มิลานทำตัวเอง

บิ๊กแมตช์ที่จูเซ็ปเป้ เมี้ยซซ่า เมื่อคืนวันเสาร์ เชื่อว่าขุนพล 'ปีศาจแดงดำ' เอซี มิลาน และแฟนบอลคงจะเซ็งกันไม่น้อยที่ทีมเล่นดี แต่แพ้นาโปลีคาบ้าน

เข้าทำนองเล่นดีไม่ชนะ (มิลาน) เล่นไม่ดีแต่ชนะ (นาโปลี) ที่ได้ยินกันมานานในวงการฟุตบอล คราวนี้โชคร้ายเป็นของมิลานครับที่ไปอยู่ในฝ่ายที่ไม่ชนะ หลังจากที่ที่ผ่านมามีอยู่บ้างเหมือนกันที่เล่นไม่ดีแต่เก็บ 3 คะแนนได้

ถ้าเอาเกม 10 นาทีแรกออก มิลานคงจะเป็นฝ่ายชนะครับ เนื่องจากเกมนี้พวกเขาเสีย 2 ประตูตั้งแต่ไก่โห่ เพราะความกระหายที่จะขึ้นนำมากซะจนขาดความรัดกุม

ด้วยสปิริตนักสู้ นักเตะของมอนเตลล่า ฮึดกลับมาสู่เกมได้จากการยิงของยูราย คุชก้า ช่วงท้ายครึ่งแรก หลังจากนั้นก็บุกต่อเนื่อง และสร้างโอกาสตีเสมอได้หลายครั้งหลายหน แต่โชคดูเหมือนว่าจะอยู่ทีมเสื้อสีฟ้ามากกว่า

มิลานบุกแบบผลีผลามทำให้พวกเขาเสีย 2 ประตู ขณะที่นาโปลี ก็ย่ามใจที่นำ 2-0 แล้วก็คิดว่าสบายตัวแล้ว ทว่าครึ่งหลังโดนกดดันหนัก เกือบจะเสียประตูที่สองเช่นกัน สรุปได้ว่าสองทีมผิดพลาดด้วยกันทั้งคู่

สองประตูที่มิลานเสียในช่วง 10 นาทีแรกคงต้องบอกว่าเป็นความไม่ละเอียดของฟูลแบ็กเจ้าบ้านที่ดันสูงเกินเหตุ ทำให้นาโปลีได้จังหวะสวนกลับ ลูกแรกตรงพื้นที่ว่างด้านซ้ายของมิลาน เมอร์เท่นส์ตวัดข้ามฟากมาทางแบ็กขวามิลานที่ดันสูงเช่นกันให้อินซินเญ่ กระชากไปยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาด

มาประตูที่สอง นาโปลีโต้ขึ้นมาทางด้านซ้ายของมิลาน คราวนี้เป็นเมอร์เท่นส์ที่ไปตรงที่ว่างที่แบ็กซ้ายมิลานทิ้งไว้ให้ ก่อนจะจ่ายตัดแผงหลังให้กาเญฆอน ยิงมุมแคบลอดขาดอนนารุมม่าเข้าประตูไป

ดอกแรกโดนนาโปลีลงโทษแล้วก็นึกว่าจะนึกได้ว่าผู้เล่นริมเส้นนาโปลี แต่ละตัวจี๊ดๆ ทั้งนั้น รวมถึงเมอร์เท่นส์ ที่ถูกจับเล่นกองหน้าตัวเป้า แต่ตำแหน่งถนัดคือเล่นริมเส้น

ฝั่งนาโปลีเองก็ผิดพลาดเช่นกันครับ เริ่มตั้งแต่จังหวะที่โตเนลลี่ และจอร์จินโญ่ทำเสียบอลให้ยูราย คุชก้า ยิงให้เจ้าบ้านไล่มาในนาที 37 ทำให้มิลานกลับมามีความหวัง

เกม 30 นาทีแรกของครึ่งหลัง มิลานเป็นฝ่ายพับสนามบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง และรวดเร็ว นาโปลี ที่ปกติจะเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าคู่แข่ง และเซ็ตเกมกันเร็วเพื่อเข้าทำ กลายเปนฝ่ายตั้งรับ จบเกมแล้วนาโปลีครองบอลแค่ 43.1 เปอร์เซ็นต์ นับว่าน้อยสุดสำหรับพวกเขาตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา

ช่วงครึ่งหลังที่มิลานบุกหนัก นาโปลีมีโอกาสเช่นกันที่จะนำ 3-1 ที่พวกเขาได้โอกาสจากลูกสวนกลับ แต่เมอร์เท่นส์พลาดโอกาสงามๆ ไปสองหน

ทีมปีศาจแดงดำ ครองเกมบุกได้ต่อเนื่อง มีโอกาสที่จะตีเสมอเช่นกันจากบักก้า (นาที 68) แต่เป็นเรน่าที่ป้องกันไว้ได้ นอกจากนั้นยังมีจังหวะสวยๆ ที่จะตีเสมออีกสองสามหน รวมถึงช่วงต้นครึ่งหลังที่ปาซาลิชโหม่งไปชนคานด้วย จบเกมที่บีบหัวใจสำหรับทั้งสองฝั่งก็เป็นนาโปลีที่บุกมาชนะ 2-1 พร้อมกับทำสถิติไม่แพ้ใครมา 10 เกมแล้ว ขณะที่มิลาน อยู่ๆ ก็ชอร์ตเอาดื้อๆ ผลงาน 5 นัดหลังในลีกชนะได้แค่ครั้งเดียว

เหมือนกับว่าช่วงระหว่างสัปดาห์นาโปลีจะได้ยาดีหรืออย่างไรครับ เนื่องจากว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานของทีมมาดูการฝึกซ้อมของขุนพลอัซซูร่า

ขณะที่ฮีโร่อินซินเญ่ นอกจากจะยิงประตูสวยๆ ในช่วงต้นเกมแล้ว ยังได้แรงบันดาลใจจาก 'เสือเตี้ย' หรืออย่างไร ถึงได้ลองยิงจากกลางสนามจังหวะที่ดอนนารุมม่าออกมาไกล ที่ทำให้แฟนๆ มิลานหวาดเสียวอยู่เหมือน

กับมิลานแล้ว อินซินเญ่ มักจะเล่นได้ดีเป็นพิเศษครับ ประตูที่เขายิงได้เมื่อวันเสาร์ก็ปรากฎว่าเป็นประตูที่ 5 แล้วที่ทำได้ และก็เป็นประตูที่ 3 ใน 2 นัดที่เขาเล่นในบ้านทีม 'ปีศาจแดงดำ'

มาวันนี้ อินซินเญ่ กำลังจะกลายเป็นผู้นำของทีม เนื่องจากว่าระยะหลัง อินซินเญ่ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น แต่อนาคตก็ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่นาโปลีหรือไม่ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโค้ชซาร์รี่ไม่ดีเท่าไหร่ และตำแหน่งของเขาอาจจะสั่นคลอนอีกครั้งเมื่ออาร์คาดิอุสซ์ มิลิคกลับมา ที่ถึงตอนนั้นตัวอินซินเญ่ ก็ต้องแย่งตำแหน่งกับเมอร์เท่นส์ ที่ฟอร์มดีต่อเนื่อง

ช่วงต้นฤดูกาล แฟนๆ คงจะจำได้ว่าอินซินเญ่มีข่าวย้ายทีมเพื่อหาตำแหน่งตัวจริง และก็มีข่าวว่าเขาได้คุยกับผู้บริหารมิลานด้วยเรื่องย้ายทีม ก็ต้องมาดูกันครับว่าจบฤดูกาลแล้วมอนเตลล่า ที่เป็นคนเมืองนาโปลีเหมือนอินซินเญ่ (คนเดียวในทีมนาโปลีปัจจุบันที่เกิดที่นาโปลี) จะสานต่อดึงเขามาอยู่ด้วยกันที่ซาน ซิโร่มั้ย

ที่แน่นอนก็คือถึงเวลานั้นมิลานมีเงิน(จากจีน)ให้ช็อปแน่

อีกคู่ที่เล่นกันวันเสาร์ครับ คิเอโว่ เปิดบ้านเจอฟิออเรนติน่า ผลการแข่งขัน ทีมวิโอล่าเป็นฝ่ายที่บุกมาชนะอย่างขาดลอย 3-0

รูปเกมช่วงแรกนัดนี้ดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็น 3-0 สำหรับทีมเยือนเนื่องจากคิเอโว่บุกได้ต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะขึ้นนำในช่วง 15 นาทีแรกจากคาสโตร และเมจจอรินี่

ทว่าคิเอโว่ที่มาดีในช่วงแรก กลับทำเกมของตัวเองเสีย เริ่มตั้งแต่ดาอิเนลลี่ ที่จ่ายบอลเสีย และโดนเตโย่ฉกไปยิงให้ทีมเยือนออกนำ

มาครึ่งหลังคิเอโว่มาเสียค่าโง่อีก จากจังหวะที่คัชชาตอเร่ทำฟาวล์คิเอซ่าโดยไม่จำเป็นในกรอบโทษ เนื่องจากลูกอยู่เกือบจะสุดเส้นหลัง จากลูกจุดโทษก็เป็นบาบาการ์ที่ยิงเข้าไปไม่พลาด

หลังจากได้สองประตู ฟิออเรนติน่า เน้นครองบอลเพื่อทำลายเวลาไปเรื่อย กระทั่งช่วงทดเจ็บก็มาได้ประตูที่ 3 จากการยิงของเฟเดริโก้ คิเอซ่า ในจังหวะสวนกลับ

เป็นลูกแรกของคิเอซ่า จูเนียร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเอ็นริโก้ คิเอซ่า อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลี และฟิออเรนติน่า ที่ยิงไป 138 ประตูในเซรี่ อา

ก็เป็นอันว่าลูกชายเริ่มต้นนับหนึ่งไปแล้ว มารอดูกันยาวๆ ว่าเฟเดริโก้ ที่ยิงลูกแรกได้ในวัย 19 จะคมกว่าผู้พ่อมั้ย

อาจจะเป็นการเจริญรอยตามที่ไม่ง่ายครับเนื่องจากคิเอซ่า เล่นเป็นศูนย์หน้า ส่วนลูกชายเล่นเป็นกองหน้าริมเส้น ที่ตำแหน่งการทำประตูดูจะยากกว่า