ย้อนรอย 28 ปี "ฮิลส์โบโร่"

15.06 น. ของวันที่ 15 เมษายน 1989 เหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในวงการลูกหนังอังกฤษ ได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล

นั่นก็คือ เหตุการณ์โศกนาฏกรรม “ฮิลส์โบโร่” ที่มีแฟนบอลของสโมสรลิเวอร์พูล เสียชีวิต 96 ราย เนื่องจากเหตุชุลมุนพังรั้วของสนามแข่งขัน จนผู้คนเหยียบกันตาย

ขออนุญาตยืมไทม์แมชชีนของโดราเอมอน ถอยหลังกลับไปเมื่อ 28 ปีก่อน มีการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่างลิเวอร์พูล กับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

“หงส์แดง” ในขณะนั้น นำทัพโดยกุนซือเคนนี่ ดัลกลิช กำลังลุ้นดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนั้น ส่วน “เจ้าป่า” ของนายใหญ่ไบรอัน คลัฟ ที่มีนักเตะดาวรุ่งอยู่คับทีม

 

เกมนัดดังกล่าว จัดขึ้นที่สนามฮิลส์โบโร่ รังเหย้าของทีมเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ ทว่าเริ่มเกมไปได้แค่ 6 นาที ผู้ตัดสินสั่งยุติการแข่งขันทันที เนื่องจากคนดูเข้าไปในสนามมากเกินกว่าที่จะรับได้

และด้วยเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้แฟนบอลพากันเบียดเสียดเพื่อจะเข้าไปชมเกมให้ได้ อีกทั้งเสียงเชียร์ที่กระหึ่มจากในสนาม เสมือนเป็นการกระตุ้นให้แฟนบอลอยากจะเข้าไปชมเกมข้างในให้ได้

เมื่อคนในสนามเต็ม แต่ข้างนอกก็ยังดันเข้ามา โดยที่ไม่มีการจัดการจากเจ้าหน้าที่ ทำให้แฟนบอลต่างดิ้นรนหนีตายกันอย่างอลหม่าน บ้างก็ถูกอัดติดกับรั้วลูกกรง ไม่มีทางที่จะขยับเขยื้อนไปไหนได้ บ้างก็ต้องปีนขึ้นข้างบนเพื่อเอาชีวิตรอด

ในวันเกิดเหตุ มีผู้สังเวยชีวิตไป 94 ราย แล้วเพิ่มเป็น 95 ในวันถัดมา และอีก 4 ปีถัดมา ผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการโคม่ามาอย่างยาวนาน ท้ายที่สุดต้องจบชีวิตเป็นรายที่ 96

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักการเมืองบางคน พยายามกล่าวหา "เดอะ ค็อป" ว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งการก่อความวุ่นวาย หรือมีแฟนบอลบางส่วนเมาสุราอาละวาด

อีกทั้งในวันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์ “เดอะ ซัน” (The Sun) ได้พาดหัวตัวหราว่า “The Truth” พร้อมด้วยข้อความดังต่อไปนี้

"Some fans picked pockets of victims.

Some fans urinated on the brave cops.

Some fans beat up PC giving kiss of life."

 

แปลความได้ว่า “แฟนบอลลิเวอร์พูลผิดเต็มประตู พวกเขาขโมยทรัพย์สินพวกเดียวกันเองที่บาดเจ็บ, ทำร้ายและปัสสาวะใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ, พยายามจะเปลื้องผ้าศพหญิงสาวที่ถูกเหยียบย่ำ และนี่คือความจริง”

เท่านั้นแหละ คนเมืองลิเวอร์พูลโกรธแค้นอย่างหนัก ถึงขั้นไม่ญาติดีกับสำนักข่าวจอมเต้า ด้วยการ “บอยคอต” ไม่ให้แท็บลอยด์ฉบับดังกล่าววางจำหน่ายในละแวกนี้

หลังเหตุการณ์ที่ฮิลส์โบโร่ วงการลูกหนังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยถอดรั้วที่กั้นแฟนบอลในสนามออกไป รวมถึงยกเลิกวัฒนธรรมการยืนเชียร์ โดยให้ปรับเปลี่ยนเป็นการนั่งเก้าอี้แทน

เมื่อปี 2009 ในวาระครบรอบ 20 ปีฮิลส์โบโร่ เคนนี่ ดัลกลิช อดีตนายใหญ่หงส์แดง ได้ออกซิงเกิลอัลบั้มพิเศษร่วมกับอดีตลูกทีมยุคนั้นอย่างจอห์น อัลดริดจ์, บรูซ กร็อบเบล่าร์, อลัน เคนนาดี้ และฟิล ธอมป์สัน

 

และยังมี จอห์น เพาเวอร์ นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังที่เป็นชาวลิเวอร์พูลโดยกำเนิด จากวงร็อกดังอย่าง The La's และ Cast มาร่วมขับร้องอีกด้วย

อีก 3 ปีต่อมา ได้มีการเปิดเผยเอกสารของเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ ที่มีความหนากว่า 400 หน้า ต่อสาธารณชน

โดยใจความสำคัญอยู่ที่หน้า 394 ที่ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักการเมืองบางคน ได้โยนความผิดให้กับ 96 ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ว่าเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าทั้งหมด”

ทำให้นาย เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น ต้องออกมาขอโทษแฟนบอลลิเวอร์พูล ที่ปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบหายไป พร้อมทั้งไม่มีการสอบสวนหาความจริง

 

นอกจากนั้น นายคาเมรอน ยังยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ละเลยหน้าที่ และปล่อยให้แฟนบอลเข้าไปเกินความจุ จนทำให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจในครั้งนี้

อีกทั้งหลังเกิดเหตุ หน่วยพยาบาลก็ได้ปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ จนมีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากจนถึงเกือบร้อยคน

เดือนมกราคม 2016 ฮิลส์โบโร่ แฟมิลี่ ซัพพอร์ต กรุ๊ป หรือ HFSG ซึ่งเป็นกลุ่มที่จัดตั้งขึ้น สำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิต 96 ราย ได้ออกมาประกาศว่า จะจัดพิธีรำลึกเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้าย

เพราะพวกเขาเชื่อว่า คดีกำลังใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องกำลังได้ข้อสรุปเรื่องการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อปี 1989

 

96 ศพที่จากไป ในจำนวนนั้นมีจอห์น-พอล จิลฮูเลย์ ลูกพี่ลูกน้องของสตีเว่น เจอร์ราร์ด รวมถึงลูกชายของมาร์กาเร็ต อัสปินอลล์ ประธานกลุ่ม HFSG ด้วย

และแล้ว 3 เดือนต่อมา ครอบครัวของแฟนบอลผู้วายชนม์ทั้ง 96 ราย ได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ 27 ปีที่รอคอย พวกเขาถูกตัดสินว่าพ้นมลทินใสสะอาด

จากการลงมติของคณะลูกขุน ด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ยืนยันว่า “แฟนบอลหงส์แดงที่เสียชีวิต 96 รายนั้น ไม่มีสาเหตุและความเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่แต่อย่างใด และเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต่างละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ”

ผลการตัดสินครั้งนี้ ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล รวมไปถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต ต่างน้ำตาคลอยินดีที่พวกเขา “ปลดแอก” ได้เสียที หลังจากต้องต่อสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมมาตลอด

 

ล่าสุด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ประกาศแบนหนังสือพิมพ์ “เดอะ ซัน” ไม่ให้ทำข่าวใดๆเกี่ยวกับสโมสร ทั้งในสนามแอนฟิลด์ รวมทั้งสนามซ้อมเมลวู้ดอีกต่อไป

นี่คือบทเรียนสอนใจชั้นดี กับสื่อที่ไร้คำว่า “จรรยาบรรณ” เพียงแค่ใส่สีให้ดูสนุก มีสีสัน อาจทำให้ชีวิต และยอดขายของพวกคุณเจริญขึ้นก็จริง

แต่สำหรับใครบางคนแล้ว ในเรื่องราวอันน่าสนุกสนานของพวกคุณ ที่เต็มไปด้วยเรื่องโกหกมดเท็จ พวกคุณอาจทำให้คนเหล่านั้น “ตายทั้งเป็น”

และนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ชาวเมอร์ซี่ย์ไซด์จะไม่มีการจัดงานรำลึกฮิลส์โบโร่แบบใหญ่โตอีกแล้ว แค่ยังคงจะจัดงานในรูปแบบที่เป็นส่วนตัวของแต่ละคน

You’ll never walk alone. ครอบครัวของ 96 ดวงวิญญาณผู้บริสุทธิ์ จะไม่มีวันเดินเดียวดายตลอดไปครับ