"วันวินาศกรรมยานแม่"

"วันวินาศกรรมยานแม่"

"วันวินาศกรรมยานแม่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสรปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตัดสินใจปลด โลร็องต์ บล็องก์ ผู้ที่อุตส่าห์พาทีมคว้าเทรบเบิลแชมป์ในประเทศ 2 ปีซ้อน ออกจากตำแหน่ง

แล้วนำ อูไน เอเมรี่ โค้ชผู้เคยพาเซบีญ่า ซิวแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 3 ปีซ้อน มาร่วมงานในถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งส์ โดยให้เหตุผล (ที่น่าฟัง) ว่า “ผมต้องการเห็นเปแอสเชคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก”

ท่ามกลางความสงสัยของเหล่าสาวก “ปารีเซียงส์” ว่า จะไหวมั้ย เพราะออกสตาร์ตฤดูกาลกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน แถมบอลยุโรป ดันเข้ารอบในฐานะอันดับสองของกลุ่ม

แล้วต้องจับสลากมาพบกับ บาร์เซโลน่า ทีมที่เอเมรี่มีสถิติการคุมทีมดวลกัน น่าถอนใจยิ่งนัก 23 นัด กับ 3 สโมสรที่ทำงาน ชนะแค่ “นัดเดียว” และแพ้ถึง 16 เกม!

 635371126.jpg

โจทย์ของเอเมรี่ ในการดวลกับ “อาซูลกราน่า” เมื่อคืนวันอังคาร คือ ชนะแบบไม่เสียประตู และต้องไม่ให้ 3 ประสาน MSN ของบาร์ซ่า ทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก

ถึงแม้ว่า ยักษ์ใหญ่แห่งปารีส จะมีปัญหาในแนวรับ เนื่องจากติอาโก้ ซิลวา บาดเจ็บ, ติอาโก้ ม็อตต้า ติดโทษแบน แถมต้องส่งเพรสนัล คิมเปมเบ้ ดาวรุ่งฝรั่งเศสวัยแค่ 21 ลงตัวจริงนัดแรก ก็เจอกับเกมใหญ่เลยทีเดียว

แต่ไอ้การแพ้บ่อยๆ จนเคยชินนี่แหละ มันเป็นวัคซีนคุ้มกันอย่างดี เพราะยิ่งต้องพยายามค้นหาวิธีที่จะปราบทีมที่มาจากเอเลี่ยน ที่ว่ากันว่าเทพที่สุดในโลกให้จงได้

ภาพรวมของเกมนี้ เทรนเนอร์ฝั่งเจ้าบ้าน จัดการเล่นเพรสซิ่ง กดดันนักเตะต่างดาวจนโงหัวไม่ขึ้น ตั้งเกมของตัวเองไม่ได้เลย และสัญญาณอันตรายก็คือ แผงกองกลางของเปแอสเช ข่มแผงกองกลางทีมเยือนอย่างชัดเจน

 635343114.jpg

ทีมของเอเมรี่ มีแผงกองกลางตัวพลิ้วๆ อย่างอังเคล ดิ มาเรีย, ลูคัส มูร่า, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ รวมทั้งตัวใหม่ถอดด้ามอย่างจูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์

แดนกลางเหล่านี้ ช่วยกันหยุดยั้ง ไม่ให้แผงมิดฟิลด์บาร์ซ่า ส่งบอลไปให้ ลิโอเนล เมสซี่ ที่อดีตโค้ชเซบีญ่า ทราบดีว่า เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของทีม

และหลังจากที่ ดิ มาเรีย ยิงฟรีคิกสุดสวยให้ทีมขึ้นนำ รูปเกมก็เปลี่ยนไป นักเตะเจ้าบ้านในชุดสีกรมท่า ลงไปในแดนตัวเองทั้งทีม เล่นตั้งรับและรอสวนกลับ

ผู้เล่นบาร์ซ่า ต้องแก้ปัญหาด้วยการครองบอล เพื่อหาช่องเข้าเจาะ แต่ก็ทำได้ไม่ดีมากนัก เนย์มาร์ คือแนวรุกที่เล่นดีที่สุดของบาร์ซ่า ในเกมนี้

 635359734.jpg

ขณะที่เมสซี่ และ “หม่อมเหยิน” หลุยส์ ซัวเรซ โดนลักพาตัวหายไปจากเกมทั้งคู่ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมบุกมากนัก นี่คือหมากที่เทรนเนอร์ปารีส เดิมพันแล้วได้ผลจริงๆ

และเมื่อแผงกองกลางบาร์ซ่า ถูกโจมตี บีบจนอยู่หมัด บวกกับแนวรับที่มีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว เท่านั้นแหละ เปแอสเช เล่นสบายๆ เลยครับท่าน

หลุยส์ เอ็นริเก้ ก็แก้เกมได้ช้าเหลือเกิน อันเดรีย โกเมส เล่นห่วยบรม ต้องเปลี่ยนราฟินญ่าลงมาแทน ส่วนอันเดรียส อิเนียสต้า เล่นได้ครึ่งๆ กลางๆ ถูกเปลี่ยนตัวออกเช่นกัน

และจากรูปเกมที่เหนือกว่าของปารีส ประตูที่ 2, 3 และ 4 ก็ถือเป็นโบนัสจากความพยายามของพวกเขา จบเกม ยอดทีมจากนอกโลกอย่างบาร์ซ่า โดนถล่มจนพังพินาศอย่างไม่น่าเชื่อ

ถึงแม้จะเหลือเกมให้แก้ตัวอีก 1 นัด แต่แฟนๆบาร์ซ่า ไม่ต้องมาคิดแบบโลกสวยนะครับว่า ยังมีลุ้นเข้ารอบ เพราะการต่อให้ก่อนถึง 4 ลูก แถมไร้อะเวย์โกลติดมือ ไม่ต่างอะไรกับ “ตามควาย” ชัดๆ

แต่สำหรับอูไน เอเมรี่ และแฟนบอลปารีเซียงส์ทั่วหล้า ต่างก็เก็บบันทึกแมตช์นี้ ไปอยู่ในความทรงจำที่ดีตลอดกาลอย่างแน่นอน...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook