4 แข้งตัวอย่างเตือนสติ "ปาเยต"

"ยิ่งใกล้ตลาดปิด รอยร้าวยิ่งแตกกระจาย"

ถึงตรงนี้แทบจะเป็นที่แน่นอนแล้วนะครับว่าสถานการณ์ของ "ดิมิทรี ปาเยต" กับ เวสต์แฮม ต้นสังกัดปัจจุบันคงจบไม่สวย และอำลากันด้วยความบาดหมางไม่กินเส้น-ลงรอย

เรียกได้ว่าสตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสนั้น ออกตัวแรงว่าจะไม่ลงเล่นให้ทีม "ขุนค้อน" อีกต่อไป จริงๆไล่ตั้งแต่การปฏิเสธลงเล่นให้สโมสร, เลิกคุยกับเพื่อนร่วมทีม แถมยังโดดซ้อมดื้อๆโดยอ้างว่าบาดเจ็บอีกต่างหาก

กระนั้นในบางครั้งแล้วใช่ว่า "หญ้าเขียวขจี" ที่ใหม่จะสดใสกว่า "บ้านเก่า" เสมอไป

ในอดีต มีหลายเคสและตัวอย่างที่เลือกย้ายออกจากทีมด้วยความฝันที่หวังไปได้ดิบได้ดีกว่าที่เก่า แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าไอ้ก้าวที่เลือกนั้นไม่ต่างกับ "ถอยหลังลงคลอง"

และนี่ก็คือ "4 ตัวอย่างบทเรียนสอนใจ" ปาเยต ที่ควรคิดให้ดีก่อนจะเลือกทำอะไรต่อไป

1. นิโกล่าส์ อเนลก้า
(จาก อาร์เซน่อล สู่ เรอัล มาดริด, 1999)

 

เผลอแปปเดียว ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาเนิ่นนานกว่าทศวรรษแล้ว

หลังจากที่แจ้งเกิดเป็นพลุแตกกับ อาร์เซน่อล ให้หลังจากนั้นปีเดียว อเนลก้า ที่กำลังร้อนแรงและยิงระเบิดเถิดเทิงกลับได้รับการติดต่อจาก เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปน

แม้หลายคนรอบข้างจะกล่าวเตือนเจ้าตัวว่ายังเร็วไปที่จะย้ายซบบิ๊กทีม ทว่าขึ้นชื่อว่าวัยรุ่นย่อมทำให้ อเนลก้า นั้นใจร้อน ถึงอาร์เซน่อลจะพยายามรั้งเต็มที่ ทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจเปลี่ยนใจ "นิโก้" ได้

อเนลก้า ทำทุกวิถีทางตั้งแต่การงัดข้อกับบอร์ดบริหาร รวมถึงอ้อนวอนให้สโมสรปล่อยตนเองออกไป กระทั่งในที่สุดแล้วเจ้าตัวก็ได้ย้ายซบ "ราชันชุดขาว" สมใจอยากด้วยค่าตัวกว่า 23 ล้านปอนด์

ในจินตนาการ อเนลก้า มองว่าการย้ายซบ มาดริด น่าจะทำให้ชีวิตตนนั้นสดใส ทว่าชีวิตจริงมักตรงข้ามกับสิ่งที่ฝันเสมอ

กลายเป็นว่านับตั้งแต่นั้น อเนลก้า ต้องกลายไปเป็นนักเตะพเนจร ที่แม้จะโด่งดังแต่ก็ไปไม่สุด ต่างกับ อาร์เซน่อล ที่ได้ เธียร์รี่ อองรี มาแทน พร้อมสร้างตำนานแชมป์ไร้พ่ายอันเลื่องลือยันปัจจุบัน

บางที ถ้าเจ้าตัวเลือกอยู่ "ปืนโต" ต่อเส้นทางอาชีพน่าจะ "ไปได้ดีกว่านี้"

2. ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้
(จาก เวสต์บรอมวิช สู่ คาร์ดิฟฟ์, 2014)

 

อีกหนึ่งตัวอย่างที่นำพามาสู่ชีวิตอันพินาศหากว่าเรานั้น "เลือกซบผิดทีม"

หลังแจ้งเกิดกับ เวสต์บรอมวิช โอเด็มวิกี้ก็แสดงความปรารถนาที่จะย้ายออกจากถิ่นเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ มาโดยตลอด เจ้าตัวเคยทำเรื่องให้แฟนบอลต้องขุ่นเคือง หลังจากที่แอบไปเจรจาลับๆกับ ควีนสปาร์ค ในวันเดดไลน์ตลาดนักเตะเดือนมกราคมเมื่อปี 2013

ในครั้งนั้น เจ้าตัวได้ขับรถไปยัง คิวพีอาร์ ก่อนจะบอกสโมสรในภายหลังเพื่อขอทำเรื่องย้ายออกจากสโมสร ทว่าสุดท้ายกลับดีลล่มทำให้โอเด็มวิงกี้  ต้องอยู่กับ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ต่อจนสิ้นสุดฤดูกาล

แต่แทนที่ปีกทีมชาติไนจีเรียจะแสดงความเป็นมืออาชีพ เจ้าตัวกลับประชดสโมสรทุกวิถีทาง ทั้งการมาซ้อมซ้าย, ยอมโดนใบแดงแบบโง่ๆ จนโดนแฟนบอลต่อต้าน และเรียกร้องให้สโมสรปล่อยแข้งหัวใจทรยศนี้ออกจากทีม

นั่นทำให้ซีซั่นต่อมาเจ้าตัวก็ได้ย้ายสมใจอยาก ในเดือนกันยายนปี 2013 โอเด็มวิงกี้ก็ได้ย้ายสมใจ เจ้าตัวเลือกไปอยู่กับ คาร์ดิฟฟ์ ด้วยความหวังว่าชีวิตใหม่จะไฉไลกว่าเดิม

แต่ให้หลังจากนั้นคงเป็นแฟน "เวสต์บรอมฯ" ที่ได้แต่หัวเราะ นับตั้งแต่นั้นเป๋นต้นมาชีวิตของโอเด็มวิงกี้ ก็มีแต่ดิ่งเหวและตอนนี้ก็อยู่กับ ร็อตเธอร์แฮม ทีมบ๊วยในลีก แชมเปี้ยนชิพ

ซึ่งมีโอกาสตกชั้นไปเล่นใน "ลีก วัน"

3. ดาร์เรน เบนท์
(จาก ซันเดอร์แลนด์ สู่ แอสตัน วิลล่า, 2011)

 

ดาร์เรน เบนท์ เคยเป็นขวัญใจของแฟนบอลซันเดอร์แลนด์ หลัง 18 เดือนแรกที่อยู่กับทีมเจ้าตัวกดไปถึง 32 ตุงในลีก และนั่นน่าจะเป็นคำยืนยันที่มีน้ำหนักมากพอว่าชีวิตของเจ้าตัวนั้น "โคตรดี"

ทว่าบางทีคนเรานั้นก็มักจะไม่พอใจในสิ่งที่มีอยู่และเลือกตัดสินใจแปลกๆ หลังจากที่มี แอสตัน วิลล่า ยื่นข้อเสนอราว 18 ล้านปอนด์มาหา เบนท์ก็ออกอาการหมดใจ ขอ "แมวดำ" ย้ายทีม และทำทุกวิถีทางให้ดีลนี้เกิดสมใจ

ในช่วงแรกชีวิตของเจ้าตัวกับ "สิงห์ผงาด" นั้นดำเนินไปด้วยดี ทว่าหลังจากนั้น วิลล่า ก็โดนมรสุมอย่างหนักพร้อมกับเปลี่ยนโค้ชหลายคน เช่นเดียวกับตัวของเบนท์ ที่จากตัวหลัก เจ้าตัวก็ถูกส่งให้ทีมในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวตลอด 2 ปีสุดท้ายที่อยู่กับทีม

ปัจจุบัน เบนท์ ในวัย 32 ปีนั้นอยู่กับ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ทีมในลีกรองที่กำลังมีลุ้นขึ้นกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีก แต่ถึงจะได้ขึ้นจริง ชีวิตของเจ้าตัวนั้นก็ใช่ว่าจะภาคภูมิใจ เมื่อเป็นได้แค่สำรอง และถูกส่งลงมาแค่ยาม 10 นาทีสุดท้าย

เรียกได้ว่านับตั้งแต่ออกจาก "แมวดำ" ชีวิตของเจ้าตัวมีแต่ดิ่งเหวลง และไม่ได้ดูดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

4. ฟาเบียน เดล์ฟ
(จาก แอสตัน วิลล่า สู่ แมนฯ ซิตี้, 2015)

 

นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ "ปาเยต" น่าจะต้องพึงระวัง หากเลือกที่จะย้ายออกจาก "ขุนค้อน" จริงๆ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2015 ในตอนนั้น แมนฯ ซิตี้ยื่นเงินราว 8 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลือกในค่าฉีกสัญญาเพื่อขอคว้า เดล์ฟ กัปตันทีมของ แอสตัน วิลล่า เข้าสู่ทีม แม้จะไม่อยากเสียมิดฟิลด์ตัวเก่งรายนี้ ทว่าด้วยเงื่อนไขที่บีบบังคับทำให้ "สิงห์ผงาด" ต้องยอมปล่อย เดล์ฟ ออกจากรัง

แต่ถึงกระนั้น ดาวรุ่งพุ่งแรงรายนี้กลับทำเรื่องที่ได้ใจแฟนๆ เมื่อออกมาปัดข้อเสนอดังกล่าวของแมนฯ ซิตี้ พร้อมกับกล่าวว่า "ใจผมนั้นมีแต่เพียง แอสตัน วิลล่า ทีมเดียว ผมอยากบอกทุกคนว่าผมจะขออยู่กับสโมสรต่อไป"

เรียกได้ว่าการออกมาป่าวประกาศอยู่กับทีมต่อของ เดล์ฟ ทำเอาได้ใจแฟนบอลยกใหญ่ สาวกหลายคนชื่นชมเจ้าตัวที่แสดงความภักดีกับสโมสร

แต่แล้วเพียงแค่สัปดาห์เดียวหลังการประกาศออกไป ชนิดที่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ จู่ๆ "เดล์ฟ" กลับปรากฏภาพเข้ารับการตรวจร่างกายกับ แมนฯ ซิตี้เฉย!

"แล้วสิ่งที่เพิ่งประกาศไปนั้นคืออะไร!??" งานนี้เล่นเอาสาวกบางส่วนถึงกับมึนตึ๊บ บ้างก็สาปส่งกับการเปลี่ยนใจไป "เรือใบสีฟ้า" ของแข้งตัวเก่งรายนี้ ว่ากันว่าเป็นเพราะ แมนฯ ซิตี้ นั้นเสนอเงินเพิ่มให้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรนั้น เชื่อได้เลยว่าถึงตอนนี้แฟนวิลล่าคงสะใจกับสิ่งที่เจ้าตัวนั้น "กำลังประสบ"

ปัจจุบันจากดาวรุ่งพุ่งแรง เดล์ฟ กลายเป็นแค่ส่วนเกินของ แมนฯ ซิตี้ และแทบไม่ได้ลงสนาม โดยเฉพาะปีนี้ที่ได้เล่นแค่ 2 นัดเท่านั้น พร้อมกับหมดคราบดาวรุ่งอนาคตไกล

ชนิดที่เสียชื่ออดีต "เด็กเทพ FM" กันเลยทีเดียว!

ริท