คาร์ลอส เตเบซ : ก้าวล้ำเส้น

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบเอาตัวไม่รอดในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของตัวเอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมดทางสู้บาเยิร์น มิวนิค ทว่าประเด็นเหล่านั้นกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเจอกับสถานการณ์ของคาร์ลอส เตเบซ ที่สร้างเรื่องแตกหักกับโรแบร์โต้ มันชินี่ และสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ขึ้นมา ด้วยพฤติกรรมที่เตเบซบอกว่าเป็นมืออาชีพนั่นคือปฏิเสธที่จะลงสนามไปช่วยเพื่อนร่วมทีมในฐานะตัวสำรอง
      
เป็นเรื่องใหญ่ที่แม้แต่คำขอโทษก็คงจะไม่เพียงพอกับการกระทำที่เรียกว่าข้ามเส้นของคาร์ลอส เตเบซ ที่ไม่ให้เกียรติกุนซือ ไม่ให้เกียรติสโมสรและแฟนบอล รวมทั้งเพื่อนร่วมทีมที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากกลางสนาม
   
โรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องการเปลี่ยนแผน ต้องการให้คาร์ลอส เตเบซ ลงไปพลิกสถานการณ์ที่สกอร์ตามหลังบาเยิร์น มิวนิค ทว่าเตเบซปฏิเสธที่จะลงสนามด้วยความรู้สึกที่ว่า ไม่พร้อมที่จะลงเล่น
    
นักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยมหาศาลต่อสัปดาห์ ไม่พร้อมที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีม ช่วยสโมสรในสถานการณ์ที่ลำบาก ถ้านั่งขาขาดอยู่ข้างสนามคงพอเข้าใจได้ว่าไม่พร้อมเพราะเหลือขาข้างเดียว
    
แต่เตเบซเดินทางไปกับทีม นั่งเป็นกำลังสำรองข้างสนาม ต้องพร้อมที่จะลงเล่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าโอกาสจะมาถึงตอนไหนก็ตามที นี่คือเรื่องของมืออาชีพ
      
เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาเพราะตัวของคาร์ลอส เตเบซเองทั้งสิ้นที่ไม่ต้องการอยู่กับทีมต่อไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลที่หลายคนเข้าใจได้ คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว
     
ไม่ง่ายอยู่แล้วกับการไปตั้งรกรากอยู่ต่างบ้านต่างเมือง นักเตะคนไหนที่ครอบครัวสามารถรับได้กับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อต้องไปอยู่ประเทศอื่นที่ไม่คุ้นเคยกับทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ สภาพอากาศหรือเรื่องของภาษา
   
น่าเห็นใจเช่นกันที่นักเตะคนหนึ่งต้องเผชิญหลากหลายเรื่องราวในการไปค้าแข้งนอกประเทศ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมทั้งโรแบร์โต้ มันชินี่ ต่างให้กำลังใจและเปิดโอกาสให้ย้ายทีมได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่ต้องมีทีมที่พร้อมจะจ่ายค่าตัวที่กำหนดไว้เหมือนกัน
    
พร้อมกันนั้นมันชินี่เริ่มสั่งสอนลูกทีมที่เหลืออยู่ตั้งแต่วันที่เตเบซขอขึ้นบัญชีย้ายทีมว่า ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่และเรียนรู้ที่จะเล่นเพื่อชัยชนะโดยที่ไม่มีเตเบซอยู่ในทีม
   
ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเตเบซก็ยังคงตอกย้ำอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ต้องการกลับมาเล่นให้กับทีมเรือใบเหมือนเดิม นั่นทำให้ทีมต้องหาทางรับมือ ต้องปรับทัพกันใหม่ การมาของเซร์คิโอ อาเกโร่ ด้วยการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงเข้ามาก็เพื่อแทนที่เตเบซโดยเฉพาะ
     
ในท้ายที่สุดแล้วเตเบซก็ยังคงอยู่กับทีม เพราะไม่มีทีมไหนต้องการตัว ไม่ใช่ว่าฝีเท้าไม่ได้เรื่อง แต่เพราะค่าตัวและเพราะเงินค่าจ้างที่หลายทีมไม่มีปัญญาจ่าย
    
เป็นไปไม่ได้ที่มันชินี่จะจัดทีมโดยมีคาร์ลอส เตเบซเป็นตัวหลักของทีมเหมือนเดิม เพราะไม่รู้ว่าวันหนึ่งวันใดจะไม่ต้องการอยู่กับทีมอีก อีกอย่างซื้อ กุน อาเกโร่ เข้ามาแล้วต้องจัดแผนการเล่นโดยชี้เป้าไปที่หัวหอกคนใหม่เป็นหลัก
    
นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเตเบซ เพราะเขายังคงยืนยันตัวเองเป็นมืออาชีพและช่วยทีมมานักต่อนัก เตเบซสร้างผลงานไว้กับทีมมากมายนั่นคงไม่ใช่เรื่องที่แฟนบอลจะปฏิเสธได้ เวลคัม ทู แมนเชสเตอร์ เป็นป้ายที่เห็นกันแทบทุกสัปดาห์ตั้งแต่โยกจากผีแดงมาอยู่กับเรือใบ
      
เรื่องราวทั้งหมดที่สร้างเอาไว้อาจจะถูกมองผ่านไปอย่างรวดเร็วและถูกลืมเลือนไปโดยสิ้นเชิง มันชินี่ให้สัมภาษณ์ชัดเจนถ้าเขายังเป็นกุนซือทีมเรือใบอยู่ คาร์ลอส เตเบซ จะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นอีกต่อไป ที่เหลืออะไรจะเกิดขึ้นแล้วแต่เจ้าของสโมสร
     
ทีมไหนจะรับมือเตเบซได้และต้องการตัวไปร่วมทีมด้วย เชลซี, อาร์เซนอลหรือ สเปอร์ส คงไม่มีใครเอาด้วย นอกจากไปเล่นให้ลีกอื่น แล้วทีมไหนจะกล้าจ่ายค่าตัวหรือค่าเหนื่อยที่ต้องการ นอกจากเรือใบจะยอมลดแลกแจกแถมกันไปเลย
    
เตเบซต้องการความรัก ต้องการความอบอุ่น ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้รู้สึกไม่อ้างว้าง แต่กับการก้าวข้ามเส้นแบ่งจะมีผู้ใหญ่ใจดีหรือมีใครที่ไหนอีกที่จะรับมือ หรือมองข้ามพฤติกรรมที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนระหว่างดวลกับบาเยิร์น มิวนิค
     
คำขอโทษอาจจะเพียงพอต่อเพื่อนร่วมทีม แต่กับแฟนบอลถ้าจะยาก โดยเฉพาะกับโรแบร์โต้ มันชินี่ ประตูปิดลงไปเรียบร้อยแล้ว
     
เอดิน เชโก้ เป็นอีกคนหนึ่งที่ปะทะคารมกับมันชินี่ ทว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ เราเห็นกันบ่อยที่นักเตะถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วไม่พอใจ เพราะต้องการอยู่ในสนมเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ตลอด 90 นาที
     
แต่กับกุนซือมันแตกต่างออกไป ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตลอดเวลาจะแก้เกมอย่างไร อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ พฤติกรรมของเชโก้กับความไม่พอใจขว้างโน่นปานี่ โวยวายไปตามเรื่องตามราว แต่สุดท้ายก็จบลงไปอาจจะนั่งสำรองเพื่อดัดนิสัยนิดหน่อยในแมตช์ต่อไป ทุกอย่างก็จบสิ้นเป็นเรื่องที่แม้ว่าจะเป็นตัวอย่างไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยอมรับกันได้ในอาชีพนี้
     
เดือนสิงหาคมปี 2006 เวสต์แฮมช็อกวงการด้วยการเซ็นคาร์ลอส เตเบซและฮาเวียร์ มาสเคราโน่ จากโครินเธียนส์ เข้ามาร่วมทีม
   
สร้างผลงานที่ดีเยี่ยมให้กับทีมแม้ว่าสโมสรจะโดนสอบเรื่องการฝ่าฝืนกฎในการโยกย้ายทีม รวมทั้งการยิงประตูชัยให้เวสต์แฮมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วยให้เวสต์แฮมอยู่รอดในพรีเมียร์ ลีก โดยเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดร่วงลงไปแทน
   
หลังจากนั้นก็โยกมาซบอกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีกกับผีแดงในปี 2008 รวมทั้งแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ในการดวลจุดโทษตัดสินกับเชลซี
     
ปี 2009 คว้าแชมป์พรีเมียร์ กับผีแดงอีกครั้ง แต่เตเบซเริ่มงอแงและรับไม่ได้กับการจัดทีมของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประมาณว่าไม่เคารพฝีไม้ลายมือกันเลย พร้อมกับประกาศต้องการย้ายออกไปจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
       
เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นมือเข้ามาดึงตัวข้ามห้วยทำให้เตเบซได้ย้ายทีมสมใจ เป็นที่มาของโปสเตอร์ เวลคัม ทู แมนเชสเตอร์
   
เคยหนุนหลังเวย์น บริดจ์ แบบสุดตัวที่โดนจอห์น เทอร์รี่ แอบตีท้ายครัว ด้วยการใส่เสื้อ “ทีมบริดจ์” ในนัดเจอกับเชลซี แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีปัญหาทางด้านแนวคิดกับมันชินี่ โดยกุนซือเลี่ยนเปิดอกเช่นกันว่าถ้าไม่แฮปปี้กับทีมก็ย้ายได้เลย
      
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เตเบซยังคงอยู่กับทีม จนเดือนธันวาคมออกมขอย้ายทีมอีกครั้ง แต่โดนสโมสรปฏิเสธและเตเบซยอมถอนชื่อจากบัญชีขอย้ายทีม
      
เดือนพฤษภาคม 2011 เป็นกัปตันทีมเรือใบในเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะสโต๊คได้สำเร็จ ในช่วงซัมเมอร์ยืนยันอย่างที่บอกไปในตอนนั้นว่าต้องการย้ายทีมและไม่อยากกลับมาเล่นให้ซิตี้อีกต่อไป แต่ก็ไม่มีทีมไหนมีปัญญาจ่ายค่าตัวและค่าเหนื่อย
   
จนกระทั่งคืนวันอังคารที่ผ่านมา ปฏิเสธลงสนามไปช่วยทีมหลังจากตามหลังบาเยิร์น มิวนิค 2 ประตู นั่นน่าจะปิดฉากของคาร์ลอส เตเบซ อย่างถาวรในทีมเรือใบสีฟ้า
     
น่าติดตามกันต่อไป อะไรจะเกิดขึ้นตามมาบ้าง เจ้าของทีมจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร จะมีทีมไหนอ้าแขนรับเตเบซ อนาคตของกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาจะจบลงตรงไหนหลังจากก้าวข้ามเส้นแบ่งที่ไม่อาจก้าวข้ามกลับมาได้อีกอย่างที่โรแบร์โต้ มันชินี่ให้สัมภาษณ์เอาไว้

เรื่องโดย"ดามัน"

ขอบคุณคอลัมน์ทดเจ็บ3นาที นสพ.กีฬาฮอตสกอร์