ต้อนรับจ่าฝูงทีมใหม่

ฟุตบอลลา ลีกาสเปนปีนี้สนุกเข้มข้นโดยเฉพาะทีมนำบนหัวตารางผลัดกันเปลี่ยนหน้าตาไม่เว้นสัปดาห์
   
ก่อนหน้านี้ เบติส ผงาดเป็นจ่าฝูงตั้งแต่พวกเขาชนะติดต่อกัน 4 เกมรวด ก่อนมาสะดุดให้เกตาเฟ่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ทีมของเปเป้ เมโล่ยังคงยึดหัวหาดทีมนำของตารางต่อไปโดยมีแต้มเหนือบาร์เซโลน่าแชมป์เก่าอยู่ 1 คะแนน
   
ซึ่งทั้งบาร์ซ่าและเบติส รวมไปถึงเรอัล มาดริดต่างแข่งกันวันอาทิตย์ ซึ่งขณะที่มือของท่านผู้อ่านที่น่ารักถือฮอตสกอร์ของเราขณะนี้น่าจะทราบกันแล้วว่า จ่าฝูงของตารางจะเปลี่ยนมือไปเป็นของใครบ้าง
   
แต่ที่อยากจะพูดวันนี้คือ มาลาก้าทีมนำทีมใหม่ของตารางที่แม้จะคะแนนเท่ากับ บาเลนเซียที่ชนะเหมือนกันเมื่อวันเสาร์ แต่ลูกได้เสียของทีมจากอันดาลูเวียนั้นดีกว่า
   
เกมล่าสุดพวกเขาบดชนะเกตาเฟ่ มา 3-2 โดยประตูชัยกว่าจะได้มานั้นต้องลุ้นไปถึงนาทีที่ 92 จากการยิงของฮูลิโอ บัปติสต้า
   
สมใจอยากของ  ชีค อับดุลลาห์ บิน นาสเซอร์ อัล-ธานี สมาชิกของราชวงศ์ กาตาร์ ที่เข้ามาเทกโอเวอร์เป็นประธานสโมสรเมื่อช่วงกลางปี 2010
   
ท่านชีค นั่งแท่นประธานของทีมมาก่อนปรับเปลี่ยนทีมบริหารและทุ่มเงินมหาศาล เป็นเงินในการเทกโอเวอร์ทีม 36ล้านยูโร และทุ่มทุนให้ มานูเอล เปเญกรินี่ซื้อผู้เล่นถึง 100 ล้านยูโร
   
งบขนาดนี้มากกว่าเรอัล มาดริดอีกนะครับ ... ซึ่งตัวของเปเญกรินี่ก็ค่อยๆเข้ามาปรับจูนและคอยปั้นประคองทีมจนจบอันดับที่ 11 ในลา ลีกา หลังจากเข้ามากู้สถานการณ์ของทีมจากที่จะตกชั้นจนอยู่รอดได้
   
ปีนี้คือปีที่พิสูจน์ฝีมือของ เทรนเนอร์ชาวชิลี เต็มๆหลังจากเคยสร้างชื่อมากับ บีญาร์เรอัล และเรอัล มาดริดมาแล้ว
   
อย่างไรก็ตามเส้นทางของมาลาก้าไม่ได้ง่ายและสบาย พวกเขาประเดิมเกมแรกด้วยการพ่ายแพ้เซบีญ่า นักเตะหลายคนที่ทุ่มซื้อมาเริ่มโดนนักวิจารณ์มองว่าเป็นของปลอมทำเหมือน
   
ทว่าหลังจากนั้นทีมเล็กๆในเมืองเซบีญ่าก็มาเรื่อยๆจนกระทั่งก้าวขึ้นมาอยู่บนหัวตารางได้สมใจปรารถนา อย่างไรก็ตาม ทีมของมานูเอล เปเญกรินี่ยังมีอะไรที่ต้องพิสูจน์อีกเยอะ การขึ้นเป็นจ่าฝูงเวลานี้ยังไม่สามารถวัดอะไรได้มากนัก
   
เพราะของจริงพวกเขายังไม่เจอ บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด รอลับคมดาบทดสอบความสามารถของพวกเขาอยู่ แค่ 2 ด่านนี้ก็ยากรากเลือดระดับหินแล้ว ไหนจะต้องสู้กับตัวเองในการยืนระยะให้ได้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้
   
เป้าหมายของมาลาก้าคือทำคะแนนติด 1 ใน 4เพื่อไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนตำแหน่งอื่นๆนั่นคือโบนัส ไม่ว่าจะเป็นโคปา เดล เรย์ หรืออะไรที่สูงกว่านั้น
   
แต่ถึงตรงนี้ด้วยเงินทุนที่มาลาก้ามี และขุมกำลังของทีมบวกกับมันสมองที่มาเต็มของมานูเอล เปเญกรินี่ที่พร้อมบริหารจัดการทีมขึ้นมาได้ดีตลอดเวลา
   
ตัวอย่างจากการที่ปั้นบีญาร์เรอัลได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกเกือบทุกฤดูกาล ทั้งที่ทีมเรือดำน้ำเหลืองไม่ได้มีเงินทุนอะไรมากมาย แถมเกือบพาทีมได้เข้าชิงชนะเลิศด้วยซ้ำเมื่อปี 2006 ส่วนผลงานทำทีมเรอัล มาดริด แม้จะได้แค่รองแชมป์ แต่ก็เป็นรองแค่บาร์เซโลน่า ทีมที่ดีที่สุดในยุคนี้เท่านั้นเอง
   
เส้นทางของมาลาก้าในฤดูกาลนี้ยังอยู่อีกไกล แต่ความฝันของแฟนบอลทีมๆนี้ไปถึงที่หมายแล้ว เวลานี้อยู่ที่ 1 สมอง 2 มือของเปเญกรินี่แล้วล่ะครับว่าจะพาลำนาวาที่ชื่อว่า มาลาก้านี้เดินหน้าไปยังไง เพื่อให้ถูกใจทั้งแฟนบอลและเจ้าของทีม
   
ส่วนอีกทีมที่เล่นได้น่าผิดหวังที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น บีญาร์เรอัล ที่เล่นในบ้านตัวเองแท้ๆแต่ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนเอาไว้ได้ แถมยังโดน ซาราโกซ่ายิงนำตลอดจนต้องไล่ตีเสมอในช่วง 10 นาทีท้ายของเกม
   
บีญาร์เรอัลตอนนี้กำลังตกอยู่ในภวังค์ของทีมระดับกลางที่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก คือขนาดของทีมไม่ใหญ่พอที่จะแบ่งผู้เล่นให้ลงสนามสลับกันได้ ต้องทู่ซี้ใช้งานนักเตะชุดเดิมตลอดเวลา อาการล้าและฟอร์มตกย่อมมีให้เห็นอยู่แล้ว
   
อย่างทีมเรือดำน้ำนี่ไม่ซื้อผู้เล่นมาเสริมยังไม่เท่าไหร่ แถมยังเสียนกเตะเกรดดีออกไป ยังดีที่พวกเขาสามารถรั้งจูเซ็ปเป้ รอสซี่เอาไว้ได้ไม่งั้นดูไม่จืดแน่นอน
   
ตัวอย่างของทีมเกรด บี ลบ ที่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นมีให้เห็นเยอะมาก ที่กลับมาเล่นในลีกและฟอร์มตกชนิดกู่ไม่กลับ อย่าง เบติส และเซลต้า บีโก้คือทีมที่ชัดเจนที่สุดคือได้ที่ 4 แล้วเพลย์ออฟเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้ แต่ผลงานในลีกต้องกระเสือกกระสน สุดท้ายต้องตกชั้น เบติสเพิ่งได้กลับขึ้นมา ส่วนเซลต้าหล่นไปหลายปียังปีนกลับมาไม่ได้เลย
   
จริงๆแล้วบีญาร์เรอัลก็ถือว่ามีประสบการณ์ในเวทีระดับนี้นะครับ แต่ด้วยเทรนเนอร์อย่าง ฆวน คาร์ลอส การ์ริโด้ ยังใหม่กับเวทีใหญ่อยู่ และนักเตะหลายคนไม่พร้อมจึงทำให้สภาพของ ทีมเรือดำน้ำจมอยู่ที่ 13 และมีเพียง 6 คะแนนเท่านั้น
   
เอาครับเวลายังพอมี แต่ทำอะไรก็อย่าช้าเพราะทีมอย่างบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ยังไม่ติดเครื่องตามมา ซึ่งหาก 2 พี่เบิ้มเข้าฝักเมื่อไหร่ทุกอย่างจะกลับสู่วังวนเดิมทันทีนั่นคือ มีแค่ม้าตีนปลาย 2 ตัวได้ลุ้นแชมป์ เท่านั้นเอง

เรื่องโดย "เอล มาทาดอร์"

คอลัมน์ ลา ลีกา เอ๊กซ์คลูซีฟ นสพ.กีฬาฮอตสกอร์