สูตรเด็ดบาร์ซ่ารับฤดูกาลใหม่

จบไปเรียบร้อยแล้วสำหรับฟุตบอลลา ลีกา นัดประเดิมสนามสำหรับทุกทีม จริงๆต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาคือแมตช์ที่ 2 ตามปฏิทินการแข่งขันของทุกทีม ส่วนแมตช์แรกที่เลื่อนไปนั้นยังไม่มีกำหนดลงสนามว่าจะเมื่อไหร่

ทว่าเพียงการออกตัวนัดแรกก็เห็นหน้าเห็นตากันแล้วว่า 2 ทีมเต็งอย่างบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริดมีความพร้อมมากแค่ไหนกับฤดูกาลนี้

มาดริดบุกไปกระทุ้งซาราโกซ่า 6-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ระเบิดแฮตทริกทำคนเดียว 3 ประตู พร้อมฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของทีมราชันชุดขาว

ในส่วนของบาร์เซโลน่า มีประเด็นที่น่าสนใจนั่นก็คือ ระบบที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วางไว้ในเกมนี้ก็คือ 3-4-3 โดยวางแนวรับไว้ 3 คน
แดนกลาง 4 คนและกองหน้า 3 คน โดยดร็อป ชาบี้ และ ดาวิด บีญ่าไว้ที่ข้างสนาม และใส่เชส ฟาเบรกาสลงทำเกมร่วมกับ ธิอาโก้ และอันเดรส อินิเอสต้า โดยมีเซย์ดู เกอิต้า ลงเบรกเกม

ส่วนแนวรับใช้ เอริก อบิดัล, มาสเชราโน่ และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ คุมเกมรับ ขณะที่แนวรุก ใช้ลิโอเนล เมสซี่,อเล็กซิส ซานเชซ และ เปโดร โรดริเกซนำทัพ

ซึ่งระบบดังกล่าวบาร์ซ่าจะมีการใช้งานต่อเนื่องในฤดูกาลนี้แน่นอน เพราะปีนี้บาร์ซ่ามีกองหลังใช้งานในจำนวนจำกัด นั่นคือ ดาเนี่ยล อัลเวส,แม็กซ์เวลล์,อาเดรียโน่,ปูโยล,ปีเก้ และอบิดัล

ส่วนตัวเสริมเผื่อฉุกเฉินนั่นคือ ฮาเบียร์ มาสเชราโน่ และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์

ผลงานในเกมกับบีญาร์เรอัลนั่นคือคำตอบได้ดีว่า ทุกอย่างลงตัวและมีการซ้อมมาเป็นอย่างดีแล้ว ที่สำคัญระบบนี้ยืดหยุ่นได้ตามวาระ ซึ่งทุกตำแหน่งของบาร์เซโลน่าหมุนเคลื่อนตัวตลอดเวลาไม่เป็นที่

เจอแบบนี้คู่แข่งแต่ละทีมที่มาเจอก็ต้องหัวหมุนเป็นธรรมดา โดยเฉพาะแดนกลางไปหน้า ทุกตำแหน่งสอดประสานเกมรุกกันได้เป็นอย่างดี เดี๋ยวขวา,เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวเจาะตรงกลาง

ที่จริงระบบนี้ไม่ใช่ว่าบาร์ซ่าไม่เคยใช้นะครับ เคยแล้วและรุ่งเรืองมากในสมัยของโยฮัน ครอยฟ์ และกวาดแชมป์ ลา ลีกามา 4 สมัย แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (เดิม) ซึ่งเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เป็นหนึ่งในฟันเฟืองของทีมชุดนั้น และก็เป็นธรรมดาที่จะนำมาใช้เมื่อตัวเองต้องคุมทีม

ส่วนในยุคของแฟรงค์ ไรจ์การ์ด ก็เคยนำระบบ 3-4-3 มาใช้ ตอนนั้นหัวหอกในแนวรุกนั่นคือซามูเอล เอโต้ และ โรนัลดินโญ่ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

ทีนี้เมื่อเหล่าแนวรับตัวสำคัญหายเจ็บกลับมา บาร์ซ่าก็จะคืนสู่สภาพเดิมคือ 4-3-3 โดยที่มีตัวสำคัญ อย่างเมสซี่, ชาบี้, อินิเอสต้า และปีเก้ เป็นหลัก ที่เหลือยืดหยุ่นตามสถานการณ์

อ้อ! ที่สำคัญระบบเยาวชนของทีม อซูลกรานา ที่เด่นชัดที่สุดคือ ธิอาโก้ อัลคันทาร่า และ โจนาธาน ดอส ซานโต๊ส ดาวรุ่งชาวเม็กซิกัน ที่ขึ้นชั้นมาเสริมในปีนี้ รายแรกมีโอกาสมากหน่อยส่วนรายหลังน่าจะมีโอกาสในส่วนของฟุตบอลถ้วยมากที่สุด

ส่วนผลงานเมื่อวันจันทร์ทำให้บาร์เซโลน่า ทำสถิติออกสตาร์ตเกมในบ้านและไม่แพ้ใครเป็นเวลานนานถึง 72 ปีเข้าไปแล้ว โดยผลงานนี้เริ่มตั้งแต่ วันที่ 3 ธันวาคม 1939 ในส่วนของบิคตอร์ บัลเดสก็ทำสถิติลงสนามมากที่สุด เทียบเท่ากับ อันโดนี่ ซูบีซาเรต้า ตำนานนายทวารของทีม โดยลงสนาม 410 เกมใน 10 ฤดูกาลที่เขาเล่นกับทัพอซูลกราน่า

และแน่นอนว่าสถิติของบัลเดสจะทำลาย ซูบี้ ที่เวลานี้เป็นสปอร์ต ไดเร็กเตอร์ของทีมแน่นอน ที่ผ่านมา บัลเดส ลงสนามนัดแรกให้บาร์ซ่าเมื่อปี 2012 จากนั้นในฤดูกาล 2003/04 เขาก็ยึดตำแหน่งมือ 1 ของทีมมาตลอด และได้ตำแหน่ง "ซาโมร่า" หรือนายทวารยอดเยี่ยมที่เสียประตูน้อยที่สุด 4 สมัย (2005, 2009, 2010, 2011)

อย่างไรก็ตาม บัลเดสวัย 29 ปีที่ลงสนามไป 410 เกมนั้นแบ่งเป็น ในลีก 296, แชมเปี้ยนส์ ลีก 82 โคปา เดล เรย์ 12, ชิงแชมป์ สโมสรโลก 4, ยูฟ่า คัพ 5, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 8 และยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 3 ระหว่างนั้นเขาเสียประตูไป 323 ลูก เฉลี่ยแล้วเกมนึงเจ้าตัวโดยเจาะตาข่ายไปเพียง 0.78 ลูกต่อเกม

และระหว่าง 10 ฤดูกาลในคัมป์ นู เขาคว้าแชมป์ 17 รายการ โดยเฉพาะลา ลีกา 5 ครั้ง และ แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ครั้ง

เรื่องโดย "เอล มาทาดอร์"

ขอบคุณเนื้อหาจากคอลัมน์ ลา ลีกาเอ๊กซ์คลูซีฟ นสพ.กีฬาฮอตสกอร์