สกู๊ป : ยุคใหม่ "เลอ กลาซิกิ้"

สกู๊ป : ยุคใหม่ "เลอ กลาซิกิ้"

สกู๊ป : ยุคใหม่ "เลอ กลาซิกิ้"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงดึกคืนวันอาทิตย์นี้ ฟุตบอลลีก เอิง ฝรั่งเศส มีคู่สำคัญระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว นั่นคือการพบกันระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ โอลิมปิก มาร์กเซย

การพบกันของคู่อริอันดับหนึ่ง ในลีกสูงสุดแดนน้ำหอม เรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “Le Classique” ภาษาไทยอ่านว่า “เลอ กลาซิกิ้”

ในแง่ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ปารีส คือตัวแทนของทางเหนือ ส่วนมาร์กเซย อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ แน่นอนล่ะว่า คนภาคเหนือ มักจะไม่ถูกกับคนภาคใต้

เรื่องของฟุตบอลก็เช่นกัน ศึกสิงห์เหนือ-เสือใต้ แห่งฝรั่งเศส นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดุเดือด เข้มข้นทุกครั้งที่เจอกัน ทั้งในสนามและนอกสนาม แถมมีเรื่องเล่าให้ได้กล่าวถึงมากมายก่ายกอง

แต่นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา สถานะของทั้งสองสโมสรก็เปลี่ยนไป ตามยุค ตามสมัย

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จากทีมที่มีหนี้สินพะรุงพะรัง ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น วันหนึ่งก็เหมือนฟ้ามาโปรด เมื่อส่งผู้ช่วยเหลือมาจากแดนอาหรับ กลุ่มทุนจากกาตาร์เข้าเทคโอเวอร์สโมสรในปี 2011 เปลี่ยนสถานะของทีมให้เป็นทีมที่รวยที่สุด ไม่ใช่แค่ในฝรั่งเศส แต่เป็นทีมที่รวยที่สุดทีมหนึ่งของโลก

เปแอสแช ทำในสิ่งที่มาร์กเซย เคยทำเมื่อ 20 ปีก่อน พวกเขาไล่กว้านซื้อนักเตะสตาร์เข้าสู่ทีมแบบไม่เกรงใจ ทั้งติอาโก้ ซิลวา, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เอเซเกล ลาเวซซี่, ดาวิด ลุยซ์, เอดินสัน คาวานี่ และอีกมากมาย

แม้แต่เดวิด เบ๊คแฮม ตำนานทีมชาติอังกฤษ ยังถูกดึงดูดให้มาจบชีวิตอาชีพนักเตะที่นี่ บวกกับกุนซือระดับพระกาฬของวงการอย่างคาร์โล อันเชล็อตติ

 

นี่มันถอดแบบมาร์กเซย ในอดีตชัดๆ

ด้วยพลังอานุภาพของเงินจากโดฮา เปแอสแชกำลังสร้างยุคสมัยที่ไม่อาจจะโค่นล้มได้ ความร่ำรวยของพวกเขายิ่งเพิ่มความหมั่นไส้ให้เพื่อนร่วมลีกอีกเป็นทวีคูณ ทั้งลีกหรืออาจจะทั้งโลก ตอนนี้น่าจะมีเพียงโมนาโก ที่กำลังทรัพย์และความบ้าเลือดพอจะเปรียบมวยกันได้

แต่ไม่ว่ายักษ์แห่งปารีส จะทุ่มเงินมหาศาลขนาดไหน พวกเขาก็ยังไปไม่ถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนที่คู่ปรับอย่างมาร์กเซย เคยทำได้เมื่อปี 1993 อยู่ดี

ผลงานของโลร็องต์ บล็องก์ ที่พาทีมจากปารีส ได้ 3 แชมป์ในประเทศ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ไม่เพียงพอ ที่จะได้ทำงานในถิ่นปาร์ก เดอ แปรงส์ ต่อไป

อูไน เอเมรี่ ที่พาทีมเซบีย่า ได้แชมป์ยูโรป้า ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน เข้ามาสานฝัน ของมหาเศรษฐีชาวกาตาร์

ช้าก่อน... ถ้าใครคิดว่า เปแอสเช จะยังครองความยิ่งใหญ่ แต่เพียงผู้เดียว (หรืออาจจะรวมถึง โมนาโก ด้วย) กรุณาอ่านย่อหน้าต่อไป

ล่าสุดของล่าสุด เดือนตุลาคม 2016 คู่ปรับตลอดชาติอย่าง มาร์กเซย ก็เข้าสู่ยุค “สามล้อถูกหวย” กับเขาเหมือนกัน เมื่อ แฟรงค์ แม็คคอร์ท เจ้าสัวจากสหรัฐอเมริกา ได้จัดการฮุบสโมสรแล้วเรียบร้อยด้วยมูลค่ากว่า 45 ล้านยูโร

สืบเนื่องจากเมื่อซีซั่นที่แล้ว แฟนบอลของโอแอ็มบางส่วน ได้รวมตัวกันประท้วง มาร์การิต้า หลุยส์-เดรย์ฟุส เจ้าของสโมสรสาวสวยคนปัจจุบัน โดยเหล่าสาวกอุลตร้า ต่างรู้สึกไม่พอใจที่นักธุรกิจสาวรายนี้่ เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าที่จะทุ่มเทเพื่อทีม

นั่นทำให้ในซีซั่นนี้ มีการเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และก็เป็นผล แม็คคอร์ท เศรษฐีชาวมะกันได้เข้าซื้อสโมสรแล้ว และจะบริหารทีมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

โดยมหาเศรษฐีชาวมะกัน ได้แถลงหลังการครอบครองโอแอ็มว่า “ในวันนี้การเดินทางครั้งใหม่ ที่เต็มไปด้วยเกียรติประวัติอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พวกเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อพาสโมสรสุดคลาสสิกนี้กลับสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่อีกครั้ง”

ว่ากันว่านับจากนี้ แม็คคอร์ท มีแผนที่จะลงทุนเงินกว่า 180 ล้านปอนด์ให้กับสโมสรในอีก 4 ปีข้างหน้าโดยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์กับ เปแอสเช ให้ได้

นัดล่าสุดที่ทั้งสองทีมพบกัน เป็นนัดชิงชนะเลิศ เฟร้นช์ คัพ เป็นเปแอสเช เอาชนะมาร์กเซยไปได้ 4-2 ส่วนผลงานในลีกเอิง นั้น ก็เป็นยักษ์จากปารีส ที่มีชัยด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งเหย้า-เยือน สถิติรวม 3 นัด ที่ทั้งคู่พบกันเมื่อฤดูกาลก่อน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงคนเดียวถึง 4 ประตู บทสรุปฤดูกาลที่แล้ว เปแอสเช ได้แชมป์ มาร์กเซย ได้แค่อันดับ 13

สำหรับผลงานในฤดูกาลนี้ ก่อนที่ทั้งสองทีม จะมีโปรแกรมพบกัน ในศึกกลาซิกิ้ ในลีกเอิง ครั้งที่ 75 เปแอสเช อยู่รองจ่าฝูง ส่วนมาร์กเซยอยู่อันดับ 12

สถิติการพบกันที่ผ่านมาทั้งหมด 89 ครั้ง ฟากปารีส มีสถิติเหนือกว่า ชนะไป 37 นัด มาร์กเซยได้เฮ 32 นัด ที่เหลืออีก 20 นัด เสมอกัน

แต่ถ้านับเฉพาะเกมลีกเอิง 74 ครั้งที่ผ่านมา เป็นมาร์กเซย ที่ทำได้ดีกว่า ชนะ 31 ครั้ง เปแอสเช มีชัย 26 ครั้ง และเสมอกันอีก 17 ครั้ง

แต่ไม่ว่าสถานะของทั้งสองทีมจะกลับไปกลับมาแบบไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ บรรยากาศและอารมณ์ร่วมเมื่อยามพบกันไม่เคยลดน้อยถอยลงไป ยิ่งความร่ำรวยและความสำเร็จ ของทีมจากเมืองหลวงมีมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้พวกมาร์กเซย อยากจะโค่นล้มมากเท่านั้น

“เลอ กลาซิกิ้” สมรภูมิเดือด ของลีกแดนน้ำหอม ยุคทุนนิยม ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ บัดนี้

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ สกู๊ป : ยุคใหม่ "เลอ กลาซิกิ้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook