ดิมิทรี ปาเยต = "ทหารรับจ้าง???"

ดิมิทรี ปาเยต = "ทหารรับจ้าง???"

ดิมิทรี ปาเยต = "ทหารรับจ้าง???"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกริ่นหัวคอลัมน์ฉบับนี้หลายท่านอาจเลิกคิ้วขมวดนึกสงสัยว่าปัจจุบันนี้มันยังมีทหารรับจ้างกันอยู่อีกหรือ ในเมื่อโลกของเรานั้นพัฒนาก้าวหน้าจนปราศจากซึ่งสงครามล้างเผ่าพันธุ์แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแทบทุกอาชีพบนโลกใบนี้ สามารถใช้คำจำกัดความว่า “ทหารรับจ้าง” ได้ เนื่องจากความหมายไม่ต่างกันมากนัก เมื่อล้วนแล้วแต่คำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก โดยไม่สนใจองค์ประกอบภายนอก

ฟุตบอลยิ่งแล้วใหญ่ ในยุคที่วงการลูกหนังขับเคลื่อนด้วยระบบทุนนิยม หลายสิ่งหลายอย่างจึงสามารถเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เพียงแค่ยกมือ เพียงมีปัจจัยสำคัญที่เรียกว่า “เงิน”

ใครจะไปเชื่อละครับว่าวันหนึ่งเราจะได้เห็นนักเตะระดับโลกอย่าง คาร์ลอส เตเวซ, จอห์น โอบี มิเกล, อาเซล วิตเซล, ออสการ์, อเล็กซานเดร ปาโต้ หรือ เปเป้ เลือกทิ้งสมรภูมิอันเอกอุบนเวทียุโรป ย้ายไปค้าแข้งในไชนีส ซูเปอร์ ลีก

 633097590

ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายมาเป็นประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ กันอยู่พักใหญ่ เมื่อแฟนบอลตราหน้าดาวดังเหล่านั้นว่าล้วนทรยศต่อศักดิ์ศรีความเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เลือกทิ้งความสำเร็จเพื่อไปรับเงินก้อนโต

แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้ไม่มีใครผิดเลย มันจะแปลกอะไรหากนักเตะสักคนหนึ่งจะย้ายทีมเพื่อไปรับค่าเหนื่อยที่ดีกว่า เมื่อทุกคนทำงานหวังแสวงหาความก้าวหน้าในชีวิต? เพียงแค่คำจำกัดความแตกต่างกัน

กลับกันควรจะเป็นบรรดาสโมสรในยุโรปมากกว่าที่ต้องหันกลับมามองตัวเองใหม่ ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีศักยภาพมากเพียงพอรั้งนักเตะเหล่านั้นเอาไว้ ปล่อยให้ “เงิน” มาลดทอนคุณค่าเกียรติยศของพวกเขาได้อย่างไร

เอาละ หลังพาทุกท่านไปทัวร์แม่น้ำกันเสียนาน เรามาเข้าเรื่องที่จะพูดคุยกันในฉบับนี้ดีกว่า เมื่อความร้อนแรงและกระแสการพูดถึงกรณีของ ดิมิทรี ปาเยต นั้นไม่ยื่งหย่อนไปกว่าตลาดจีนที่กำลังเฟื่องฟู

 630179560

อย่างที่เราทราบกันดีครับว่า ปาเยต นั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อนำยักษ์หลับแห่งกรุงลอนดอน กลับมาเชิดหน้าชูตาบนเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง และได้รับมอบหมายบทบาทสำคัญในการเป็นขุนพลหลักที่จะใช้สร้างทีมใหม่

โปรเจ็กต์ดังกล่าวของ เวสต์แฮม ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจาก ปาเยต เมื่อเลือกที่จะปฏิเสธบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป พร้อมต่อสัญญาฉบับใหม่ระยะยาวออกไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ เรียกว่าได้ใจสาวก “ขุนค้อน” ไปเต็มเปา

อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายที่ไม่สู้ดีของ ปาเยต ซึ่งติดตัวมาจากการช่วยทีมชาติฝรั่งเศส คว้ารองแชมป์ยูโร 2016 ทำให้ฟอร์มช่วงออกสตาร์ตซีซั่นใหม่ของเวสต์แฮมมีปัญหา ก่อนจะลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากเกินแก้ไข

ว่าแล้วเมื่อตลาดซื้อขายเปิดทำการ ปาเยต ก็เลยแจ้งไปยังสโมสรว่าต้องการย้ายสังกัด และจะไม่ลงสนามให้ทีมอีกแล้ว จนโดน เวสต์แฮม ลงดาบส่งไปฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนของสโมสร พร้อมยื่นคำขาดว่าจะไม่ปล่อยตัวหากราคาไม่โอเค

 545901080

ขณะเดียวกันการประกาศย้ายทีมของ ปาเยต ก็ดึงดูดความสนใจจากบรรดาสโมสรในไชนีส ซูเปอร์ ลีก ถึงขนาดมีข่าวว่าพร้อมทุ่มเงิน 36 ล้านปอนด์ ให้เวสต์แฮม พิจารณา พร้อมค่าเหนื่อยก้อนโตที่ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสไม่อาจปฏิเสธได้

กระนั้น ปาเยต กลับเลือกปฏิเสธข้อเสนอก้อนโตจากแดนมังกร พร้อมยืนยันว่าต้องการย้ายกลับไปค้าแข้งที่บ้านเกิด ฝรั่งเศส กับอดีตสังกัดเก่าอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย เท่านั้น เนื่องจากไม่มีความสุขที่อังกฤษ และคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับครอบครัว แม้จะโดนลดค่าเหนื่อยลงก็ตาม

โอ้โห! ทุกคนคิดเหมือนผมไหมครับ การตัดสินใจของ ปาเยต โคตรจะแมนเลย ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว เขาจำเป็นต้องตัดสินใจเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนในบ้านสุขสบาย

หากจะผิดก็เพียงเรื่องเดียว นั่นคือการทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทั้งที่ผ่านการค้าแข้งบนเส้นทางนักเตะมานานกว่า 13 ปี แต่พอถึงคราวไม่ได้ดั่งใจก็ทำตัวงอแงมันเสียดื้อๆ แบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะสโมสรไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย

 ssssssssssssss

ทว่าหากมองย้อนกลับไปในอดีต นักเตะอย่าง ปาเยต ก็ไม่ใช่ฮีโร่ในสายตาใครอยู่แล้ว เพราะครั้งหนึ่งก็เคยพยายามผลักดันการย้ายทีมจาก แซงต์-เอเตียน ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แม้ไม่เป็นผล แต่ท้ายที่สุดก็โยกซบ ลีลล์ อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม ด้วยวุฒิภาวะที่เพิ่มมากขึ้น ปาเยต เริ่มพัฒนาความเป็นมืออาชีพในทุกเกมที่ลงสนาม การปฏิเสธย้ายออกจากเวสต์แฮม ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นนัยสำคัญที่เราต้องหาคำตอบว่าทำไม ดาวเตะวัย 29 ปี ต้องผลักดันการย้ายทีมแบบหัวเด็ดตีนขาด แทนการพูดคุยดีๆ กับสโมสร

ซึ่งไม่ว่าเรื่องราววงในจะเป็นอย่างไร เวลานี้ ปาเยต ได้รับการชูมือในฐานะผู้ชนะแล้ว เมื่อท้ายที่สุดเขาสมหวังในการย้ายกลับมายังสถานที่ที่เรียกว่า “บ้าน” เมื่อ เวสต์แฮม ไม่มีทางเลือกยอมตอบรับข้อเสนอ 25 ล้านปอนด์ จากมาร์กเซย

 633085410

งานนี้ ปาเยต จะได้กลับไปใช้ชีวิตและเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขอีกครั้งกับมาร์กเซย ซึ่งเจ้าของสโมสร แฟรงค์ แม็คคอร์ท กำลังดำเนินแผนการใหม่ชื่อว่า “Champions Project” หวังปลุกยักษ์หลับหวนคืนสู่ฟลอร์หญ้าอีกครั้ง

ส่วน เวสต์แฮม ก็ได้บทเรียนอันล้ำค่าสำหรับการรับมือสตาร์ดังในอนาคต ว่าในยุคนี้สโมสรอย่างพวกเขาไม่อาจทำตัวเหนือสตาร์ราคาแพงได้ และควรหาทางออกที่ดีกว่านี้ในการแยกทาง ไม่ใช่สร้างเรื่องสร้างราวจนวุ่นวายไปหมด

...เพราะนักเตะบางคนนั้นไม่ได้เห็นแก่เงินเพียงอย่างเดียว การใช้ชีวิตในทุกวันให้มีความสุข คือเหตุผลสำคัญที่เรายังหายใจกันอยู่มิใช่หรือ?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook