สปิริตกองเชียร์ไทย

สปิริตกองเชียร์ไทย

สปิริตกองเชียร์ไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจบเกมรอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ระหว่างขุนพลช้างศึก “ทีมชาติไทย” กับเพื่อบ้าน “เมียนมา” ในฟุตบอลเอเอฟเอ ซูซูกิคัพหรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน แน่นอนว่าคนไทยทุกคนมีความสุขกับผลการแข่งขันที่เราสามารถเอาชนะไปได้ 4-0 ส่งผลให้เข้าขิงชนะเลิศลุ้นแชมป์สมัยที่ 5 กับ พญาครุฑ “ทีมชาติอินโดนีเซีย” ลุ้นแชมป์สมัยที่ 5

แต่น่าเสียใจที่มีคนกลุ่มน้อยซึ่งเข้ามาชมฟุตบอลและสร้างความเสื่อมเสียน่าอับอายขายหน้า เพราะก่อนการแข่งขันดันมีกลุ่มกองเชียร์ไทยนี้แหละโห่ไล่ด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรงและที่น่าสะเทือยใจกว่านั้นคือ บางคนเข้าไปฉุดกระชากธงชาติเมียนมาอีกด้วยซึ่งถูกอัดคลิปและเผยแพร่ออกมาทางโลกออนไลน์

เรื่องนี้ทำให้ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องออกแถลงการณ์ออกมายอมรับความรับผิดชอบต่อเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นแบบนี้ กับกลุ่มแฟนบอลที่ “ไม่เอาสมองมาสนาม” ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูขององค์กรที่จัดการแข่งขันไม่ว่าจะกีฬาอะไรย่อมถูกลงโทษทั้งนั้น ถ้าถึงขั้นร้ายแรงก็อาจจะถูกแบนได้เลยทีเดียว เรียกว่า “ได้แค่สะใจ แต่ต้องมาเสียใจภายหลัง”

แน่นอนว่า ชาติใคร ใครก็รัก โดยเฉพาะการที่แฟนบอลกลุ่มนั้นไปกระชากธงชาติของคู่แข่ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ประเทศเจริญแล้วเค้าไม่ทำกัน ถ้าเกิดไปต่างประเทศแล้วถูกชาติต่างชาติเอาธงชาติของเราไปย่ำยีบ้าง เชื่อว่าคนไทยก็คงรู้สึกแย่เหมือนกัน ทั้งๆที่เป้าหมายของกีฬาคือ “มิตรภาพ” ที่มาก่อนชัยชนะ

อย่างเกมแรกที่เราไปเยือน “เมียนมา” ทางกองเชียร์ของเค้าก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” ถึงเราจะบุกไปเอาชนะเค้าได้ 2-0 ก็ตาม แต่แฟนบอลของเรานี้แหละที่ดันไม่มีน้ำใจนักกีฬา



จากประสบการณ์ส่วนตัวเคยมีโอกาสไปชมฟุตบอลซีเกมส์ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อครั้งก่อนหน้านี้ที่ประเทศสิงค์โปร์ ระหว่าง “ทีมชาติไทย” กับ “เมียนมา” ซึ่งจำนวนแฟนบอลไทยที่เข้าชมเกมในสนามมีนิดเดียวถ้าเทียบกับแฟนบอลเมียนมา (ส่วนนึงเพราะคนเมียนมาเข้าไปใช้แรงงาน หรือทำงานในสิงค์โปร์กันเยอะ)

หลังเกมเราชนะ 3-0 ได้แชมป์ พอถึงเวลากลับต้องเดินกลับพร้อมกับกองเชียร์เมียนมาที่เชื่อว่าเค้า “เซ็ง” ไม่น้อยที่บอลแพ้ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ต้องขึ้นรถไฟใต้ดินที่ทั้งขบวนมีแต่กองเชียร์หม่องซึ่งแฟนบอลไทยมีแค่ผมกับน้องสาว 2 คนเท่านั้น

ถ้าลองนึกย้อนกลับเป็นฝั่งเราแพ้บ้าง และมีแฟนบอลเมียนมาเป็นส่วนน้อย เชื่อว่าแฟนบอลของเราหลายคนคงต้องพยายามข่มใจไม่ให้เอาอารมณ์ไปลงกับแฟนบอลของทีมชนะ ยิ่งธรรมชาติของคนไทยบางทีพวกมากลากไปไม่กลัวใคร อาจจะก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เหมือนกัน

สำหรับ “ทีมชาติไทย” ตอนนี้คือทีมอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่เรื่องของแฟนบอลคงต้องยอมรับว่าเราไม่ใช่แฟนบอลที่ดีอันดับ 1 อย่างแน่นอนจากการกระทำของคนที่ไม่เอาสมองมาสนามด้วยเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น ดังนั้นรอบชิงกับ “ทีมชาติอินโดนีเซีย” โดยเฉพาะนัดทีสอง วันที่ 17 ธันวาคมที่เล่นในบ้านเรา “สนามราชมังคลากีฬาสถาน” ถึงผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร ก็อยากให้แฟนบอลไทยเชียร์อย่างมีสปิริต มีน้ำใจนักกีฬา มีสปิริต

เพราะหลายๆครั้งที่ฟุตบอลไทยไม่เจริญกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ได้มาจากนักฟุตบอล แต่มาจาก “กลุ่มกองเชียร์” ที่ไร้สปิริตินี้แหละที่เป็นสาเหตุครับ

โดย แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook