วิกฤติของปืนใหญ่และปัญหาของเวนเกอร์

วิกฤติของปืนใหญ่และปัญหาของเวนเกอร์

วิกฤติของปืนใหญ่และปัญหาของเวนเกอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับวันนี้อยากหยิบประเด็นเรื่องราวของทีมปืนใหญ่แห่งกรุงลอนดอนอาร์เซนอลขึ้น มาเขียนเพราะตอนนี้กระแสข่าวเรื่องการปลดกุนซือที่ทำทีมมายาวนานอย่างอาร์แซน เวนเกอร์เริ่มมีออกมาเป็นระยะๆ

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปซักห้าหกปีที่แล้วที่อาร์เซนอลกำลังยิ่งใหญ่ในยุคของเธียร์รี่ อองรี เดนนิส เบิร์กแคมป์หรือปาทริค วิเอร่าก็คงไม่มีใครเชื่อว่าเวนเกอร์จะโดนกระแสข่าวให้ลงจากตำแหน่งแบบทุกวันนี้

เนื่องจากทีมชุดนั้นแข่งแกร่งมากจนสร้างสถิติไม่แพ้ติดต่อกันมากที่ สุดถึงสี่สิบเก้านัดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

พอหมดยุคของพวกดาราอย่างอองรี ปิแรสหรือวิเอร่าเองก็ดูเหมือนทีมจะมาตรฐานตกลงไปบ้างแต่ก็ยังถือว่าทีมยัง มีลุ้นแชมป์คว้าโควตาไปเล่นฟุตบอลยุโรปอย่างแชมเปี้ยนส์ลีกได้ด้วยกำลังหลัก อย่างเชส ฟราเบรกาส โคโล่ ตูเร่ หรือแม้กระทั่งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เอง

เพราะนักเตะพวกนี้ถือว่ามีความสามารถอยู่แล้วแต่ก็ต้องสะสม ประสบการณ์เรื่อยๆ จนในที่สุดก็ผ่านเข้าถึงรอบชิงฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในปี 2006 แต่ก็น่าเสียดายที่ได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์

หลัง จากนั้นเป็นต้นมาอาร์เซนอลก็ดูเหมือนตกต่ำลงเรื่อยๆจากที่ลุ้นแชมป์ก็กลาย เป็นขอให้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกก็ดีแล้วซึ่งถ้าวิเคราะห์กันเรื่องตัวผู้จัดการ ทีมอย่างอาร์แซน เวนเกอร์ก็เป็นปัญหาเล็กๆในช่วงนั้นแต่เป็นปัญหาที่ส่งผลในระยะยาวจนถึง ปัจจุบันเลยทีเดียว

เนื่องจากสไตล์การทำทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ถือว่าน่ากลัวเป็นฟุตบอลที่เน้นเบสิก ระบบเป็นหลักแต่เวนเกอร์เป็นกุนซือที่เรียกว่าดื้อไม่ชอบเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ในการทำทีมซักเท่าไหร่อย่างที่เห็นๆกันโดยอาร์เซนอลเป็นทีมเดียวที่ไม่ค่อย มีการทุ่มซื้อนักเตะเหมือนทีมใหญ่ทีมอื่นแต่จะดึงพวกดาวรุ่งขึ้นมาปั้นซะมากกว่า
      
จุดนี้ก็ต้องชมเวนเกอร์ว่าเป็นคนตาแหลมตาถึงเนื่องจากส่วนใหญ่นักเตะที่นำมา ปั้นมักจะหวังพึ่งได้ตลอดจนขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมซึ่งทำให้เวนเกอร์ยิ่ง มั่นใจกับปรัชญา ทัศนคติการทำทีมของตัวเองมากขึ้นด้วยการไม่ยอมทุ่มซื้อนักเตะราคาแพงเป็นอันขาดยิ่งโดยเฉพาะดาวรุ่ง

แต่ยุคสมัยฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยจากการที่เงินเป็นตัวแปรสำคัญของฟุตบอล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้การทุ่มซื้อนักเตะเหมือนจะกลายเป็นสูตรสำเร็จของฟุตบอลยุคนี้ไปซึ่งทีมใหญ่หลายทีมก็ต้องทุบกระปุกซื้อมากขึ้นเรื่อยตามกระแสทั้งในลีกด้วยกันเอง

อย่างเชลซี สเปอร์ ลิเวอร์พูลหรือแม้กระทั่งคู่แข่งอย่างแมนฯยูไนเต็ดที่ท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังต้องทุ่มเงินเป็นหลักสิบยี่สิบล้านปอนด์เพื่อดึงดาวรุ่งเข้ามา สู่ทีม

ด้วยความดื้อของอาร์แซน เวนเกอร์อาจจะเป็นผลดีต่อทีมในเรื่องของเศรษฐกิจเพราะเป็นทีมเดียวไม่เจอกับ ปัญหาขาดทุนจากการซื้อนักเตะเพราะใช้การปั้นมาโดยตลอดแต่ก็ส่งผลในเรื่องของ ความสำเร็จที่ทีมขาดหายไปตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมาจนส่งผลให้แฟนบอลบางคนเริ่ม ตระหนักว่าอาร์เซนอลมาถูกทางจริงๆหรือเปล่า

การที่สโมสรร่ำรวยไม่ขาดทุนแต่ไม่เคยสัมผัสกับความสำเร็จคือสิ่งที่ไม่น่าจะ ถูกต้องของสโมสรฟุตบอลเนื่องจากถ้วยแชมป์ไม่ได้วัดกันที่กำไรแต่อยู่ที่ว่า ศักยภาพของทีมเก่งกว่าทีมอื่นๆหรือเปล่า

จนช่วงหลังๆนักเตะหลายคนก็เริ่มเดินออกจากทีมเพื่อความสำเร็จในโลกของฟุตบอล จริงซึ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ของทีมทุกวันนี้กับอาการสมองไหลฤดูกาลนี้มาเสีย ทั้งเชส ฟราเบรกาส กาแอล กลิชี่และซาเมียร์ นาสรี่ แถมโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่อยู่กับทีมตอนนี้ก็เริ่มออกอาการงอแงอยากย้ายทีมไปด้วยอีกคน
     
สุดท้ายนี้วิกฤติของอาร์เซนอลคงมีทางแก้ที่ไม่มากนักซึ่งทางแรกอยู่ที่กุนซือ หัวดื้ออย่างอาร์แซน เวนเกอร์ว่าต้องเปลี่ยนทัศนคติการทำทีมกล้าทุ่มซื้อนักเตะบ้าง

หลายๆคนเพื่อความสำเร็จหรือทางที่สองก็คือการเปลี่ยนแต่เป็นการเปลี่ยนกุน ซือเลยแม้ว่าอาร์แซน เวนเกอร์จะมีบารมีพระคุณกับทีมขนาดไหนแต่ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป

ทุกฤดูกาลแฟนบอลเดอะกันเนอร์สคงได้แค่ตั้งความหวังและทำใจหลังจบฤดูกาลเท่านั้นครับ

เรื่องโดย"หมอเมา"

คอลัมน์หมอเมาเล่า นสพ.กีฬาฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook