ว่าด้วยเรื่องของฟุตบอลฝรั่งเศสที่ "น่าติดตาม"

ว่าด้วยเรื่องของฟุตบอลฝรั่งเศสที่ "น่าติดตาม"

ว่าด้วยเรื่องของฟุตบอลฝรั่งเศสที่ "น่าติดตาม"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายๆคนยังไม่รู้ ว่าส่วนตัวผู้เขียนเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสสักระยะนึงเพื่อศึกษาต่อ ดังนั้นจึงอยากบอกกล่าวให้ท่านผู้อ่าน ณ โอกาสนี้ด้วย แต่ในส่วนของคอลัมน์ของผมก็ยังมีเหมือนเดิม ด้วยสัญญาที่ยังอยู่กับหนังสือพิมพ์แห่งนี้ตลอดชีวิต

แน่นอนว่าฟุตบอลฝรั่งเศสหรือลีกสูงสุดของเค้าอย่าง “ลีกเอิง” ไม่ใช่ลีกอันดับต้นๆที่คอลูกหนังฟุตบอลต่างประเทศให้ความสนใจสักเท่าไหร่ เพราะ “ความสนุก” “ความมันส์” ของเกมการแข่งขันสู้ลีกใหญ่ลีกอื่นไม่ได้ แม้ว่าช่วงหลังจะมีทีมมหาเศรษฐีอย่าง “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” ที่มีเจ้าของกาตาร์คอยดูดนักเตะระดับเอลิสต์จากทั่วโลกด้วย “เงิน” มาเข้าทีมก็ตาม

 629858548

เพราะทีมอื่นๆเองก็ยังดูว่าไม่ใช่คู่มือของเศรษฐีจากกรุงปารีสสักเท่าไหร่ จะมีก็ “โมนาโก” ที่อาจพอฟัดพอเหวี่ยงบ้าง เนื่องจากเป็นทีมของเศรษฐีรัสเซียเหมือนกัน แต่พอวัดระยะกันไปสักฤดูกาลหรือ 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาก็ยังสู้ไม่ได้ ทำให้ลีกเมืองน้ำหอมไม่สนุกในแง่ผลลัพธ์ว่าทีมไหนจะได้แชมป์

ต่างจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ที่มีทีมระดับบิ๊กโฟร์หรือบิ๊กไฟฟ์ แถมปีที่แล้วทีมนอกสายตาอย่าง “เลสเตอร์ ซิตี้” ดันขึ้นมาเป็นแชมป์อีกต่างหาก หรือ “ลา ลีกา สเปน” ที่ดูเหมือนว่าจะมีเพียง “เรอัล มาดริด” กับ “บาร์เซโลน่า” แต่ก็ยังมีทีมม้ามืดอย่างตราหมี “แอตฯ มาดริด” มาร่วมวงไพบูลย์ด้วย หรือก่อนหน้านี้ก็มี “บาเลนเซีย” ที่ขึ้นมาร่วมสนุกบ้าง

 tt

“อาร์แซน เวงเกอร์” นายใหญ่เลือดน้ำหอมของ “อาร์เซน่อล” เคยบอกว่า ฟุตบอลฝรั่งเศสยุคนี้กำลังมีปัญหาจากคำถามที่ว่า เอกลักษณ์ที่แท้จริงของฟุตบอลฝรั่งเศสเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า ผู้อพยพจากที่ต่างๆ โดยเฉพาะในแอฟริกา หรือลูกหลานเข้าสู่วงการฟุตบอลเยอะมาก จนบางครั้งส่วนตัวการดูฟุตบอลลีกเอิงไม่ต่างจาก “แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ”

และไม่แปลกที่รู้สึกว่าธรรมชาติของฟุตบอลฝรั่งเศสคือ ความแข็งแกร่งของร่างกายนักเตะ มากกว่าเทคนิคของนักฟุตบอล

 11

อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลฝรั่งเศสปีนี้ แตกต่างกว่า 4-5 ฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะไม่ใช่ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” ที่นำม้วนเดียวจบ หลังจากบร๊ะเจ้า “ซลาตัน อิบราฮิโมวิช” ออกจากทีมไป บวกกับการที่ “โมนาโก” ได้ราดาเมล ฟัลเกา กลับมาเข้าฟอร์มยิงประตูอีกครั้ง และจ่าฝูงตอนนี้ก็ไม่ใช่สองทีมที่กล่าวไป แต่เป็น “นีซ” ของกุนซือ “ลูเซียร์ ฟาร์ฟ” ที่กำลังนำเป็นอันดับ 1 พร้อมนักเตะสายเกรียนอันดับ 1 ของโลกอย่าง “มาริโอ บาโลเตลลี่”

โดย “นีซ” จ่าฝูงมี 40 คะแนน “โมนาโก” ทีมอันดับ 2 มี 39 คะแนน และ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” อันดับ 3 มี 36 คะแนน พร้อมจะแซงทุกเมื่อถ้าเกิดทีมจากเมืองท่องเที่ยวตอนใต้สะดุด

 22

นอกจากนั้น ถ้าไปดูผลงานในฟุตบอลยุโรปของตัวแทนจากลีกเอิง ต้องยอมรับว่าปีนี้ผลงานดี ทั้ง “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” ที่ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” กับ “โมนาโก” เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือ “ยูโรป้า ลีก” เองก็มี “แซงต์ เอเตียน” กับโอลิมปิก ลียง” ที่รายหลังคนไทยสมัยดูบอลสัก 10 ปีที่แล้วรู้จักกันในนาม “ลียง ลงเป็นยิง” ซึ่งเป็นยุคจุดสูงสุดของทีมพร้อมด้วยนักเตะอย่าง “จูนินโญ่” หรือโค้ช “ปอล เลอ กูเอ็น”

ที่สำคัญคอบอลชาวไทยโชคดีที่เจ้าของลิขสิทธิ์ฟุตบอล “ลีกเอิง” คือ “บีอิน” ที่ถ่ายทอดสดฟุตบอลต่างประเทศในแพล็ตฟอร์มของ “ทรูวิชั่นส์” อยู่แล้ว บางครั้งจึงได้เห็นการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกเอิงผ่านตาบ้าง

สุดท้ายลองเปิดใจนั่งดูฟุตบอล “ลีกเอิง” ฝรั่งเศสดูบ้าง ถึงไม่ดูสนุกเท่าลีกใหญ่แต่บางทีอาจจะมีมุมดีดีที่น่าติดตามหรือน่าเรียนรู้ที่ “แตกต่าง” ออกไปครับ

โดย แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook