ดูบอลอิตาลีในแบบ "โรมานิสต้า"

ดูบอลอิตาลีในแบบ "โรมานิสต้า"

ดูบอลอิตาลีในแบบ "โรมานิสต้า"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อย่างที่เรียนไว้เมื่อคอลัมภ์ที่แล้วว่ายังไงมาเยือนกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก็ต้องขอเข้าไปสัมผัสบรรยากาศของฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา สักครั้งในชีวิต ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาขุนพลหมาป่า “โรม่า” เปิดบ้าน “สตาดิโอ โอลิมปิกโก้” ต้อนรับการมเยือนของกระทิงหิน “โตริโน่” อีกทีมจากเมืองตูริน

การเดินทางไปสนามจากบริเวณใจกลางกรุงโรมที่ผมพักอยู่ไปสนาม ค่อนข้างลำบากนิดนึงเพราะขนส่งสาธารณะเพียงอย่างเดียวที่ไปถึงคือ “รถเมล์” เนื่องจากสนามแห่งนี้เป็นสนามเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1928 เพื่อใช้เป็นสนามกีฬาแห่งชาติในยุคของ “เบนิโต้ มุสโสลินี่” อดีตผู้นำฟาสซิสของอิตาลี อยู่บริเวณเนินเขาออกไปชานเมืองนิดๆทำให้ลมเย็นมากเนื่องจากตั้งอยู่สูง

 77467424.jpg

สนามแห่งนี้นอกจากเป็นสนามที่ “สโมสรโรม่า” ใช้เล่นเกมในบ้านแล้ว ก็ยังมี “สโมสรลาซิโอ” อริร่วมเมืองใช้ด้วย โดยทั้งคู่ใช้สนามแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1953 และก็เล่นแบบสลับโปรแกรม ถ้าสัปดาห์นี้ทีมนึงไปเยือน อีกทีมก็เล่นในบ้านจนถึงปัจจุบัน

สำหรับแฟนบอลของโรม่าหรือที่เรียกว่า “โรมานิสต้า” ยิ่งถ้าเป็นพวก “อัลตร้า” ถือว่าเป็นกลุ่มแฟนบอลอีกทีมที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเถื่อน ความโหดมาตั้งแต่อดีต ทำให้ในปัจจุบันเจ้าหน้าตำรวจอิตาลีต้องรัดกุมซึ่งการเดินเข้าไปยังสนามในวันที่ทีมแข่ง ต้องใช้เจ้าหน้าตรวจถึง 3 ชั้นด้วยกัน และยังแบ่งทางเข้าของที่นั่งบนอัฒจันทร์ไว้แบบถึงเป็นแฟนโรม่าเหมือนกันก็ไม่มีทางเจอกันเลย ถือว่าเข้มงวดมากกว่าทุกสนามที่เจอมาซะอีก

 image.jpg

ผมเดินทางมาถึงสนามก่อนเกมประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อเดินสัมผัสบรรยากาศและซื้อเสื้อฟุตบอลของทีม แต่ต้องพบกับความผิดหวังเพราะนึกได้ว่าที่สนามแห่งนี้ไม่มีร้านเมกกะสโตร์ หรือร้านขายของที่ระลึกของสโมสร เพราะไม่ใช่สนามของ “โรม่า” หรือ “ลาซิโอ” แต่เป็นสนามของเมืองที่ทั้งสองทีมมีสิทธิ์เช่าอยู่ อีกทั้งจุดที่ขายของสโมสรอยู่อีกโซนนึงที่เดินไปไม่ได้ เลย “อดไป” ตามระเบียบ

พอถึงเวลาบอลเตะก็ไม่ทำให้ผิดหวัง “โรม่า” ของกุนซือ “ลูชาโน่ สปาเล็ตติ” เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะจุดแข็งของมิดฟิลด์ในระบบ 3-5-2 ซึ่งมีทั้ง “เลโอนาร์โด้ ปาเรเดส” “เควิน สตูรทมัน” “บรูโน่ เปเรซ” และ “เอเมอร์สัน” ที่สามารถหยุดเกมรุกของขุนพลกระทิงหินได้อยู่หมัด ขณะที่แนวรุก “โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์” เร็วมาก จังหวะที่ทีมสวนกลับมาไม่มีทางจะจับได้ หรือ “รัดย่า เนียงโกลัน” ที่คล่อง เท้าไวมาก บวกกับ “เอดิน เซโก้” ที่แข็งแกร่งและเฉียบคม

 642931856.jpg

จะสงสารก็คงเป็น “โจ อีซี่” (ฮาร์ท) ผู้รักษาประตูของคู่แข่ง ที่โดนไป 4 เม็ด แต่ก็ไม่สงสัยว่าทำไม “แมนฯ ซิตี้” ถึงปล่อยพี่โจให้ “โตริโน่” ยืมตัวแบบไม่เกรงใจดีกรีมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ เพราะจุดอ่อนของเจ้าตัวคือ เป็นผู้รักษาประตูที่ค่อนข้างช้า เวลาเจอลูกลักไก่ยิงไกลเข้ามาตายสนิท และเป็นคนที่ออกบอล “แย่มาก” เวลาออกบอลจากประตูแทบไม่สร้างความได้เปรียบให้กับทีมตัวเองเลย

ที่พีคสุดๆคือช่วงท้ายเกมที่ได้เห็น พระราชาแห่งกรุงโรมอย่าง “ฟรานเชสโก้ ต็อตติ” ลงสนาม จริงๆสำหรับคนยุคผมได้เห็นตำนานของทีมในวัย 40 ลงเล่นแบบนี้กับตาถือว่าเป็น “กำไร” แล้วครับ แถมเจ้าตัวยังส่งบอลให้ “เนียงโกลัน” ยิงปิดท้ายอีกต่างหาก น้ำตาจะไหล!!!

 642926436.jpg

ส่วนบรรยากาศในสนามก็เป็นอีกสนามที่สุดยอด โดยเฉพาะแฟนบอลโรม่าที่ส่งเสียงเชียร์ตลอดทั้งเกม ซึ่งตรงที่ผมนั่งไม่ห่างจากแฟนบอลโตริโน่ที่มีเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยยืนคุมอยู่ ทำให้มีการโห่ร้องเกือบตลอด 90 นาที บวกกับการอนุญาตให้ดื่มน้ำอำพันสีทองในสนาม แม้กระทั่งดูดสมุนไพรก็มีให้ได้กลิ่น 555

สุดท้ายการมาดูบอลแบบ “โรมานิสต้า” จบลงด้วยความสุข เจ้าบ้านถล่ม 4-1 พร้อมความประทับใจที่ยอมรับว่า “บอลอิตาลี” ถ้ามาเชียร์ข้างสนาม โค-ตรสนุก บางทีสนุกกว่าที่แอนฟิลด์ของลิเวอร์พูลด้วยซ้ำ ต่างจากการดูในโทรทัศน์อย่างสิ้นเชิง

แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook