ได้เวลา "มูรินโญ่" กลับบ้าน!
แล้วในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง...หลังโดนปลดออกจากตำแหน่งแบบเจ็บปวดเมื่อซีซั่นก่อน กาลเวลาผ่านไปจวบจนจะครบปี...ในที่สุด "โชเซ่ มูรินโญ่" ก็ได้ฤกษ์คืนสู่เหย้าเสียที!
ในอดีตเรามักเห็น "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" กับฉากสีฟ้าข้างหลังทว่าขึ้นชื่อว่าโลกลูกหนังมักมีอะไรให้เซอร์ไพร์สเสมอ ใครเล่าจะจินตนาการได้ว่า มูรินโญ่ ที่เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของ เชลซี หนึ่งปีให้หลังกลับกลายร่างสวมเสื้อที่มีโลโก้ตราสามง่ามของ "ปีศาจแดง"
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องบุกออกเยือนรังเก่าที่ใช้ชีวิตมากว่า 2 ช่วงยุคสมัย แต่ถึงตรงนี้ชีวิตก็ต้องดำเนินกันต่อไป ทีม "สิงห์บลูส์" กลายเป็นอดีตเป็นปัจจุบันอย่าง "แมนฯ ยูไนเต็ด" ที่ก้าวมาอยู่ในใจแทน
ซึ่งในตอนนี้ มูรินโญ่ ก็พร้อมแล้วที่จะพาต้นเองกลับไปเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่าอีกครั้ง
"ผมพร้อมแล้วกับเกมนี้" น้ามู เผยความรู้สึกก่อนแข่ง "การโดนปลดถือเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล ยอดโค้ชหลายคนก็เคยผ่านช่วงเวลาเหล่านี้มาก่อน"
"แน่นอนว่า เมื่อคุณคุมทีมก็ย่อมมีแบกความคาดหวัง แต่ในยุคโมเดิร์นฟุตบอลเช่นนี้สิ่งต่างๆสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นกับทุกๆคน"
แม้ในอดีตจะเคยร่วมงานกับ โรมัน อับราโมวิช มากว่า 6 ปีพร้อมกับผ่านช่วงเวลาแห่งความสุข และ ทุกข์ ด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน
กระนั้น อดีตเทรนเนอร์ เรอัล มาดริด ก็เผยความลับว่า อันที่จริงแล้วตนไม่เคยรู้สึกว่า "เสี่ยหมี" นั้นเป็นเพื่อนของตนเลยแม้แต่นิดเดียว
"เขาไม่เคยเป็นเพื่อนผมเลยนะ พวกเรามีความสัมพันธ์กันแบบเจ้านาย กับ ผู้จัดการทีม ซึ่งเราก็เคารพในความสัมพันธ์นั้น"
แต่บอกได้เลยว่า เราไม่เคยเป็นเพื่อนกันเลย เราไม่เคยใกล้ชิด หรือ ไปไหนด้วยกัน เขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่ผมให้ความเคารพอย่างสูงเท่านั้น"
กับเกมนัดนี้แม้จะมีแฟน "สิงห์บลูส์" หลายคนที่ยังอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย ทว่า มูรินโญ่ ก็ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยใส่ใจว่าในเกมวันอาทิตย์นี้แฟนบอลจะต้อนรับ หรือ โห่ตนเองหรือไม่
เพราะ ปัจจุบันสำหรับตนเองนั้นมีเพียง "แมนฯ ยูไนเต็ด" เท่านั้น
"คำพูดที่บอกว่าผมแคร์(ว่าแฟนจะต้อนรับหรือไม่) นั้นไม่เป็นความจริง" เดอะ สเปเชี่ยล วัน เริ่มสาธยายอีกครั้ง "เอาตามตรงนะเมื่อคุณไปแข่งกับทีมใดก็ตามแล้วคุณจะไม่มานั่งโฟกัสตรงจุดนั้นหรอก คุณจะมีสมาธิกับเกมมากกว่า"
"ผมโชคดีที่ได้อยู่คุมในเกมระดับสูง และ ได้โอกาสคุมทีมใหญ่อีกครั้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ผมจะถูกต้อนรับในลักษณะไหน พวกเขาอาจจะคิดถึงผมก็ได้ หรือไม่พวกเขาก็คิดว่า ผมเป็นผู้จัดการทีม แมนฯ ยู และ กำลังต่อกรกับพวกเขา และ ผมอาจไม่ใช่คนๆเดิมของพวกเขาแล้ว"
อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มั่นใจนักว่า ตนเองจะถูกต้อนรับในรูปแบบใดทว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งที่ มูรินโญ่ นั้นรู้สึกมั่นอกมั่นใจ มันเป็นบางสิ่งที่เจ้าตัวเชื่อว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย...สโมสรก็จะไม่อาจลบตนเองออกจาก "ประวัติศาสตร์" ของทีมได้อย่างแน่นอน
"ผมจากสโมสรมาถึง 22 ครั้งซึ่งในแต่ละครั้งผมก็ทำทีมคว้าแชมป์ และ ทำให้ช่วงเวลาดีๆนั้นเข้าไปอยู่ในใจของแฟนๆ อย่างน้อยสิ่งนี้มันทำให้ผมจากทีมมาด้วยความรู้สึกที่ว่า ผมทำภารกิจสำเร็จแล้ว"
"ผมไม่คิดหรอกว่า พวกเขาจะต้องการลบผมออกในความทรงจำ แต่ถึงแม้พวกเขาต้องการผมก็เชื่อสุดใจเลยว่า พวกเขาไม่อาจลบผมออกจากประวัติศาสตร์ของ เชลซี ได้แน่"
"หนึ่งในความสำเร็จจะมีชื่อผมตลอดไป และ แน่นอนในประวัติศาสตร์ของผมก็จะมีพวกเขาอยู่ในหัวใจเช่นเดียวกัน"
ผมก็เชื่อเช่นนั้นครับบอสว่า แฟนบอล เชลซี ทุกๆคนจะไม่มีวันลบชื่อของคุณออกจากหัวใจ...
และในเกม "บิ๊กแมตช์" คืนวันอาทิตย์นี้ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร ชื่อของ "โชเซ่ มูรินโญ่"จะได้รับการต้อนรับ และ เสียงตบมืออันกึกก้อง...
ไม่ต่างกับ "ยอดตำนาน" รายอื่นอย่างแน่นอน!