ระเบิดเวลา...อีกลูก!

ยังไม่หมดครับพี่น้อง ยังมีอีกครับ...ยังมีอีก และมัน “ทำท่า” มานานแล้วด้วยว่า จะ “ระเบิด” เสียงดังกระหึ่มไปทั่วโลก

ยิ่งกว่า “จ๊ะ คันหู” ซะอีก!

เป็นระเบิดเวลาฝั่ง “ขั้วอำนาจเก่า” ในวงการลูกหนังอังกฤษ มันจะส่งเสียงดังไปสนั่น หากว่าวันหนึ่งยังมีเรื่องราวแบบนี้อยู่ต่อไป

นั่นคือ หลุยส์ ซัวเรซ กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ที่ฉายแสงในฟุตบอลโลก 2010 มีส่วนสำคัญในการพาทีมก้าวไปคว้าอันดับที่ 4 ของโลก เป็นกองหน้าที่ดังขึ้นมาไม่ใช่การยิงประตู

แต่ดังมาจากการ “ใช้มือ” ช่วยในการ “ป้องกันประตู” ในการเตะกับ กานา รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ

กระทั่ง ซัวเรซ ได้ย้ายจาก ไอแอ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เพื่อเป็น “พาร์ตเนอร์” กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เพื่อเป็นคู่หู่ “ดับเบิลเรซ-เรส” เพื่อพาทีมวิ่งสู่ความสำเร็จ

น่าเสียดายที่ ตอร์เรส ดันทำตัว “ทุ-เรซ” ในสายตาแฟนบอลหงส์แดง ด้วยการย้ายไปอยู่กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี

ส่งผลให้ทีมต้องทำการ “สุ่มเสี่ยง” ในการดึง แอนดี้ คาร์โรลล์ หัวหอกร่างโย่งมายืน “บังแดด” ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 35 ล้านปอนด์

เมื่อ คาร์โรลล์ หอบอาการบาดเจ็บมาด้วย มันทำให้ ซัวเรซ จึงกลายเป็นความหวังทั้งหมด

ที่สำคัญเขาสามารถช่วยทีมในการบันดาลชัยชนะได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ ซัวเรซ เข้ามาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล จริงอยู่ที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดี เล่นได้วูบวาบมีสีสัน และสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนฟุตบอลได้ตลอดเวลา

แต่น่าสนใจว่า ซัวเรซ กำลังจะกลายเป็น “ระเบิดเวลา” เคลื่อนที่ของแอนฟิลด์หรือเปล่า

บ่อยครั้งที่ ซัวเรซ มักจะได้บอลในแดนหน้า บ่อยครั้งที่ ซัวเรซ มักจะโหวกเหวกโวยวายเมื่อไม่ได้บอลหรือเพื่อนทำบอลเสีย

เขาต้องการลงเล่น เขาต้องการได้บอล นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าลืมว่า สไตล์แบบนี้สร้างปัญหากับทีมมาแล้วหลายยุค

ยุคของ ราฟา เบนิเตซ นั่นก็คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ไม่ว่าใครได้บอล ต้องมองหาก่อนว่า สองคนนี้อยู่ตรงไหน

ยุคของ รอย อีแวนส์ นั่นคือ สตีฟ แม็คมานามาน ที่ไม่ว่าใครได้บอล ต้องมองหาก่อนว่า “แม็คก้า” อยู่ตรงไหน

เมื่อไหร่ก็ตามที่ แม็คมานามาน, เจอร์ราร์ด และตอร์เรส มีอาการบาดเจ็บ ส่งผลให้ทีมตกอยู่ในอาการ “ใบ้รับประทาน” ทันที

เคนนี่ ดัลกลิช มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขามักจะทำทีมแบบไม่ต้องการให้ใครมาเป็น “ตัวโดด” ประจำทีม และเกลี่ยความสำคัญให้กับทุกๆ คนมาตั้งแต่การคุมทีมครั้งกระโน้นแล้ว

เพียงแต่ว่าหนนี้ ดัลกลิช ก็จัดการตีกรอบและปลอบประโลม ซัวเรซ พอสมควร เพราะอยู่ในช่วงที่เขาจะเสียกำลังสำคัญไปไม่ได้อีกต่อไป

ซึ่ง ซัวเรซ ก็ได้โพสต์ข้อความผ่าน "ทวิตเตอร์" ด้วยการขอโทษแฟนๆ สำหรับพฤติกรรมไม่น่าดูตอนต้องหลีกทางให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมลงเล่นแทนในเกมดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

ไปเตะขวดน้ำขนาดนั้น มันน่ารักตรงไหน

ใช่ครับ! ม้าดีต้องพยศ แต่เมื่อพยศมากๆ จ๊อกกี้ก็สามารถเปลี่ยนม้าได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการเปลี่ยนม้ากลางศึกมันอาจจะไม่ดี

แต่ถ้าเกินวิถี ก็ต้องคิดให้ดีๆ เหมือนกัน!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ นสพ.กีฬาฮอตสกอร์