สกู๊ป : ความกดดันของเสือใต้

สกู๊ป : ความกดดันของเสือใต้

สกู๊ป : ความกดดันของเสือใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่า “อาร์บี ไลซ์ซิปส์” ทีมน้องใหม่พลังกระทิงแดงมาแรงเหลือเกินหลังจากบุกอัด “เอาท์บวร์ก” คาบ้าน 4-1 และเป็นชัยชนะ 7 นัดติอต่อกัน ตั้งเดือนตุลาคม มี 30 คะแนน รั้งจ่าฝูงของ “บุนเดสลีกา เยอรมัน” ทำให้ทีมแชมป์เก่าอย่าง “บาเยิร์น มิวนิค” (มี 24 คะแนน) กับตัวเต็งอีกทีม “ดอร์ทมุนด์” (มี 21 คะแนน) ต้องเก็บชัยชนะในสัปดาห์นี้ให้ได้เพื่อไล่ตามให้ทัน

อย่างไรก็ตามแฟนๆเสือใต้น่าจะทราบผลเมื่อคืนที่ผ่านมาในการเจอกับห้างขายยา “เลเวอร์คูเซ่น” ไปแล้ว แต่ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่ดีของพี่แจ้ “คาร์โล อันเชล็อตติ” และลูกทีมเลย เพราะไม่ชนะใครมา 3 เกมติดแล้ว เริ่มจาก เสมอ “ฮอฟเฟ่นฮาร์ม” 1-1 แพ้ “ดอร์ทมุนด์” 0-1 ในลีก ส่งผลให้คะแนนหายไป 5 คะแนน ก่อนที่ล่าสุดจะแพ้ “รอสตอฟ” แบบเสียฟอร์มในแชมเปี้ยนลีก 2-3 ยังดีที่ทีมเข้ารอบไปแล้ว

 แน่นอนว่ากระแสของสื่อและแฟนบอลบางส่วนเริ่มไม่พอใจในผลงานของทีม เพราะในรอบ 5 ปีหลัง ขุนพลพี่เสือไม่เคยต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ฟอร์มบูเช่นนี้เลย ทั้งๆที่นักเตะก็เป็นชุดเดียวกันที่ประสบความสำเร็จในรอบหลายปีที่ผ่านมา

บางทีสไตล์ของทีมตอนนี้อาจจะบอกถึงบุคลิกของโค้ชได้เพราะสิ่งที่ทีมของพี่แจ้ต่างจากทีมของ “เป็ป กวาดิโอร่า” กุนซือคนก่อน คือความละเอียดในการเล่นฟุตบอลหลายๆอย่าง โดยเฉพาะการเล่นฟุตบอลแบบเท้าสู่เท้าน้อยลง บวกกับการพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

นี้ยังไม่นับปัจจัยภายนอกอย่าง การอิ่มตัวกับความสำเร็จในอดีต หรือเรียกง่ายๆว่า “หมดไฟ” รวมทั้งผู้เล่นหลายคนฟอร์มตกช่วงนี้ ทั้งแนวรุกอย่าง “โธมัส มุลเลอร์” ที่ฤดูกาลนี้ยังไม่สามารถผลิตสกอร์แรกในลีกได้เลย “ดั๊กลาส คอสต้า” ที่เจ็บอาการบาดเจ็บเล่นงานซึ่งเพิ่งกลับมาก็ยังไม่เต็ม 100      

ที่สำคัญคือ “ความกดดัน” จากมาตรฐานที่สูงมากของทีมในช่วงก่อนเนื่องจากที่ผ่านมาทีมผลงานดีมาโดยตลอด ต้องมีแชมป์ใหญ่ติดมือทุกปี ถ้าไม่ได้ “แชมเปี้ยนลีก” ก็ต้องได้ “แชมป์ลีก” เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นแรงเหวี่ยงมาจากกุนซือคนก่อนอย่าง “เป็ป” ที่ทำทีมด้วยทัศนคติความเป็น “เพอร์เฟคชั่นนิสต์” ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ

พอเปลี่ยนมาเป็นพี่แจ้ทำทีมซึ่งอาจจะทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวผ่อนคลายมากขึ้นเพราะสไตล์ของพี่แจ้ผ่อนคลายมากกว่า ตามนิสัยของคนอิตาลี อย่างเกมกับ “รอสตอฟ” ถ้าเกิดทีมที่แข่งไม่ใช่ “บาเยิร์น” แต่เป็นทีมจากลีกเซเรีย อา ที่รู้ว่าเข้ารอบไปแล้ว เชื่อว่า กุนซือคงจัดตัวแบบ “ไม่เน้น” นักเตะคงมาเล่นแบบ “ไม่เอา” ด้วยซ้ำ รอเก็บตัวไว้เล่นรายการอื่นที่สำคัญกว่า

ดังนั้นผลงานของพี่เสือในการไม่ชนะมา 3 เกมติด ถ้ามองกันแบบละเอียด นัดที่เสมอ “ฮอฟเฟ่นฮาร์ม” ต้องยอมรับว่าพลาดทำคะแนนสะดุดเอง แต่การมาเจอกับ “ดอร์ทมุนด์” ช่วงพีคในช่วงที่ทีมไม่สมบูรณ์เต็มร้อย การแพ้ลูกนึงก็เป็นไปได้ หรือการมาแพ้ทีมโนเนมในเกมยุโรปแบบหมดฟอร์ม ถ้ารู้ว่าเข้ารอบไปแล้ว ในอิตาลีถือว่าไม่เสียหาย เพราะบอลสไตล์ลีกเลี่ยน ไม่มีคำว่าเข้ารอบที่ 1 หรือที่ 2 มีแค่คำว่า “เข้ารอบ” ก็พอแล้ว

สุดท้ายสิ่งที่กำลังหลอกหลอนพี่เสือในช่วงนี้ คงเป็น “ความกดดันของตัวเอง” ตามสไตล์คนเยอรมันที่ทุกอย่างต้อง “เปธ” ที่สำคัญคือต่อจากนี้พี่เสือจะสามารถกลับมาสู้ฟอร์มเก่งของตัวเองได้ไหมต่างหากในทุกรายการ ขอแค่อย่าให้ “ความกดดันที่สูงเกินไป” มาทำลายความสำเร็จในฤดูกาลนี้ของทีมละกันครับ

เพราะเชื่อว่ากุนซือมือเก๋าอย่าง “อันเชล็อตติ” เก่งพอที่จะเอาตัวรอดครับ


โดย แบงค์ พิพัช 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook