อย่า "พลาดเอง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook