แพ้ได้แต่ต้องแพ้แบบแฟนบอลยอมรับได้

แพ้ได้แต่ต้องแพ้แบบแฟนบอลยอมรับได้

แพ้ได้แต่ต้องแพ้แบบแฟนบอลยอมรับได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ออกสตาร์ตนัดแรกเมื่อเย็นวานนี้ พบกับแชมป์เก่า มาเลเซีย ตลอดเกมการแข่งขัน แฟนบอลเมืองไทย ที่ชมการถ่ายทอดสดทางไทยทีวีสีช่อง 3 คงไม่สบายใจ เพราะเราพ่ายแพ้ 1-2 ประตู ภาพรวมดูแล้วน่าหนักใจ

ก่อนการแข่งขันครั้งนี้ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เลือกทีมงานของ คุณเกษม จริยวัฒน์วงศ์ เป็นผู้จัดการทีม มีโค้ชคู่ใจ ประพนธ์ พงษ์พานิช และ วิฑูร กิจมงคลศักดิ์ เป็นกระบี่คู่ใจ ตลอด 3 เดือน คุณเกษมและทีมงาน เดินงานอย่างเต็มที่

มีการเปิดการคัดเลือกตามภาคต่างๆ มีการเชิญนักเตะฝีเท้าดี ตามสโมสรต่างๆ และใช้แมวมอง ดึงนักเตะดีๆ เข้ามาในทีม ถึงแม้ข่าวคราวการอุ่นเครื่องของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ จะมีผลงานไม่ดี แต่ก็ไม่มีใครสนใจ

เพราะเชื่อมือการทำงานของ คุณเกษม ที่เคยพาทีมชาติไทยได้แชมป์ซีเกมส์ เมื่อปี 2545 ที่มาเลเซีย
   
พอมีการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลซีเกมส์ พอรู้ว่าไทยต้องอยู่สายหิน มีทั้งเจ้าภาพอินโดนีเซีย แชมป์เก่ามาเลเซีย และยังมีสิงคโปร์ ที่พัฒนารูปแบบการเล่นจนสูสีกับไทย แค่ 3 ทีม ไทยก็อึดอัด ถึงอีกทีมจะเป็นหมูน้อยกัมพูชา

แต่ทุกคนก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะชั่วโมงนี้ มาตรฐานฟุตบอลเมืองไทย ไม่ได้เหนือกว่าทีมร่วมสาย ก่อนออกเดินทางไปทุกคนที่ติดตามดูการทำงานของคุณเกษม มีแต่ความห่วงใย เพราะข่าวคราวที่ออกมาสู่สายตาประชาชน ดูแล้วไม่ดีเลย

ยิ่งผลการอุ่นเครื่อง ทีมยังไม่ลงตัว ลงแข่งพ่ายแพ้เป็นประจำ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมกลัวผิดพลาด ต้องตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมฟุตบอลภายใน เพื่อให้ทีมงาน คุณเกษม มีเวลาเตรียมตัวอย่างดี
     
ผมนั่งชมภาพการแข่งขันตลอดเกม ดูแล้วอย่างแรก อึดอัด เพราะรูปเกม ทรงบอลเราเป็นรองมาเลเซียทุกรูปแบบ การรับบอล ส่งบอล ยังไม่เป็นมืออาชีพ ไม่มีสปีดบอล

ความเข้าใจของนักเตะในแต่ละแดน มีน้อยมาก โดยเฉพาะกองหลัง ไม่มีความสัมพันธ์ หรือการบริหารจัดการ ต่างคนต่างเล่น ทำให้มาเลเซียบุกแต่ละครั้ง แฟนบอลดูแล้วหวาดเสียว
    
ห้องเครื่องแดนกลางของทีมชาติไทย ครองเกมเป็นรองมาเลเซีย การเปิดเกมบุกแต่ละครั้ง อาศัยลูกโยนยาว แต่ขาดความแม่นยำ ยิ่งลูกเปิดเกมจากด้านข้างสนาม ทีมไทยมีโอกาสแต่ขาดความแม่นยำ แถมเรี่ยวแรงก็ดูพกมาน้อยมาก เล่นไป 70 นาที ก็ออกอาการป้อแป้ หมดแรง

ผมเขียนแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา เพราะฟุตบอลทีมชาติไทย แพ้ได้ครับ แต่การพ่ายแพ้ต้องมีเหตุผลประกอบ แฟนบอลที่ได้ชมการถ่ายทอดสดคู่ไทยแพ้มาเลเซีย คงไม่มีใครกล้าออกมาบอกว่า เราไม่ได้รับความยุติธรรมกรรมการเข้าข้าง

เพราะการพ่ายแพ้ครั้งนี้ เราแพ้ทีมมาเลเซียที่ดีกว่าเราจริงๆ ตลอด 90 นาที ทีมไทยมองเหลี่ยมไหนก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่เล่นจังหวะผีบอก ไร้จินตนาการโดยสิ้นเชิง
   
หากใครรู้จักและติดตามผลงานของผม จะได้ยินผมพูดบ่อยมาก ฟุตบอลทำให้สำเร็จไม่ใช่ เรื่องง่าย ฟุตบอลไม่ใช่คณิตศาสตร์ที่ 1+1 เป็น 2 ฟุตบอลไม่ใช่ท่องอาขยาน ใช้การท่องจำเพียงอย่างเดียว

แต่ฟุตบอลเป็นศาสตร์ที่ยาก คนเข้าใจมีโนว์ฮาว โนว์เลดจ์ ในโลกนี้ยังมีน้อยมาก ถ้าการเป็นโค้ชฟุตบอลทำง่าย โลกนี้คงมีแต่ทีมที่เล่นได้เหมือนบาร์เซโลน่า อาร์เซนอล แต่ฟุตบอลทำยากมาก คนที่จะประสบความสำเร็จ ต้องมีโนว์ฮาว โนว์เลดจ์ อย่างแท้จริง

คนเป็นโค้ชฟุตบอล ลูกฟลุก อาจจะใช้ได้บางโอกาส แต่คำว่าฝีมือ รับรองว่า ใช้ได้ทุกโอกาส ผมไม่ใช่ดูถูกฝีมือโค้ชฟุตบอลเมืองไทย แต่พวกของปลอมทำเหมือนมีเยอะมาก พวกของจริง คนเก่งดู เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นตัวอย่าง อายุยังไม่ถึง 40 ปี ทำทีมประสบความสำเร็จมากมาย

แต่โค้ชในเมืองไทย พวกฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน มีเยอะมาก บางคนยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ใช่ครับพี่ ดีครับผม ถูกต้องครับท่าน เหล่านี้ คือขยะของแวดวงฟุตบอลเมืองไทย แต่มีอยู่คลาดเคลื่อนในเมืองไทย

เพราะสังคมฟุตบอลเมืองไทย ยังต้อนรับคนชอบประจบ สอพลอ ส่วนพวกกล้าพูด กล้าทำ มีอุดมการณ์ มีอุดมคติ

อยู่ในสังคมฟุตบอลเมืองไทย ยากครับ

เรื่องโดย"หมอเมา"

คอลัมน์ หมอเมาเล่า นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

<< มาเลเซีย 2-1 ไทย >>

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook