5 เกม "เอล กลาซิโก้" ตัดสินแชมป์ลา ลีกา

5 เกม "เอล กลาซิโก้" ตัดสินแชมป์ลา ลีกา

5 เกม "เอล กลาซิโก้" ตัดสินแชมป์ลา ลีกา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การแข่งขันลาลีกา สเปน คืนวันอาทิตย์นี้ มีคู่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ “เอล กลาซิโก้” ระหว่างเรอัล มาดริด พบกับบาร์เซโลน่า ที่ทุกคนต่างรอคอย

นัดนี้จะเป็นกลาซิโก้เกมสุดท้ายของ หลุยส์ เอ็นริเก้ นายใหญ่อาซุลกราน่า ก่อนอำลาสโมสร แต่ซีเนอดีน ซีดาน เทรนเนอร์เรอัล จะลงคุมทีมพบกับบาร์ซ่า ในสนามซานติอาโก้ เบอร์นาเบว เป็นครั้งแรกในชีวิต

ฤดูกาลที่แล้ว “ราชันชุดขาว” เปิดบ้านโดน “เจ้าบุญทุ่ม” บุกมาวินาศกรรมยับ 4-0 และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องถูกปลด แล้วแต่งตั้งอดีตกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส มารับหน้าที่เฮดโค้ชแทน เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว

แต่ในบางครั้ง ศึก “เอล กลาซิโก้” จะลงเล่นในช่วงท้ายๆซีซั่น เสมือนการตัดสินแชมป์กลายๆ ทีมที่เก็บชัยชนะ มักจะเป็นฝ่ายที่สุขสมหวัง คว้าแชมป์ในบั้นปลาย

ก่อนลงสนามในคืนนี้ เรอัล มาดริด มีคะแนนนำบาร์เซโลน่า 3 คะแนน และลงเตะน้อยกว่า 1 นัด ถ้าหากทีมของซีดาน เก็บชัยได้สำเร็จ จะหนีเป็น 6 แต้ม แถมได้เปรียบเรื่องกฏเฮด-ทู-เฮด อีกต่างหาก

นั่นอาจทำให้ ยักษ์ใหญ่จากเมืองกรุง มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสเปนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ซีซั่น 2011-12 สูงมากเลยทีเดียว

ดังนั้น ในคอลัมน์วันนี้ เราจะพาทุกท่าน ไปย้อนอดีต 5 เกมประวัติศาสตร์ ของคู่ปรับตลอดกาล ที่อาจมีผลต่อการตัดสินแชมป์ลีกแดนกระทิงดุ กันเลยครับ..

บาร์เซโลน่า 3-1 เรอัล มาดริด (มีนาคม 1960)

 1960-european-cup-semi-final-

ก่อนบุกเยือนคัมป์ นู “ราชันชุดขาว” มีแต้มนำบาร์ซ่าอยู่ 2 คะแนน ในช่วงกลางเดือนมีนาคม เกมนี้ถูกบาร์ซ่า ขึ้นนำก่อนในช่วงต้นครึ่งหลัง จากแซนเดอร์ โคซิส แต่อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ยอดนักเตะในยุคนั้น ก็ตามตีเสมอในอีก 8 นาทีถัดมา

ดูเหมือนเรอัลจะกลับมาคุมสถานการณ์ได้ ทว่าเจ้าบ้าน สร้างความมหัศจรรย์ ยิง 2 ประตู ในช่วงเวลา 2 นาที จากผลงานของ อูโลจิโอ้ มาร์ติเนซ และราม่อน บียาเบอร์เด้

และจบฤดูกาลนั้น “เจ้าบุญทุ่ม” เป็นฝ่ายที่ได้ชูโทรฟี่ลีกสูงสุด แถมเป็นการป้องกันแชมป์อีกต่างหาก ด้วยการมีแต้มมากกว่าคู่ปรับ 2 คะแนน

เรอัล มาดริด 0-1 บาร์เซโลน่า (พฤษภาคม 1994)

 ad

ในฤดูกาล 1993-94 เรอัล ลงเล่นเกมในบ้านนัดสุดท้ายของฤดูกาล พบกับผู้มาเยือนจากคาตาลัน และถึงแม้ทีมชุดขาวจะไม่มีลุ้นแชมป์ลีก แต่หวังจะใช้นัดนี้ ขัดขวางไม่ให้ทีมคู่ปรับตลอดชาติก้าวไปคว้าแชมป์

เจ้าบ้านพยายามสุดชีวิตแล้ว แต่แฟนๆ มาดรินิสต้า ก็ต้องเงียบกริบ เมื่อ กิลแลร์โม อามอร์ ยิงประตูชัย แล้วเจ้าตัวถึงขั้นลงไปนอนสะใจหลังทำประตูได้ บาร์ซ่าเก็บ 3 แต้มสำเร็จ ยังได้ลุ้นแชมป์กับเดปอร์ติโว ลา คอรุนญ่า ในนัดสุดท้าย

ซึ่งในเกมปิดซีซั่น “เจ้าบุญทุ่ม” ยิง 4 ลูกรวด แซงชนะเซบีญ่า 5-2 ขณะที่ลา คอรุนญ่า ได้แค่เจ๊าบาเลนเซีย 0-0 ทำให้บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลีก 4 ปีซ้อน ด้วยกฏเฮด-ทู-เฮด ที่เหนือกว่า “ซูเปอร์เดปอร์”

เรอัล มาดริด 2-6 บาร์เซโลน่า (พฤษภาคม 2009)

 gettyimages-86351073

ทั้งคู่พบกันในนัดที่ 34 ของฤดูกาล 2008-09 บาร์ซ่า มีคะแนนนำอยู่ 4 แต้มก่อนลงเตะ “เอล กลาซิโก้” ซึ่งเรอัล ต้องพยายามเอาชนะให้ได้ เพื่อให้การลุ้นแชมป์สนุกมากยิ่งขึ้น

ทว่าเกมนี้ ไม่ใช่วันของสาวกมาดรินิสต้าอย่างแท้จริง นักเตะบาร์ซ่าชุดนั้น มีเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีมเป็นซีซั่นแรก แข็งแกร่งสุดๆ บุกมายิงเจ้าของบ้านไส้แตกถึงครึ่งโหล ทำให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ฉีกหนีเป็น 7 คะแนน และเหลือโปรแกรมอีก 4 นัด

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า ทีมของกวาร์ดิโอล่า เก็บได้แค่ 2 แต้ม จาก 4 นัด แต่เรอัล มาดริด ห่วยยิ่งกว่า แพ้มันทั้งหมด ส่งผลให้บาร์เซโลน่า ทวงแชมป์คืนจากเรอัล มาดริด ได้สำเร็จ แถมคว้า “เทรบเบิล” เป็นสโมสรแรกของประเทศอีกด้วย

เรอัล มาดริด 0-2 บาร์เซโลน่า (เมษายน 2010)

 lionelmessirealmadridvba

หลังต้องทนเห็นคู่อริ เถลิง 3 แชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด จ่ายเงิน 200 ล้านยูโร ดึงนักเตะซุป’ ตาร์ อย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้, ริคาร์โด้ กาก้า, คาริม เบนเซม่า และซาบี อลอนโซ่ มาร่วมทีม

เกมกลาซิโก้ ยกสอง ในซีซั่น 2009-10 “ราชันชุดขาว” พยายามยิงประตู “เจ้าบุญทุ่ม” หลายครั้ง แต่เจาะอย่างไรก็ไม่เข้า เลยโดนลิโอเนล เมสซี่ และเปโดร โรดริเกซ ยิงคนละลูก แพ้คาบ้านอีกครั้ง

จากความพ่ายแพ้ในนัดสำคัญนี่แหละ ทำให้บาร์เซโลน่า พลิกกลับมามีคะแนนมากกว่าเรอัล มาดริด 3 แต้ม และสามารถรักษาช่องว่างนี้ไว้ได้จนปิดซีซั่น ป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง

บาร์เซโลน่า 1-2 เรอัล มาดริด (เมษายน 2012)

 148946044

หลังจากปล่อยให้คู่ปรับไม่เผาผี ครองแชมป์ลา ลีกา มา 3 ฤดูกาลติดต่อกัน คราวนี้เป็นทีของเรอัล มาดริด เอาคืนบ้าง ในยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมมาดกวน

ก่อนหน้านี้ โค้ช 3 คนของ “ราชันชุดขาว” ไม่สามารถพาทีมเอาชนะ “เจ้าบุญทุ่ม” ยุคของเป๊ปได้เลย จนกระทั่งการมาของกุนซือชาวโปรตุกีส ก็สามารถหยุดสถิติเลวร้ายนี้ได้สำเร็จ ในเดือนเมษายน และนำห่าง 4 แต้ม กับอีก 4 นัดที่เหลือ

สุดท้ายไม่มีอะไรพลิกผัน เรอัล มาดริด ทวงแชมป์ลาลีกากลับคืนมาได้สำเร็จ ยิงกระจายถึง 121 ประตู และเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ลาลีกา ที่เก็บคะแนนได้ถึง 100 แต้ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook