แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ที่แปลก

แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ที่แปลก

แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ที่แปลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นสถานการณ์ที่ยากจะเชื่อนะครับในการกลับมาพบกันอีกครั้งเป็นคำรบที่ 2 ของคู่ปรับแห่งแมนเชสเตอร์ ทั้งสองทีมจะอยู่ในสภาพที่ “ดูไม่ได้” แบบนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังชนะมา 10 นัดรวด ก็ไม่ชนะติดต่อกัน 5 นัด (เสมอ 3 แพ้ 2) ไม่ว่าจะในลีกหรือฟุตบอลถ้วย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งแล้ว ถึงจะมีชนะบ้างในฟุตบอลถ้วยแต่ผลงานนั้นสะดุดตลอดเวลา ไม่ต่างอะไรจากการโดนถาดตีหัวทุกครั้งที่อ้าปากจะเล่นมุกตลก

การพบกันในรายการที่พวกเขาเคยมองเป็น “ถ้วยน้ำพริก” อย่าง ลีก คัพ จึงกลายเป็นเกมที่มีความหมายทันที ไม่ใช่เพียงเพราะไม่มีใครอยากพลาด พวกเขาอยากจะใช้เกมนี้เป็น “จุดออกสตาร์ท” ใหม่อีกครั้งด้วย

สำหรับ ยูไนเต็ด ผมค่อนข้างเป็นกังวลมากกว่าเพราะดูเหมือนว่า โชเซ่ มูรินโญ่ จะมีปัญหาที่ค่อนข้างหนักมากกว่าเรียกว่า “จุกอก” เลยทีเดียว

โดยเฉพาะเรื่องของความมั่นใจ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในเรื่องความมั่นใจของลูกทีม แต่เป็นความมั่นใจของตัวเองหลังจากเจอช่วงเวลาเลวร้ายในทีม เชลซี ในฤดูกาลที่แล้ว จนในฤดูกาลนี้เองแม้ทำท่าเหมือนจะมาดีในช่วงต้นฤดูกาล แต่เวลานี้สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ต่างจากทีมเก่าเขาในลอนดอน (ที่กลับมาเข้าที่เข้าทางแล้ว และตบหน้า มูรินโญ่ ดังสนั่นกับสกอร์ 4-0)

สำหรับคนที่เคยหยิบจับทำอะไรก็ดีอย่าง The Special One สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องที่รับได้ยาก

ทางเดียวที่จะผ่านไปให้ได้คือ มูรินโญ่ ต้องพยายาม “ลบ” ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาออกจากความทรงจำของทั้งตัวเองและลูกทีม รวมพลัง ตั้งใจ และสู้กันใหม่ในระหว่างที่ยังพอมีโอกาสและเวลาเหลืออยู่

มีการมองข้ามช็อตกันว่าในช่วงหลังจากนี้ไปจนถึงเดือนหน้า ยูไนเต็ด มีเกมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 4 นัด ซึ่ง 3 ในนั้นเป็นการเล่นในบ้านพบกับ เบิร์นลีย์, อาร์เซนอล และ เวสต์แฮม ส่วนอีกหนึ่งนัดคือการไปเยือน สวอนซี

หากตัดอาร์เซนอล ออกถ้าหากชนะ เบิร์นลีย์, เวสต์แฮม และสวอนซี สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับมาดีอีกครั้งได้ไม่ยากครับ และทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลายตามลำดับ

แต่ทุกอย่างมันจะเลวร้ายขึ้นทันทีหาก ยูไนเต็ด แพ้ ซิตี้ อีกครั้งในเกมคืนนี้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด พูดแล้วก็เป็นห่วงครับ

ในเกมนัดแรกที่พบกัน แมนฯ ซิตี้ บุกมาเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมที่ถือว่าค่อนข้างดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องของการครองบอล ถึงจะมีช่วงหัวใจสั่นบ้างที่โดน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงไล่ตามมาแต่ก็ยังรักษาสกอร์เอาไว้ได้

นัดนี้ผมไม่คิดว่า เป๊ป จะเลือกผู้เล่นชุดใหญ่เหมือนในเกมนั้นครับ เรื่องคุณภาพจะดร็อปลงมาอย่างชัดเจน

แต่ปัญหาสำหรับผมคือ ยูไนเต็ด จะเลือกหมุนเวียนผู้เล่นเหมือนกัน หรือจะจัดนักเตะชุดใหญ่ลงสนามเพื่อเอาชนะให้ได้?

โดยเฉพาะกับนักเตะที่เป็นปัญหาอยู่ 3-4 คนอย่าง ปอล ป็อกบา, เวย์น รูนี่ย์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ เฮนริค มคิตาเรียน จะลงสนามกันหรือไม่?

ป็อกบา ในความรู้สึกแล้วน่าจะได้พักครับ เพราะช้ำหนักกับผลงานช่วงที่ผ่านมา ยิ่งเล่นก็ยิ่งเสียความมั่นใจ เช่นกันกับ ซลาตัน ที่จากแจ้งเกิดสวยงามก็กลายเป็นหมดลายเสียอย่างนั้น ก็ต้องดูใจมูผู้โอหังกันไป

แต่อีกหนึ่งที่อยากเห็นคือ มูรินโญ่ จะมีการปรับแท็คติกส์ ที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นจุดที่เป็นปัญหาและทำให้นักเตะในทีมทยอยเล่นกันไม่ออกหรือไม่กับระบบ 4-2-3-1 ที่เลือกใช้อยู่ในเวลานี้

ตัวอย่างที่ดีมีให้เห็นครับอย่างกรณีของ เชลซี ที่มีอาการสะดุดช่วงก่อนหน้านี้สุดท้าย อันโตนิโอ คอนเต้ ปรับแท็คติกส์ให้เล่นในระบบ 3-4-3 ซึ่งเป็นการพบกันครึ่งทางระหว่างสูตรที่ตัวเองถนัดกับสูตรที่เข้ากับนักเตะในทีมมากที่สุด

ผลก็อย่างที่เห็น ยิงเป็นเข้า สวนเป็นตูม ถ้า มูรินโญ่ เปลี่ยนใจลองปรับบทของนักเตะในทีมใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัญหา เช่น ป็อกบา, รูนี่ย์, ซลาตัน ซึ่งเป็นนักเตะระดับ “แกน” ของทีม และทำให้สตาร์เหล่านี้เล่นได้ และเล่นร่วมกันได้กับคนอื่น
ส่วนตัวผมเชื่อว่าทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้ายังดื้อแพ่ง เล่นกันอยู่แบบนี้ แค่นี้ สูตรนี้ และหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

มันไม่ต่างอะไรจากการแห่นางแมวแล้วขอฝน

จุดนี้คือความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง ยูไนเต็ด กับ ซิตี้ ที่ถึงจะผลงานแย่ไม่ต่างอะไรกันมาก แต่วิธีการเล่นและแท็คติกส์ของเป๊ป ไม่ถึงกับเป็นปัญหาหนักข้อ

ช้าหรือเร็ว ซิตี้ ก็จะกลับมาเป็นทีมเดิม

ต่อให้แพ้ในเกมนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะ “คอขาด” เหมือนคู่ปรับร่วมเมืองครับ

นิทานลูกหนัง by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook