ลมหายใจสุดท้ายของ "แมวดำ"

ลมหายใจสุดท้ายของ "แมวดำ"

ลมหายใจสุดท้ายของ "แมวดำ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แมวอาจมี 9 ชีวิตแต่ว่ากันว่านาทีนี้ ซันเดอร์แลนด์ ไม่ต่างกับเหมียวน้อยสุดรวยรินที่รอวันถึงวาระสุดท้าย...

หลังจากที่ แซม อัลลาไดซ์ ฮีโร่ผู้พาทีมรอดตกชั้นเมื่อซีซั่ นก่อนอำลาทีมไปเป็น เดวิด มอยส์ อดีต "The Chosen One" แห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ดที่เข้ามาแทนที่ แต่กลายเป็นว่าแทนที่ชีวิตของ "แมวดำ" ตัวนี้จะรุ่งโรจน์...
กลับกลายเป็นชีวิตของพวกเขาในตอนนี้ "ดิ่งเหวลง" จนแทบกู่ไม่กลับ

31 นัดผ่านไปที่ มอยส์ ได้โอกาสกุมบังเหียนทีม ซันเดอร์แลนด์ สะกดคำว่าชนะเป็นแค่ 7 ครั้งเท่านั้น สำคัญยิ่งกว่าคือพวกเขากลายเป็นสมันน้อยที่พร้อมจะแพ้ทุกทีมแม้กระทั่งในวันที่เป็นต่อก็ตาม

19 นัดคือจำนวนที่ "เดอะ แบล็คแคต" ปราชัยในซีซั่นนี้ส่วนเปอร์เซนต์การเก็บชัยคิดเป็น 22 เปอร์เซนต์เท่านั้น นับว่าน้อยมากและน่าผิดหวัง...

สำหรับกุนซือที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมอบอำนาจให้สานต่องานของ "เซอร์ อเล็กซ์"

sunnder11
ในซีซั่นนี้ผมได้มีโอกาสดู ซันเดอร์แลนด์ เล่นหลายนัด โชคไม่ดีเลยครับที่แทบทุกครั้งที่ได้ยลฟอร์มทีมดังจากแดนอีสานจะต้องพบกับเรื่องปวดหัวและความผิดหวัง

ไร้ความมุ่งมั่น, ไร้พลังขับเคลื่อน, เกมรับก็พร้อมจะโดนสอยตลอดเวลาเช่นเดียวกับแนวรุกที่มีแค่ เจอร์เมน เดโฟ ที่พึ่งพาได้คนเดียว แต่ยามไร้ดาวยิงรายนี้อยู่ในสนามล่ะ...

พวกเขาก็ไม่ต่างกับเรือยอร์ชสุดหรูที่น้ำมันหมดกลางทางและ "รอวันตาย"

หาก ซันเดอร์แลนด์ ตกชั้นในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมวงบรรเลงเพลง เดวิด มอยส์ สมควรที่จะรับผิดไปเต็มๆครึ่งนึง อย่างไรก็ตามผมเชื่อครับว่าที่จริงแล้วต้นเหตุปัญหาอันรุนรังของ ซันเดอร์แลนด์ ไม่ได้อยู่ที่ มอยส์
แต่มันคือตัว 'บอร์ดบริหาร' เองนั่นแหละที่อยู่เบื้องหลังความเน่าเฟะมานาน

บทเรียนที่ผ่านมาที่วนเวียนกับโซนตกชั้นไม่เคยทำให้ทีมหลาบจำ ซันเดอร์แลนด์ ในวันนี้ก็ยังเป็น "แมวดำ" ตัวเดิมกับเมื่อ 3 ปีก่อนที่เต็มไปด้วยสารพันปัญหา

sunnder22
ครั้งหนึ่ง ดิ๊ค อัทโวคาท ที่เคยพาทีมรอดตกชั้นหวุดหวิดได้เลือกอำลาทีมหลังจบซีซั่นไปโดยให้เหตุผลว่า ตนเองอยากจะรีไทร์ออกจากวงการหลังตรากตรำในวงการมานาน

แต่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ อัดโวคาท ได้พร้อมที่จะกลับมารับงานต่อพร้อมแฉเบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วที่ตนออกจากสโมสรไม่ได้เป็นเพราะ "อยากจะเกษียณ"

หากแต่เป็นแนวทางการบริหารของทีมนั่นล่ะที่แทบ "มองไม่เห็นทาง"

เอาง่ายๆแค่การดึงนักเตะที่หมดสภาพอย่าง สตีเว่น พีนาร์, ดาร์เรน กิ๊บสัน หรือ วิคตอร์ อนิเชเบ้ มาร่วมทัพก็แสดงให้เห็นแล้วครับว่าพวกเขานาทีนี้กำลัง 'จนตรอก' เจ้าของอย่าง เอลเลียต ชอร์ต ไม่พร้อมที่จะทุ่มเงินเพื่อทีมอีกต่อไปและเตรียมที่จะขายทีมทิ้ง

ที่ผ่านมาอาจโชคดี...แต่ในปีนี้บางทีอาจเป็น "ซีซั่นสุดท้าย" แล้วครับที่พวกเขาได้อยู่รอดปลอดภัย

3 แต้มที่ตามหลังโซนปลอดภัยอาจไม่ถึงขั้นเลวร้าย แต่ 12 นัดต่อจากนี้ต่างหากที่แสดงให้เห็นว่า "แมวดำ" กำลังวิกฤติ

เริ่ม จากวันนี้ที่ต้องพบกับ แมนฯ ซิตี้ หลังจากนั้น "แมตช์ ออฟ เดด" รออยู่อีกเพียบไล่ตั้งแต่ดวล เบิร์นลี่ย์, พบ เวสต์แฮม รวมถึงมีศึกหนักกับทั้ง อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี

ด้วยฟอร์มและศักยภาพตอนนี้บอกตามตรงครับผมแทบมองไม่เห็นทางที่พวกเขาจะรอด แต่อย่างน้อยขึ้นชื่อว่านักรบก็ต้องสู้กันต่อ ทางเดียวที่จะพลิกกลับมาได้ก็คือปลด เดวิด มอยส์ ออกจากตำแหน่งเท่านั้น

อย่างน้อยการเลือกเสี่ยงดวงกับนายใหญ่คนใหม่ย่อมดีกว่ายึดติดแต่สิ่งเก่าๆที่ผลลัพธ์มันเห็นทนโธ่กันอยู่ พวกเขาเหลือลมหายใจในลีกนี้เฮือกสุดท้ายแล้ว และคงต้องคิดดีๆก่อนจะสูดมันเข้าปอดไป
แม้บางทีถ้าว่ากันตามตรง...ทุกอย่าง "อาจสายไปแล้ว" ก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook