ที่แล้วก็แล้วไป

ที่แล้วก็แล้วไป

ที่แล้วก็แล้วไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกไม่กี่วันเราอาจจะได้เห็นชื่อหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่ ส่วนกุนซือคนเดิมคือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เป็นประเด็นร้อนแรงเหลือเกินในโลกออนไลน์ น่าจะเป็นเรื่อง “ที่แล้วก็แล้วไป”

ใครที่เคยเล่นกับสื่อหรือกระแสมาก พอทุกอย่างเริ่มตีกลับบ้างก็ต้องระมัดระวัง อันที่จริงผมมองว่าน่าจะเป็นจังหวะดีที่สุดที่จะจากกัน เพราะสมาคมฟุตบอลเองก็ดูเหมือนจะมีธงอยู่ในใจตั้งแต่แรกที่จะหาคนที่มีประสบการณ์และดีกรีที่สูงกว่าเพื่อยกระดับพาทีม “ช้างศึก” ไปให้ไกลกว่านี้ ส่วน “ซิโก้” เองประสบความสำเร็จได้เครดิตได้ประโยชน์จากทำทีมชาติไปมากเท่ามาก จนน่าจะคุ้มกับการทุ่มเทที่ผ่านมาอยู่แล้ว
ถึงเวลาที่ควรจะมองอนาคตมาตั้งต้นกันใหม่ได้แล้ว แต่หลักคิดที่ว่าจะพา “บอลไทยไปบอลโลก” หรือพัฒนาวงการฟุตบอลบ้านเราแบบฝากความหวังไว้ที่หัวหน้าโค้ชทีมชาติเพียงคนเดียวแบบเดิมนั้น เป็นความคิดที่ผิดโดยสิ้นเชิง

ผมมองว่าตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ เป็นเพียงแค่ปลายทางของทุกอย่างเท่านั้น ลองคิดดูว่าหากทีม “ช้างศึก” ของเรามีนักเตะเก่งๆเพียงแค่ 2-3 คนในทีม ขาดดาวรุ่งเพราะระบบการพัฒนาทีมเยาวชนไม่ได้เรื่อง มีลีกอาชีพที่ไม่พัฒนา มีผู้ฝึกสอนที่เก่งๆน้อย ถ้าอย่างนั้นต่อให้เอา มูรินโญ่ คล็อปป์ หรือกุนซือระดับโลกคนไหนมาคุมก็ตาม ก็คงไม่มีทางที่จะทำให้ทีมชาติประสบความสำเร็จหรอกครับ

ไหนๆพูดถึงประเด็นโค้ชแล้ว อยากจะชี้ว่านี่คือประเด็นที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับวงการฟุตบอลบ้านเรา เพราะบุคลากรที่มีอยู่ดูยังไงก็ยังไม่เพียงพอ ผู้ที่จบโปรไลเซนส์มีเพียงคนเดียว สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เอ-ไลเซนส์ ก็ยังมีน้อย ทำให้มีข้อจำกัดเกี่ยวกับตัวผู้ฝึกสอนเป็นอันมาก ที่ขึ้นมาทำหน้าที่คุมทีมจริงๆ มีดีกรีจริงบ้าง ไม่มีบ้าง

แล้วมันจะมีคำถามตามมาว่า หากคนสอนไม่พอ ไม่มีคุณภาพจริงๆตามเกณฑ์ แล้วจะพัฒนานักเตะรุ่นใหม่ๆให้เก่งขึ้นมาได้อย่างไร?

ช่วง“หัวเลี้ยวหัวต่อ” แบบนี้ทำให้ผมนึกถึงทีมชาติเยอรมนี ตอนตกรอบแรกฟุตบอลยูโรปี 2004 ทัวร์นาเม้นต์นั้นทีม “อินทรีเหล็ก” ของ รูดี้ โฟลเลอร์ อดีตศูนย์หน้า (เหมือนกันแฮะ) ล้มเหลวไม่เป็นท่า นักฟุตบอลในทีมกลายเป็นหุ่นยนตร์ เล่นแบบไม่มีความคิดสร้างสรรค์

เยอรมันยันหลัก ต้องกลับมาหลบเลียแผลใจ สมาคมฟุตบอลเมืองเบียร์ประกาศนับหนึ่งใหม่ เปลี่ยนระบบการฝึกสอน และเทคนิคการเล่นตั้งแต่ชุดเยาวชนขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อผลิตนักเตะที่มีพรสวรรค์เทคนิคเยี่ยมๆขึ้นมา
“อินทรีเหล็ก” เริ่มสร้างทีมที่มีผู้เล่นวัยรุ่นอย่าง เมซุต โอซิล, โทนี่ โครส และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์  และโค้ชรุ่นใหม่แบบ เจอร์เก้น คลินส์มันน์ โยอาคิม เลิฟ และ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค ขึ้นมาในปี 2006

ปี 2014 เยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก!! ใช้เวลา 10 ปีหลังจากการตัดสินใจผ่าตัดใหญ่ ด้วยการวางแผนระยะยาวและพัฒนาวงการฟุตบอลแบบทั้งระบบจริงๆ

นี่คือตัวอย่างที่น่าศึกษาและเรียนรู้มากครับ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook