5 แมตช์ที่สุดแห่งวงการลูกหนังโลก 2016 (คลิป)

5 แมตช์ที่สุดแห่งวงการลูกหนังโลก 2016 (คลิป)

5 แมตช์ที่สุดแห่งวงการลูกหนังโลก 2016 (คลิป)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปีคริสตศักราช 2016 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ได้มีการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญ ทั้งระดับสโมสร และระดับทีมชาติ เกิดขึ้นมากมาย

ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งท้ายปี ผมและทีมงานฝ่ายข่าวฟุตบอลต่างประเทศของ “ฮอตสกอร์” ได้ประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เพื่อที่จะคัดเลือกความเป็น “ที่สุด” ของแมตช์การแข่งขันฟุตบอลประจำปีนี้

โดยมีแมตช์การแข่งขัน ตลอดทั้งปีปฏิทิน 2016 ซึ่งหมายความถึง ครึ่งหลังของฤดูกาล 2015-16 รวมกับครึ่งฤดูกาลแรกของฤดูกาล 2016-17 นับรวมหมดทั้งเกมสโมสรและทีมชาติ นำมามาพิจารณา ซึ่งมีเยอะมาก เป็นพันๆแมตช์

บอกตามตรงว่า ต้องกลั่นกรองอยู่หลายรอบ กว่าที่จะ “ตกผลึก” เห็นตรงกัน ซึ่งแน่นอนว่า การเลือกเฟ้นในครั้งนี้ ย่อมมีทั้งคนที่ถูกใจ และไม่ถูกใจ เป็นเรื่องธรรมดา

และนี่คือความเป็น “ที่สุด” ของเกมลูกหนังโลก ประจำปี 2016 ทั้ง 5 แมตช์ จะถูกใจคุณผู้อ่าน มากน้อยแค่ไหน ไปดูกันเลย!

อันดับ 5 ที่สุดแห่งความตื่นเต้น
ใคร : สวอนซี 5 - 4 คริสตัล พาเลซ
เมื่อไหร่ : 26 พฤศจิกายน 2016
รายการ : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2016-17 (นัดที่ 13)

 

ถ้าจะมีฟุตบอลสักแมตช์หนึ่ง ที่ทั้งสองทีม ต่างเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกสนาน ผลัดกันนำผลัดกันตามตลอดการแข่งขัน เป็นการคืนกำไรให้กับคนดู แน่นอนว่าเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีคู่นี้ คือหนึ่งในนั้น ถึงแม้ว่าชื่อชั้นของทั้งคู่ มันจะไม่ใหญ่มากก็ตาม

พาเลซนำก่อน 1-0 แต่สวอนซี ยิงรวดเดียว 3 ตุง แต่ “เดอะ อีเกิ้ลส์” ไม่ยอมง่ายๆ ยิงคืน 3 ลูกรวดเช่นกัน แซงขึ้นนำ 4-3 ทำท่าว่า “หงส์ขาว” จะแพ้คาบ้านอยู่รอมร่อ แต่แล้ว 2 ประตูของเฟอร์นานโด ยอเรนเต้ กองหน้าชื่อดังชาวสเปนในช่วงทดเจ็บ ส่งให้ทีมเจ้าบ้านเก็บ 3 คะแนนแบบสุดมันส์ กับ 9 ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้

อันดับ 4 ที่สุดแห่งความมหัศจรรย์
ใคร : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 3 เลสเตอร์ ซิตี้
เมื่อไหร่ : 6 กุมภาพันธ์ 2016
รายการ : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2015-16 (นัดที่ 25)

 

ก่อนเปิดฤดูกาล “จิ้งจอกสยาม” มีอัตราต่อรองที่พวกเขาจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 5000/1 แน่นอนล่ะ ถ้าใครกล้าออกมาฟันธงว่า เลสเตอร์ จะเป็นแชมป์ คนๆนั้นคงจะมีปัญหาทางสมองอย่างแน่นอน แต่แล้ว “เดอะ ฟ็อกซ์” กลับสร้างความมหัศจรรย์ เป็นแชมป์ในบั้นปลายซะยังงั้น

หนึ่งในเส้นทางสู่แชมป์ประวัติศาสตร์ คือการไปเยือนอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ที่อุดมไปด้วยฟ่อนธนบัตรจากอาหรับ แต่ขอโทษนะ ทีมรองบ่อนอย่างเลสเตอร์ บุกไปถล่มถึงบ้านแบบเหลือเชื่อ จากผลงานของ โรเบิร์ต ฮูธ 2 ประตู และอีกลูกจากริยาด มาห์เรซ แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทีมเวิร์กที่แข็งแกร่ง ก็สามารถเอาชนะพวกมหาเศรษฐี ได้เช่นกัน

อันดับ 3 ที่สุดแห่งความดราม่า
ใคร : ลิเวอร์พูล 4 - 3 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เมื่อไหร่ : 14 เมษายน 2016
รายการ : ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2015-16 (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง)

 

เลกแรกที่บ้านดอร์ทมุนด์ เสมอกันมา 1-1 ลิเวอร์พูลได้เปรียบเรื่องกฎอะเวย์โกล เลกสองที่แอนฟิลด์ พวกเขาน่าจะคว้าชัยได้อย่างไม่มีปัญหา ทว่าไม่เป็นไปตามที่คาด “หงส์แดง” ต้องรอถึงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลิกสถานการณ์จากนรก กลับมาขึ้นสวรรค์แบบสุดดราม่า

“เสือเหลือง” แห่งเมืองเบียร์ ทำเอา “เดอะ ค็อป” ถึงกับช็อก เพราะออกนำก่อนถึง 2-0 และ 3-1 ก่อนที่หงส์แดงจะตามตีเสมอ 3-3 ในช่วงเหลือไม่ถึง 15 นาทีสุดท้าย ซึ่งสกอร์นี้ “หงส์แดง” ยังเสียเปรียบอยู่ แต่แล้วก็ได้ฮีโร่อย่าง เดยัน ลอฟเรน โหม่งประตูชัย 4-3 ส่งพวกเขาไปต่อในรอบตัดเชือก นี่คือแมตช์แห่งความทรงจำอีกนัดของแฟนหงส์ เลยทีเดียว

อันดับ 2 ที่สุดแห่งความอัปยศ
ใคร : อังกฤษ 1 - 2 ไอซ์แลนด์
เมื่อไหร่ : 27 มิถุนายน 2016
รายการ : ยูโร 2016 (รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

 

“สิงโตคำราม” ในยุคของ ปู่รอย ฮ็อดจ์สัน ลงเล่นยูโร 2016 รอบสอง พบกับขุนพล “ออร์ บอยส์” ประเทศที่มีประชากรแค่ 3 แสนคน พอๆกับเมืองเลสเตอร์ ของอังกฤษ แน่นอนล่ะชื่อชั้น กับตัวผู้เล่น ทรีไลออนส์ เหนือกว่าบานเบอะ แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์ช็อกโลกอย่างไม่น่าเชื่อ

เวย์น รูนี่ย์ ซัดจุดโทษให้อังกฤษ นำก่อน 1-0 แต่ดีใจได้แค่ 2 นาที ไอซ์แลนด์ ยิงตีเสมอจาก แรกนาร์ ซิกูร์ดส์สัน และ 12 นาทีต่อมา โคลเบนน์ ซิกธอร์สสัน สังหารให้ “ออร์ บอยส์” ขึ้นนำ และจบเกมด้วยสกอร์นี้ ซึ่งจากความพ่ายแพ้ของอังกฤษ บรรดาสื่อในประเทศ นิยามให้เป็น “แมตช์อัปยศ” ที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมชาติมาเลยทีเดียว

อันดับ 1 ที่สุดแห่งความภาคภูมิใจ
ใคร : คาชิม่า แอนท์เลอร์ส 2 - 4 เรอัล มาดริด
เมื่อไหร่ : 18 ธันวาคม 2016
รายการ : ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2016 (รอบชิงชนะเลิศ)

 

ถ้าดูจากชื่อชั้น และตัวนักเตะ แน่นอนล่ะ แอนท์เลอร์ส เป็นรองมหาศาล น่าจะโดนยักษ์ใหญ่จากมาดริด ถล่มอย่างขาดลอย ศพไม่สวยแน่นอน แต่ที่ไหนได้กับสู้กับยอดทีมจากสเปนได้อย่างสมศักดิ์ศรี

11 ตัวจริงของทีมแชมป์เจลีก เป็นนักเตะชาวญี่ปุ่นทั้งหมด สู้กับทีมรวมนานาชาติ ของแชมป์ยุโรป 11 สมัย ได้อย่างไม่เกรงกลัว 2 ประตูจาก กาคุ ชิบาซากิ ทำให้เขาแจ้งเกิดในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะต้านความแข็งแกร่งของมาดริดไม่ไหว แต่ผมกล้าพูดได้เลยว่า คาชิม่า แอนท์เลอร์ส คือความภาคภูมิใจแห่งทวีปเอเชีย อย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook