‘นิวลุค’ฟุตบอลไทย โดย..บี แหลมสิงห์

แฟนบอลชาวไทยยิ้มแก้มแทบแตก......

การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 หรือ 20 ทีมสุดท้าย ประเดิมสนามนัดแรก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

เล่นเอาหลายคนลืม รอบคัดเลือก ยูโร 2012 ไปเลย

ทีมชาติไทย จะบุกไปดวลกับ “จิงโจ้” ออสเตรเลีย ที่สนามซันคอร์ป สเตเดี้ยม เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ด้วยสภาพที่ไม่ต้องมาโกหกตอแหลกัน

เราเป็นรองในทุกกรณี

ยิ่งมีการประกาศรายชื่อออกมาก่อนแข่ง 30 นาที แต่ละคนยิ่ง “ไม่มั่นใจ” ว่า ไทยจะออกมาในสภาพยับเยินแค่ไหน เมื่อ “นักสู้บลูยีนส์” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมนี พลิกโผครั้งสำคัญ

เลือกที่จะส่ง สมปอง สอเหลบ กับ ศุภชัย คมศิลป์ ลงเป็นตัวจริง

ทั้งที่สองคนนี้โดน “คนยี้” มาตลอด

ยิ่งมาเทียบกับผู้เล่นเจ้าถิ่นถือว่ามากันเต็มสูบนำโดยดาวดังอย่าง ทิม เคฮิลล์, มาร์ค ชวาร์เซอร์, ลูคัส นีลล์ และเบร็ตต์ เอเมอร์ตัน

ไม่เห็นมีรูไหนจะรอดออกมา

อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลีย กลับออกสตาร์ตอย่างเชื่องช้า ด้วยการเล่นแบบ “โบราณแมน” เมื่อเน้นเกมจากริมเส้นด้านขวาเพื่อบอมบ์มากเกินไป และจากการเป็นทีมที่ผสมผสานระหว่าง “ตัวแก่” กับ “ตัวเด็ก”

ส่งผลให้ทีมเวิร์กไม่มี

ขณะที่ ไทยเรา “ทักแรง” ตั้งแต่ 21 วินาทีแรก เมื่อ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา สับไกลักไก่แต่บอลตรงตัว ชวาร์เซอร์ จนกระทั่งเกมมาถึงนาทีที่ 15 ไทยมาได้ประตูนำไปก่อนจากจังหวะโต้กลับขึ้นมา และการเข้าทำแบบ “เข้าสูตร” ที่สมบูรณ์แบบ

ก่อนที่การบดกระดูกของ ออสเตรเลีย จะเริ่มขึ้น หลังจากปรับทัพมาเล่นบอลเรียด และเจาะเข้าตรงกลาง ไม่โยนสะเปะสะปะ บวกกับที่ไทยเราลงมา “ตั้งรับลึก” กว่าเดิมในครึ่งเวลาหลัง

จนกระทั่งมาเสียสองประตูรวดในช่วงเวลาอันตรายคือ กำลังจะเข้า 1 ชั่วโมงแรก และกำลังจะหมดเวลา

ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น ออสเตรเลีย ชนะ 2-1 แต่คนไทยได้สะใจกับฟอร์มการเล่นกันทั้งประเทศ

แน่นอนครับ ตอนแรกนึกว่าจะต้อง “ใส่เข่ง” กลับบ้าน

แต่ด้วยหมากเกมนี้ของ เชเฟอร์ บวกกับการเล่นที่ทำได้ตามแผนของนักเตะไทยทุกคน ทำให้ไทยเราได้รับการยกย่องอย่างมากในเรื่องของเกมรับ

โดยเฉพาะมิดฟิลด์คู่กลางอย่าง สุรัตน์ สุขะ กับ อดุลย์ หละโสะ

แต่สิ่งหนึ่งที่ “ไม่มีให้เห็นอีกเลย” นั่นคือจังหวะการเข้าทำแบบเดียวกับประตูแรก

แม้ใกล้เคียงก็ไม่มี

ผมนั่งดูเกมนี้ พร้อมกับได้ดูเกมเต็มอีกหนึ่งครั้งจากที่อัดเทปเอาไว้ ถามว่าบอลไทยชุดนี้มีอะไรที่ดีขึ้นและชัดเจนที่สุดก็คือ ระบบ และมีวินัยในการเล่น

เพียงแต่มันยังไม่สมบูรณ์ครบร้อย

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ออสเตรเลีย เล่นได้ห่วย หรือว่า ไทยเล่นได้ดี แต่ที่แน่ๆ เชเฟอร์ เพิ่งเข้ามาทำงาน แต่สามารถปรุงทีมชาติไทยยุค “นิวลุค” ได้ดูดีขึ้นชัดเจน ดีกว่ายุคของ ปีเตอร์ รีด และแน่นอนว่ายุคของ ไบรอัน ร็อบสัน ไม่ต้องนำมาเทียบ

เหลือแต่เพียงการเล่น “เกมรุก” ที่ยังเป็นปริศนาว่า ไทยยุคนี้จะทำได้หรือไม่ เมื่อทีมจำเป็นจะต้องเปิดเกมรุก แล้วจะบุกยังไง เพราะเล่นเกมรับแพ็กแบบสองชั้นนั้น

มันง่ายกว่าเดินเกมรุกให้เด็ดขาดกว่ากันเยอะ!