5 ประเด็นเด็ดของ "ลิเวอร์พูล" จากเกมเสมอ 1-1 ศึกแดงเดือด

5. คล็อปป์ ไม่กลัวศักดิ์ศรี ปีศาจแดง

 

ในเกมนี้ถึงแม้จะต้องบุกมาเยือนคู่แข่งสุดโหดถึงถิ่น แต่ เจอร์เกน คล็อปป์ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ได้มีความเกรงกลัวในศักดิ์ศรีของคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยแม้แต่น้อย

นับตั้งแต่การจัดตัวที่กล้าส่งเอาดาวรุ่งอย่าง เทรนท์-อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลงมาเล่นแทน นาธาเนียล ไคลน์ ที่มีข่าวว่าเจ็บซี่โครง รวมถึงความใจเย็นที่ไม่เสี่ยงเอา ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อยลงตั้งแต่ต้นเกม

แถมระหว่างเกมยังมีการไปต่อปากต่อคำกับ โฆเซ่ มูรินโญ่ ในจังหวะที่ เฟอร์มิโน่ โดน เอร์เรร่า เล่นลูกสกปรกใส่จนเสื้อแทบขาดอีกด้วย

และด้วยสภาพที่ตกเป็นรองแทบทุกด้านตั้งแต่ก่อนเกมเริ่ม แต่ คล็อปป์ ก็ปลุกใจลูกทีมให้ต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีทุกกระบวนท่าตลอด 90 นาทีเลยจริงๆ

4. มินโญเล่ต์ ก็เทพเหมือนกัน

 

หลังจากที่ ลอริส คาริอุส ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาได้ในเกมกลางสัปดาห์ หลายคนคิดว่าตำแหน่งของ มินโญเล่ต์ จะต้องสั่นคลอนอย่างแน่นอน แต่แล้วเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองก็เจ๋งโคตรๆเช่นกัน

เกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นายทวารชาวเบลเยียม โชว์การเซฟเทพๆออกมาให้เห็นหลายครั้ง ซึ่งแต่ละลูกนั้นก็เรียกได้ว่าควรจะต้องเสียประตูไปแล้วแท้ๆ

ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ทีมคงอยู่บนเส้นทางที่ดีได้เกือบตลอด 90 นาทีแล้ว ยังถือเป็นการประกาศให้โลกได้รู้อีกด้วยว่า "ข้านี่แหละคือเบอร์หนึ่งของหงส์แดง"

3. การกลับมาของ เฮนเดอร์สัน

 

นับตั้งแต่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้รับบาดเจ็บที่ส้นเท้าในเกมชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 เมื่อเดือนก่อน ส่งผลให้กัปตันตาสวยพลาดการลงเล่นไปถึง 3 เกม จนเกมแดนกลางของทีมดูยวบลงไปถนัดตา

วันนี้ เฮนโด้ กลับลงมาเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง และก็ทำหน้าที่ของผู้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 6 ได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

การออกบอลของเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมเกือบตลอดทั้งเกม และการยืนตำแหน่งถือว่าดีมากเช่นกัน เพราะไม่ว่าบอลไปอยู่ไหน เพื่อนก็จะต้องหันมาเห็นเขาคอยช่วยซ้อนช่วยรองอยู่ใกล้ๆจนอุ่นใจได้ทุกที

แถมเกมรับก็ยังทำได้ไม่ขาดตกบกพร่อง คอยตัดทำลายการบุกจากกลางสนามของคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี

2. เจ้าหนู อาร์โนลด์ สอบผ่าน

 

หนึ่งชั่วโมงก่อนศึกแดงเดือดจะเปิดฉากขึ้น รายชื่อผู้เล่นที่ออกมาทำให้ เดอะ ค็อป ทั้งโลกต้องถึงกับตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม เจอร์เกน คล็อปป์ ถึงตัดสินใจส่งดาวรุ่งประสบการณ์น้อยอย่าง เทรนท์-อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลงมายืนเป็นแบ็คขวาตัวจริงแทน นาธาเนียล ไคลน์

เพราะหากใครจินตนาการออกก็น่าจะเห็นภาพคล้ายๆกันว่า เหล่าบรรดาแข้งแนวรุกสุดอันตรายของผีแดงจะต้องลากบอลผ่านเจ้าหนูดาวรุ่งวัย 18 ปี กันสนุกทั้งเกมแน่

แต่แล้วเมื่อเกมจบลงพวกเราก็พบว่าสิ่งที่กังวลกันไปก่อนนั้นผิดไปจากความเป็นจริงโดยแทบจะสิ้นเชิง เพราะถึงแม้จะมีจังหวะผิดพลาดให้เห็นบ้าง แต่เขาก็ค่อยๆดีขึ้น นิ่งขึ้น และสามารถรับมือกับเกมใหญ่ๆที่มีความกดดันสูงสุดนี้ได้เป็นอย่างดี

หากรักษาใจ รักษาวินัย ทำงานหนักต่อไป เชื่อว่าเด็กคนนี้จะต้องเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของ เจอร์เกน คล็อปป์ ได้ในอนาคตแน่นอน

1. รูปเกมที่คุ้นเคยกำลังค่อยๆกลับมา

 

ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเราจะสังเกตเห็นได้ว่า รูปเกมที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความกระตือรือร้นของทัพนักเตะหงส์แดงนั้นหดหายไปจนน่าใจหาย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากพวกเขาต้องผ่านโปรแกรมสุดโหดที่เรียกว่าเตะกันจนแทบไม่ได้พักให้หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว

แต่หลังจากผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนั้นมาได้แล้ว เวลาพักเริ่มจะกลับคืนมาให้ได้หายใจสะดวกบ้างแล้ว รูปเกมที่เราคุ้นเคยก็เริ่มจะกลับมาให้เห็นอีกครั้ง

และในศึกแดงเดือดนี้ พวกเขาก็วิ่งไล่บอลกันสูงแบบที่เราต้องการตั้งแต่เริ่มเกม จนมีระยะรวมเกิน 5 กิโลเมตรตั้งแต่ราวครึ่งชั่วโมงแรกของเกม

ใครที่กำลังคิดว่าทีมเริ่มอยู่ในช่วงขาลง (เห็นหลายคนบ่นกันตามกลุ่มแฟนคลับมาตั้งแต่ปลายปีก่อน) น่าจะรู้ตัวแล้วว่ามองผิดไป เพราะจากทิศทางดังกล่าว เชื่อว่าหากพวกเขามีเวลาพักจนความฟิตกลับมาสมบูรณ์กว่านี้

เครื่องจักรสีแดงจะกลับมาคำรามกระหึ่มได้เต็มที่อีกครั้งแน่นอน