"บันทึกจากหลังม่านเหล็ก"

"บันทึกจากหลังม่านเหล็ก"

"บันทึกจากหลังม่านเหล็ก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัสเซีย ถูกขนานนามว่า เป็นดินแดนหลังม่านเหล็ก (The Iron Curtains) เพราะสมัยก่อนเคยปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ไม่ญาติดีกับชาติที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม

แต่พอลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย ม่านเหล็กก็ถูกทำลายลง และในปัจจุบัน ประเทศอันหนาวเหน็บแห่งนี้ กลับมาเป็นชาติที่ร่ำรวย และมีอำนาจต่อรองทางการเมืองอีกครั้ง

ถึงแม้ว่า ดินแดนหลังม่านเหล็กแห่งนี้ จะเจริญรุ่งเรือง มีมหาเศรษฐีมากมายอาศัยอยู่ แต่วงการลูกหนังรัสเซีย ยุคนี้สมัยนี้ กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

กระนั้น ดินแดนหมีขาว ก็เปรียบเสมือน “นรก” ของผู้มาเยือน เพราะต้องพบกับอันธพาลลูกหนัง และสภาพอากาศที่เลวร้ายเสียเหลือเกิน

 650519106

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ออกไปเยือน รอสตอฟ ในยูโรป้า ลีก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า “ปีศาจแดง” ต้องเจออุปสรรคมากมายขนาดไหน

โจเซ่ มูรินโญ่ และลูกทีม ต้องเดินทางไป-กลับถึง 3,744 ไมล์ แถมเจอเรื่องสภาพสนามโอลิมป์-2 ที่กุนซือโปรตุกีส ออกมาบ่นก่อนเกมว่า “แบบนี้ ก็แข่งได้หรือ?”

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในวันแข่งขัน ช่วงเวลาค่ำๆที่นั่น ก็ประมาณ 0 องศาเซลเซียส เท่ากับจุดเยือกแข็งพอดี ส่วนที่เมืองผู้ดีก็ราวๆ 6-7 องศา

นับว่าเป็นทริปเยือนอันทรหด โหดสุดรัสเซีย ของยอดทีมแห่งแมนเชสเตอร์จริงๆ (ไม่พูดคำหยาบนะครับ 555)

 650514766

อย่างไรก็ตาม ก็มีภาพที่น่ารักๆเกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลน้ำดีกลุ่มหนึ่งของรอสตอฟ ได้แจกผ้าห่มให้กับแฟนบอลยูไนเต็ด ที่ตามมาเชียร์ถึงโอลิมป์-2 เพื่อคลายหนาว

คนแบบนี้แหละ ที่สังคมโลกต้องการ จริงมั้ยล่ะครับ

การเล่นของยูไนเต็ด เมื่อพฤหัสที่ผ่านมา มูรินโญ่ ใช้ระบบ 3-5-2 ที่ผมเชื่อว่า บรรดา “เร้ด อาร์มี่” น่าจะเคยเห็นแผนการเล่นนี้อย่างแน่นอน

ใช่แล้ว มันเป็นสูตรบอลของอาจารย์หลุยส์ ฟาน ฮัล ที่เคยใช้ตอนเข้ามาคุมทีมใหม่ๆนั่นแหละ แล้วก็โดนเด็กผีด่าเละเทะเลยครับ

 651132562

แต่สำหรับครั้งแรกของมูรินโญ่ กับแท็กติกหลังสาม (มาร์กอส โรโฮ, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์) ก็ชัดเจนล่ะครับว่า เป้าหมายของกุนซือชาวโปรตุกีส คือแค่ไม่แพ้เอาไว้ก่อน

3-5-2 ของมูรินโญ่ แตกต่างกับยุคฟาน ฮัล ตรงที่ในยุคของมูรินโญ่ จะไม่ได้มาตั้งรับเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นเกมบุกมากขึ้น โดยอาศัยวิงแบ็กทั้งซ้ายและขวาช่วยทำเกม

และทีเด็ดของทีม คือ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่กุนซือของยูไนเต็ด ส่งลงตัวจริง เพื่อประโยชน์ในการเล่นโยนยาว ตามสไตล์บอลเน้นผลโดยเฉพาะ

ซึ่งเรื่องสภาพสนามที่ไม่อำนวยนี่แหละ ทำให้ทั้งสองทีม ต้องใช้บอลโยนยาวเข้าสู้เกือบทั้งเกม แทบไม่เห็นบอลคอนโทรล หรือบอลบนพื้นเลย แถมทำฟาล์วรวมกันเกือบ 40 ครั้ง ทำเอาเกมต้องหยุดบ่อยๆ

 650519118

ในครึ่งแรก เกมรุกของปีศาจแดง ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง โดยประตูขึ้นนำนั้น ต้องชื่นชมซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ใช้ความคล่องตัว จ่ายบอลให้เฮนริค มคิตาร์ยาน ยิงประตูสุดสำคัญ

ขณะที่เจ้าถิ่นซึ่งมาแพ็กเกมรับแน่น วางแนวหลังถึง 5 คน ถือว่ายังทำได้ไม่ดีพอ เพราะเดินเกมได้ช้า มัวแต่เล่นติ๊ดชึ่ง เกมรุกก็ไร้ไอเดียเข้าทำ

เข้าสู่ 45 นาทีหลัง ดูเหมือนว่า เจ้าบ้านจะเริ่มมีชีวิตชีวา เพราะเริ่มเปิดเกมบุกสู้กับผู้มาเยือนได้มากขึ้น ทำเอาแนวรับคู่แข่ง เริ่มที่จะเจอบททดสอบบ้างแล้ว

และการที่รอสตอฟ เปลี่ยนแท็กติกใหม่มาสู้นี่แหละ ทำให้พวกเขาตีเสมอจากติโมเฟ คาลาเชฟ ที่โยนยาวไปให้อเล็กซานเดอร์ บูคารอฟ 3 เซ็นเตอร์ผีแดง ไม่มีใครประกบ ก็เลยเสร็จบูคารอฟทันที

ทำให้มูรินโญ่ ต้องแก้เกม ด้วยการเปลี่ยนอ็องโตนี่ มาร์กซิยัล แทนมคิตาร์ยาน ที่สภาพร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ แต่ลงมาแล้วไม่ได้ช่วยสร้างประโยชน์ให้ทีมมากนัก

 650517470

ด้านอิวาน ดานิเลียนท์ส นายใหญ่รอสตอฟ ก็เปลี่ยนบูคารอฟ คนยิงตีเสมอออก แล้วเอา ซาดาร์ อัซมูน กองหน้าเจ้าของฉายา “เมสซี่แห่งอิหร่าน” ลงลากเลื้อยแทน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน

จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปยิงอะเวย์โกล จากผลเสมอ 1-1 แบบไร้นักเตะบาดเจ็บกลับมาจากสนามแข่งระดับลีกภูมิภาค

แต่คนที่ทำตัวน่าผิดหวังที่สุด ก็ยังเป็น ปอล ป็อกบา คนเดิมนี่แหละ เล่นยาก มากจังหวะเกิน สื่อท้องถิ่นในเมืองแมนเชสเตอร์ เลยให้คะแนนความสามารถ 5 คะแนน จากเต็ม 10 (มากไปมั้ย?)

สกอร์นัดแรกที่ออกมา แฟนๆปีศาจแดง ควรจะพอใจกับมัน แล้วเดี๋ยวนัดที่สองค่อยไปปิดจ๊อบเข้ารอบในบ้าน ก็แล้วกัน

อีก 90 นาที ที่โรงละครแห่งความฝัน หวังว่า โจเซ่ มูรินโญ่ จะไม่ทำให้สาวกเรด อาร์มี่ทุกคน ต้องฝันค้าง นะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook