ยินดีต้อนรับ "แชมป์เก่า" กลับมา!

ยินดีต้อนรับ "แชมป์เก่า" กลับมา!

ยินดีต้อนรับ "แชมป์เก่า" กลับมา!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชัยชนะเหนือ “ซันเดอร์แลนด์” 2-0 ของนักเตะจิ้งจอกสยาม “เลสเตอร์ ซิตี้” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นชัยชนะนัดที่  6 ติดต่อกันในทุกรายการ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากก่อนหน้านี้ตลอดทั้งฤดูกาลทีมที่มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นมาตลอดแม้ว่าจะเป็นทีมชุดเดียวกับที่เป็นแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

หลังจากที่เจ้าของสโมสรตัดสินใจปลด “เคลาดิโอ รานิเอรี่” ออกจากตำแหน่งและแต่งตั้งให้ “เคร็ก เชคสเปียร์” รับหน้าทีมคุมทีมขัดตาทัพแทนถือว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ “ถูกต้อง” จากผลงานที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอล “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” หรือการหนีพ้นจากโซนอันตรายท้ายตาราง

 663155488

บางทีฟุตบอลก็ไม่มีเหตุผลหรือคำตอบที่ชัดเจน ทั้งๆที่ทรัพยากรนักเตะในทีมตอนที่ “รานิเอรี่” คุมกับ “เชคสเปียร์” คุม หรือทีมเดียวกันกุนซือคนเดียวกันที่ได้แชมป์ลีกแบบไร้เทียมทานฤดูกาลที่แล้วถึงฟอร์มหลุดลุ่ยไม่เป็นสัปปะรดในช่วงก่อนหน้านี้

โดยเฉพาะเกมในลีกที่ก่อน “เชคสเปียร์” เข้ามา แพ้ 5 รวด แล้วกลับมาชนะ 5 นัดรวด แถมหนึ่งในนั้นยังปราบทีมใหญ่อย่าง “ลิเวอร์พูล” แบบหมดสภาพ 3-1 อีกต่างหาก ที่สำคัญ “เจมี่ วาร์ดี้” รองดาวซัลโวฤดูกาลที่แล้วซึ่งไม่ยอมยิงก่อนหน้านี้ กลับมายิงประตู 3 นัดรวดนับตั้งแต่เปลี่ยนกุนซือ แถมสองประตูล่าสุดยังเป็นการยิงที่สุดสวย ไม่ว่าจะวิ่งมาวอลเล่ย์แบบไม่จับบอลใส่ “สโต๊ค ซิตี้” ที่ชนะ 2-0 หรือเกมล่าสุดกับขุนพลแมวดำ

 664585724

ถ้ามองลึกๆ การที่ “รานิเอรี่” ถูกปลด แล้วเอา “เชคสเปียร์” เข้ามาทำทีมแทน เป็นการแก้ไขที่ถูกจุด เพราะทีมต้องการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่เป็นปัญหาตอนนั้น แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ต้องอย่าลืมว่านักเตะในทีมคือ “ชุดแชมป์” ทำให้ “เชคสเปียร์” ที่เป็นผู้ช่วยของทีมชุดนั้นมาคุมทีมแทน ดีกว่าหากุนซือคนใหม่ที่เป็นคนนอกและต้องมาศึกษาทีมใหม่ รวมทั้งอาจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างซึ่ง “เสี่ยง” เกินไป

อย่างไรก็ตาม ถ้าดูอันดับในตารางตอนนี้ขึ้นมาอยู่ที่ 10  มี 36 คะแนน ดูแล้วไม่น่าตกชั้นตราบใดถ้าไม่แพ้รวดทุกนัดต่อจากนี้ แต่ต้องยอมรับว่าการลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปเอาแค่ถ้วยเล็ก “ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก” ก็เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติเหมือนกัน

 654832138

แต่สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้ในการตามดูขุนพลจิ้งจอกสยาม นอกจากเป็นทีมที่มีคนไทยเป็นเจ้าของและเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากอังกฤษในฟุตบอล “แชมเปี้ยนส์ ลีก” แล้ว ยังเป็นทีมที่มีส่วนชี้วัดทีมใหญ่ในการลุ้นพื้นที่ “แชมเปี้ยนส์ ลีก” ฤดูกาลหน้า เพราะมีโปรแกรมเจอกับ “สเปอร์ส” “อาร์เซน่อล” และ “แมนฯ ซิตี้” ซึ่งทีมมีสิทธิ์จะตัดคะแนน 3 ทีมใหญ่เหล่านี้ได้เหมือนกัน

ส่วนฟุตบอล “แชมเปี้ยนส์ ลีก” แน่นอนว่า “เลสเตอร์ ซิตี้” ที่มีเล่นฟุตบอลรายการนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรถือว่ามาไกลมาก ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม และ “เซบีญ่า” ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือว่าไม่ธรรมดา

 664594158

แต่รอบต่อไปในสัปดาห์หน้าที่เจอกับ “แอตฯ มาดริด” ดีกรีรองแชมป์ 2 สมัยในรอบ 3 ปีฟุตบอลบิ๊กเอียร์ของยุโรปคือของจริง และเชื่อว่าต้องเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน

มาถึงตอนนี้ “เลสเตอร์ ซิตี้” ที่เรารู้จัก ทีมที่มีดีกรี “แชมป์เก่า” ฤดูกาลที่แล้วกลับมาแล้ว เหลือแค่ตามลุ้นว่าจะเป็นหนามให้บรรดาทีมใหญ่ที่ลุ้นแชมเปี้ยนส์ ลีก ขนาดไหน

รวมทั้งลุ้นขำๆกับ “เทพนิยายหมาจิ้งจอก” เวอร์ชั่นฟุตบอลยุโรปครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook