แซงท้ายเกม! "บุรีรัมย์" บุกเฉือน "เชียงราย" 2-1 บิ๊กแมตช์ไทยลีก

แซงท้ายเกม! "บุรีรัมย์" บุกเฉือน "เชียงราย" 2-1 บิ๊กแมตช์ไทยลีก

แซงท้ายเกม! "บุรีรัมย์" บุกเฉือน "เชียงราย" 2-1 บิ๊กแมตช์ไทยลีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2017 วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2560 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน ยกพลออกไปทำศึกบิ๊กแมตช์ เยือนสนามยูไนเต็ด สเตเดียม ของ “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 2 ของตาราง

เริ่มเกมครึ่งเวลาแรก เชียงราย ยูไนเต็ด เขี่ยเริ่มเกมก่อนได้บุกจากซ้ายไปขวา ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายบุกจากขวาไปซ้าย

นาทีที่ 7 เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ได้ลุ้นประตูเมื่อ เฟลิเป้ ได้บอลตรงหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดเต็มข้อบอลพุ่งไปโดนหน้า กรวิทย์ นามวิเศษ เต็มๆ  ทำให้ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมเข้ามาดูอาการ ก่อนจะกลับมาเล่นกันต่อ

นาทีที่ 13 เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เริ่มครองเกมได้ก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จ่ายบอลให้ วันเดอร์ หลุยส์ แตะหนึ่งจังหวะก่อนจะตะบันจากระยะไกลบอลพุ่งเข้าประตูไป

นาทีที่ 17 ปราสาทสายฟ้า เริ่มกลับมาครองเกมได้ก็มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษ และเป็น “จาจ้า” แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ เดินเข้าไปปั่นด้วยเท้าซ้ายแฉลบ วรวุฒิ นามเวช ที่ยืนกำแพง บอลพุ่งตรงกรอบ ทว่า ภัทร ปิยภัทร์กิติ ปัดบอลข้ามคานออกไปได้

นาทีที่ 24 ปราสาทสายฟ้า เกือบที่จะได้ประตูตีเสมอเมื่อ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ได้โขกตั้งบอลย้อนหลังมาให้ “จาจ้า” แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ ได้วิ่งเข้าไปซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งเป็นจรวด แต่ทว่า ภัทร ปิยภัทร์กิติ ผวาปัดบอลไว้ได้

br1_7887

นาทีที่ 28 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ บดินทร์ ผาลา ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนจะแตะขึ้นหน้าแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ก็ยังติดเซฟของ ภัทร ปิยภัทร์กิติ อีกครั้ง

จากนั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเปิดเกมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าจังหวะสุดท้ายในการจบสกอร์ยังขาดๆ เกินๆ ทำให้ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ จบครึ่งแรก เชียงราย ยูไนเต็ด นำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ไม่กี่วินาที ปราสาทสายฟ้า เกือบที่จะได้ประตูตีเสมอเมื่อ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ได้บอลในเขตโทษก่อนจะล็อกหลอกผู้เล่นเจ้าถิ่นแล้วพยายามยิงไปที่เสาสอง ทว่า เอเวอร์ตัน กอนคาลเวส ยืนเฝ้าเสาสกัดบอลไว้ได้

นาทีที่ 59 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ ได้เบียดกับกองหลัง ทว่าโขกโดนบอลไม่ดีเท่าไหร่บอลออกหลังไป

นาทีที่ 67 ปราสาทสายฟ้า น่าจะได้คืนที่สุดเมื่อ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ ภัทร ปิยภัทร์กิติ ออกมารับบอลหลุดมือ โซลวี ออตเตเซน ได้ซัดบอลไปชนเสา แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ เก็บบอลได้ยิงยัดติดกองหลัง บอลไปเข้าทาง โก ซุลกิ ซัดข้ามคานออกไป

นาทีที่ 77 เป็นโอกาสของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกครั้งเมื่อ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แทงบอลให้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ จังหวะง้างเท้ายิงติดผู้เล่นเจ้าถิ่น บอลมาถึง โก ซุลกิ ซัดติด เอเวอร์ตัน กอนคาลเวส

br1_8037

นาทีที่ 79 ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดไปที่สุดเส้นหลังเสาสอง แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ โขกย้อนกลับมา โก ซุลกิ วิ่งเข้าไปซัดเสียบเสาเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตีเสมอเป็น 1-1

นาทีที่ 84 ปราสาทสายฟ้า ที่โหมบุกใส่ตลอดก็มาได้ประตูแซงนำ 2-1 เมื่อ กรกช วิริยอุดมศิริ วางบอลยาวขึ้นหน้าเข้าไปในเขตโทษ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ พิงกองหลังเจ้าถิ่น ก่อนจะกระดกบอลข้ามหัว ภัทร ปิยภัทร์กิติ เข้าประตูไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น ดิโอโก หลุยส์ ซานโต วิ่งเข้าไปซัดแฉลบกำแพงออกหลังไปแบบได้เสียว

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ 2-1 ส่งผลให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้า 3 คะแนนไปครอง พร้อมกับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง ด้วยคะแนน 24 คะแนน ตามหลัง เมืองทอง ยูไนเต็ด เพียงแต้มเดียวเท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

เชียงราย ยูไนเต็ด : ภัทร ปิยภัทร์กิติ (ผู้รักษาประตู), ประทุม ชูทอง (C), ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เอเวอร์ตัน กอนคาลเวส, วรวุฒิ นามเวช, สุริยา สิงห์มุ้ย, ชินภัทร์ ลีเอาะ (โชติภัทร พุ่มแก้ว น.56), ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร (พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล น.74), เฟลิเป (เฮนริเกวซ ซิลวา น.83), ราฟาเอล โคเอลโญ, วันเดอร์ หลุยส์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), กรวิทย์ นามวิเศษ, โซลวี ออตเตเซน, พรรษา เหมวิบูลย์, กรกช วิริยอุดมศิริ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, โก ซุลกิ,  จักรพันธ์ แก้วพรม (C), บดินทร์ ผาลา (อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ น.58), ดิโอโก หลุยส์ ซานโต,  แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ (ศุภชัย ใจเด็ด น.90+2)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook