คุยถึงตัว! "สุภโชค สารชาติ" ดาวจรัสแสงแห่ง "ทัพปราสาทสายฟ้า"

"ตอนนี้เขามีอายุแค่ 17 ปี แต่อีก 2 ปีข้างหน้า นี่จะเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในประเทศไทย" นั่นคือคำกล่าวของ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคยพูดถึง "สุภโชค สารชาติ" ดาวรุ่งผลผลิตจาก อคาเดมี่สโมสร "ปราสาทสายฟ้า" เมื่อปี 2015

มาวันนี้ "เจ้าเช็ค" เติบโตขึ้นอีกหนึ่งปี ภายใต้การลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของสโมสรเป็นที่เรียบร้อย แถมเกมล่าสุดที่ "ปราสาทสายฟ้า" บุกถล่ม พนมเปญ คราวน์ เอฟซี จากกัมพูชา แบบสุดยับเยิน 6-0 ในศึกฟุตบอล ช้าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาเซียนทัวร์ 2017 เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างสวยหรู ด้วยการจ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู และยิงเอง 2 ประตู คว้าแมน ออฟเดอะแมทช์ในเกมนี้ สร้างความประทับใจให้กับสาวก GU12 เป็นอย่างมาก

ซึ่งหลังเกมนายใหญ่แห่งปราสาทสายฟ้า ได้พูดถึงเจ้าตัวว่า "สำหรับสุภโชค หลังจากนี้ต้องสม่ำเสมอมากขึ้น และมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต่อไป ปีนี้บุรีรัมย์ดันนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาหลายคน ดีใจที่ทุกคนที่ขึ้นมามีผลงานดี และพร้อมที่จะเป็นตัวหลักให้บุรีรัมย์ต่อไปได้ 5-10 ปี ก็ดีใจที่ผลงานอคาเดมี่ของเราเริ่มออกดอกออกผลแล้ว ถือเป็นกำลังใจชั้นดี"

วันนี้เราลองไปทำความรู้จักกับเจ้าตัวกันว่า มีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน

Sanook Sport : ชีวิตในวัยเด็ก ก่อนที่จะหันมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เป็นอย่างไร?
สุภโชค : ชีวิตวัยเด็กก็เหมือนเด็กทั่วๆไป เตะบอลตามประสาไม่ได้จริงจังอะไร โดยหน้าบ้านของตนก็เป็นโรงเรียน เวลาเย็นๆก็ออกมาเตะบอลเล่นกับน้ากับพี่ๆในหมู่บ้าน เพื่อออกกำลังกายเท่านั้น

Sanook Sport : เมื่อครั้งที่เข้ามาคัดตัวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คิดอย่างไรถึงมาสมัคร?
สุภโชค : อาจารย์ในโรงเรียนขุขันธ์ เป็นผู้พามาทดสอบฝีเท้า โดยมากับเพื่อนประมาณ 4-5 คน ไม่ได้บอกทางบ้านด้วยว่าไปคัดตัว เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะตอนนั้นอายุเพียง 13 ปี แต่มาคัดตัวในรุ่นอายุ 16 ปี ก็เหมือนกับมาขอลองทดสอบฝีเท้าเฉยๆ แต่ดันติดก็เลยตัดสินใจย้ายจากศรีสะเกษ มาเรียนที่โรงเรียนภัทรบพิตร ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอคาเดมี่ของสโมสรในรุ่นอายุ 16 ปี ก่อนก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้สำเร็จในปัจจุบัน

Sanook Sport : แปลกใจไหมที่ตัวเอง ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในเวลารวดเร็วแบบนี้?
สุภโชค : แปลกใจครับ! ไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะให้โอกาสดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เพราะเพื่อนร่วมทีมก็มีฝีเท้าดีๆหลายคน แต่ก็ดีใจครับที่ผู้ใหญ่เห็นถึงความสามารถ และผลักดัน

Sanook Sport : นายใหญ่ (เนวิน ชิดชอบ) เหมือนตั้งความหวังไว้มาก กดดันหรือเปล่า?
สุภโชค : ถามว่ากดดันมั้ย มันก็มีพอสมควร เค้าตั้งความหวังไว้กับเรา เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด

Sanook Sport : มากันที่เรื่อง ความหวัง และความฝันสูงสุดของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ?
สุภโชค : เป้าหมายสูงสุดคืออยากทำผลงานให้ดีกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อโอกาสในการติดทีมชาติชุดใหญ่ ส่วนอีกเรื่องที่ฝันก็คือในอนาคต อยากลองไปหาประสบการณ์ค้าแข้งในต่างประเทศสักครั้งในชีวิต

Sanook Sport : คิดว่าตัวเองมีจุดเด่นตรงไหน ที่คิดว่าช่วยทีมได้มากที่สุด?
สุภโชค : ก็คงเป็นในเรื่องของความเร็ว ความคล่องตัว และความสามารถในการเลี้ยงหลบคู่แข่งเพื่อสร้างเกมบุกให้กับทีม

Sanook Sport : "อิเนียสต้าเมืองไทย" กดดันมั้ยที่ได้ฉายานี้มา?
สุภโชค : กดดันอยู่แล้วครับ เพราะ อันเดรส อิเนียสต้า เขาฝีเท้าเก่งมากจริงๆ และผมก็ไม่คิดว่าจะได้ฉายานี้มาด้วย เพราะเขาเก่งกว่าผมมาก

Sanook Sport : มีนักเตะในดวงใจที่เป็นต้นแบบมั้ย?
สุภโชค : ถ้าอย่างในทีมก็จะเป็น "พี่โน๊ต" จักรพันธ์ แก้วพรม และ "พี่กบ" สุเชาว์ นุชนุ่ม สองรุ่นพี่ใหญ่ของทีมที่คอยแนะนำสิ่งดีๆให้เสมอ ส่วนแข้งต่างประเทศผมชอบ อเล็กซิส ซานเชซ ดาวเตะทีมชาติชิลี เพราะผมเป็นสาวกของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

Sanook Sport : ช่วยกล่าวอะไรถึงแฟนๆ และเป้าหมายในซีซั่นนี้หน่อย
สุภโชค : ก็ขอบคุณแฟนๆที่ติดตามผลงาน ผมยังคิดว่าผมสามารถเล่นได้ดีกว่านี้อีก ก็ต้องขอบคุณสต๊าฟโค้ช และเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยเหลือกัน สำหรับฤดูกาลนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่ผู้ใหญ่จะให้โอกาส แต่จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด