ใครจะเป็น 4 ทีมสุดท้ายถ้วยเล็กยุโรป
วันนี้ ถึงคิวของถ้วยน้องเล็กอย่างยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 4 คู่ ในค่ำคืนวันพฤหัสบดีนี้ กับการค้นหา 4 สโมสร ในรอบตัดเชือก
จากสกอร์ที่ออกมาในนัดแรกจะเห็นว่า ทุกคู่ยังไม่ขาดลอยมากเกินไปนัก ทั้ง 8 ทีมยังมีโอกาสเข้ารอบได้ทั้งหมด
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะนำเสนอบทวิเคราะห์ พร้อมคำทำนายของแต่ละคู่กันเลยครับ...
แมนฯ ยูไนเต็ด - อันเดอร์เลชท์ (1-1)
“ปิศาจแดง” เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอด เปิดบ้านอัดเชลซี 2-0 ช่วยเพิ่มความหวังในการลุ้นท็อปโฟร์ เพื่อคว้าสิทธิ์เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
ทางด้าน ยักษ์ใหญ่จากบรัสเซลส์ ช่วงนี้กำลังขับเคี่ยวกับการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ หาแชมป์ลีกประจำฤดูกาล ซึ่งอาจจะทำให้สภาพร่างกายอ่อนล้าไปบ้าง
ผลเสมอจากนัดแรก ทำให้ทีมของกุนซือโจเซ่ มูรินโญ่ มีสถิติเกมเยือน ในถ้วยยุโรป ซีซั่นนี้ เท่ากันทั้งหมด (ชนะ, เสมอ และแพ้ อย่างละ 2 เกม)
เมื่อมาดูสถิติการพบกันของทั้งคู่ในเกมยุโรป จะพบว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะอันเดอร์เลชท์ ได้ทุกครั้งที่พบกัน และเสียเพียงประตูเดียว อีกทั้งทีมดังจากลีกเบลเยียม ไม่เคยบุกมาชนะสโมสรเมืองผู้ดีได้เลย แม้แต่ครั้งเดียว
แถมผลงานในยูโรป้า ลีก ซีซั่นนี้ ยูไนเต็ด มีสถิติชนะในบ้าน 100 เปอร์เซนต์ ดูแล้วคงไม่เกิดเรื่องพลิกล็อกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่มูรินโญ่ จะพาทีมเข้ารอบแบบแค่ประคองตัวเท่านั้น
ฟันธง : แมนฯ ยูไนเต็ด
ชาลเก้ - อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม (0-2)
“ราชันสีน้ำเงิน” ผลงานบุนเดสลีกา ซีซั่นนี้ น่าผิดหวังสุดๆ อยู่แค่กลางตาราง ทว่ายังพอมีลุ้นโควตาไปเล่นยูโรป้า ลีก เพราะตามหลังทีมอันดับ 6 อยู่แค่ 4 แต้มเท่านั้น
ทางด้าน ยักษ์ใหญ่จากอัมสเตอร์ดัม ฤดูกาลนี้กำลังเบียดแย่งแชมป์เอเรดิวิซี่ กับเฟเนยูร์ด อย่างสนุก โดยมีแต้มจี้หลังทีมดังจากร็อตเตอร์ดัม เหลือแค่แต้มเดียว
เหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน อาแจ๊กซ์ ได้ดาวี่ คาสเซ่น กัปตันทีม เหมาคนเดียว 2 ลูก เก็บความได้เปรียบก่อน แต่ที่น่าสนใจคือ นักเตะชุดนี้ มีอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 22 ปีเท่านั้น
สถิติของชาลเก้ ในการเปิดบ้านพบกับสโมสรลีกดัตช์ 3 ครั้ง ชนะรวด และชนะคู่แข่งด้วยผลต่าง 3 ประตูทั้งหมด ส่วนอาแจ๊กซ์ มีสถิติออกไปเยือนเมืองเบียร์ ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 6
ถ้าคู่นี้ต้องตัดสินด้วยการดวลเป้า ชาลเก้ มีสถิติชนะ 2 แพ้ 2 ขณะที่อาแจ๊กซ์ ดวลจุดโทษชนะได้เพียงแค่ครั้งเดียว และแพ้ถึง 4 หน
ยอดทีมจากอัมสเตอร์ดัม ได้เปรียบจากสกอร์ในเลกแรก ถ้าไม่ห่วงหน้าพะวงหลังจนเกินไป ดูแล้วน่าจะเข้ารอบไปได้ แต่อาจจะเสียวไส้พอสมควร
ฟันธง : อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม
เกงค์ - เซลต้า บีโก้ (2-3)
“เดอะ สเมิร์ฟ” อีกหนึ่งตัวแทนจากเบลเยียม ที่มาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย จบฤดูกาลนี้ ได้เพียงแค่อันดับ 8 ทำให้ต้องเพลย์ออฟเพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นยูโรป้า ลีก เท่านั้น
ทางด้าน “สกายบูลส์” ทีมดังจากแดนกระทิงดุ อยู่เพียงแค่กลางตารางลาลีกา สเปน เท่านั้น โอกาสลุ้นโควต้าบอลยุโรปจากอันดับในตาราง ค่อนข้างจะริบหรี่
เกงค์ ไม่เคยแพ้ทีมจากสเปนในบ้านตัวเอง (ชนะ 1 เสมอ 3) ขณะที่เซลต้า บีโก้ ก็ไม่เคยบุกไปปราชัยที่เบลเยี่ยมเช่นกัน (ชนะ 1 เสมอ 2)
สำหรับสถิติการดวลจุดโทษตัดสินในเกมถ้วยยุโรป เกงค์ เคยดวลเป้า 2 ครั้ง ชนะทั้งหมด ส่วนเซลต้า ยังไม่เคยมีประสบการณ์การยิงจุดโทษตัดสิน
บีโก้ ยังไม่เคยแพ้สโมสรจากลีกเบลเยียมในถ้วยยุโรป รวมทั้งเหย้าและเยือน แม้แต่ครั้งเดียว และเชื่อว่าสถิติอันสวยงามนี้ น่าจะยังคงไม่ถูกทำลายต่อไป
ฟันธง : เซลต้า บีโก้
เบซิคตัส - โอลิมปิก ลียง (2-3)
“อินทรีขาว-ดำ” ยอดสโมสรจากแดนไก่งวง ขณะนี้นำเป็นจ่าฝูงซูเปอร์ลีก โดยทิ้งห่างอันดับสองอยู่ 5 คะแนน และเหลือโปรแกรมอีก 7 นัด ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คงได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก
ทางด้าน “โอแอล” ทีมดังของแดนน้ำหอม อยู่ในอันดับ 4 ของตารางลีกเอิง หมดสิทธิ์ลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ ลีก จากอันดับคะแนน อย่างแน่นอนแล้ว ดังนั้นคงต้องคว้าแชมป์ยูโรป้าให้ได้
ทว่า ต้องโชคร้าย เพราะเกมลีกนัดล่าสุดที่บุกไปเยือนบาสเตีย เมื่อวันอาทิตย์นั้น ถูกเลื่อนออกไป แน่นอนว่า มันอาจส่งผลกระทบถึงการลุ้นแชมป์ถ้วยยุโรปแน่นอน
เกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เบซิคตัส ยิงนำก่อนตั้งแต่ 15 นาทีแรก แต่ลียง ฮึดยิงแซง 2 ประตู ภายในช่วงเวลาแค่ 2 นาที ทำให้ลียงกุมความได้เปรียบเอาไว้ก่อน
ถ้าเกมนี้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ เบซิคตัส มีประสบการณ์เพียงครั้งเดียว ในการเอาชนะลิเวอร์พูล ในรอบ 32 ทีม ของถ้วยยูโรป้า เมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่ลียง มีสถิติดวลเป้า 2 หน แพ้รวด
สโมสรจากตุรกี มักจะแข็งแกร่งเสมอ ยามเล่นในบ้าน แต่ผมมองว่า ผู้มาเยือนจากแดนน้ำหอม มีดีพอที่จะไม่แพ้กลับไปในที่สุด
ฟันธง : โอลิมปิก ลียง