‘ผี’ที่มีปัญหา

‘ผี’ที่มีปัญหา

‘ผี’ที่มีปัญหา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอฟเอ คัพ มีอะไรให้พูดถึงอยู่เสมอ

สวินดอน ทาวน์ อดีตทีมแรกที่โดนกระหน่ำช้ำตรมถึง 100 ประตูในฤดูกาลเดียว พลิกล็อกน็อก วีแกน ตกรอบไปแบบน่าประทับใจ

โดยเฉพาะภาพการสะใจของกุนซือคนหน้าเดิมมากลีลาอย่าง เปาโล ดิ คานิโอ

หรือว่า 4 ทีมจากนอกลีก ที่หลุดทะลุเข้ามา จนถึงเวลานี้ยังมีลมหายใจอยู่อีก 1 ราย นั่นคือ เร็กซ์แฮม ทีมจากเวลส์ ที่บุกไปยันเสมอ “นกนางนวล” ไบรจ์ตัน ทีมในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้ถึงถิ่นแดนใต้

ขณะที่เกมที่เพิ่งจบไปก่อนจะต้องรีบส่งต้นฉบับ ไม่อย่างนั้นโดนทวงตอนเที่ยงคืนครึ่งอีกแน่ (แฮ่แฮ่) นั่นคือเกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ที่กลายเป็นอีกหนึ่งดาร์บี้แมตช์ที่สนุกตื่นเต้นและสูสีกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อก่อนนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน จนกระทั่งคนไทยเริ่มสนใจมากขึ้นเมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ไปเทกโอเวอร์ จนกระทั่งมาเป็นยุคของ ชีค มันซูร์ ที่ซื้อแหลกจนตอนนี้ขึ้นมาเหนือรัศมีแทบจะทุกทีมในประเทศ

การจับสลากมาเจอกันเองระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “ปิศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด จึงเรียกเสียงครางระงมไปจนถึงกรุงลงกา ตั้งแต่เกมยังไม่เริ่ม

ที่สุดแล้ว แมนฯยูไนเต็ด บุกไปคว้าชัยได้อย่างสุดมันส์ 3-2 ท่ามกลางเครื่องหมายคำถามจากแฟนบอลอย่างมากมายจริง ๆ

แว็งซ็องต์ กอมปานี โดนไล่ออกได้ยังไงทั้งที่เข้าสกัดโดนบอลล้วนๆ ตั้งแต่นาทีที่ 12

อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ น่าจะโดนลงโทษอย่างแรงไม่ใช่หรือ ในการพุ่งเสียบ แดนนี่ เวลเบ็ค อย่างจังในเขตโทษ

โรแบร์โต้ มันชินี่ ตัดสินใจส่ง สเตฟาน ซาวิช กับ ปาโบล ซาบาเลต้า ลงมาแทน ดาวิด ซิลบา กับ อดัม จอห์นสัน ในช่วงพักครึ่ง นั่นคือการแก้เกมหรือว่าถอดใจสารภาพ ด้วยการเก็บตัวเก่งไว้เล่นเกมอื่น

พอล สโคลส์ คัมแบ็กกลับมามีความฟิต
, ความเหมาะสมเพียงพอหรือไม่ กับทีมที่มีศักยภาพในการซื้อนักเตะมากมายอย่าง แมนฯยูฯ

ทำไมผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษกับ ซิตี้ ในจังหวะที่ โคลารอฟ เปิดบอลมาและบอลโดนแขน ฟิล โจนส์ ในกรอบเขตโทษ

นี่คือความหฤหรรษ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ลบแค้นได้สำเร็จ หลังจากโดน ซิตี้ เตะตกรอบตัดเชือกเมื่อปีที่แล้ว รวมไปถึงการพ่ายเละที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถึงครึ่งโหล ในเกมพรีเมียร์ลีกต้นซีซั่น

ที่สำคัญ ทำให้ ซิตี้ กลายเป็นแชมป์เก่าทีมแรกในรอบ 26 ปีที่ตกรอบแรกทันทีในการลงป้องกันตำแหน่งแชมป์

สรุปก็คือเป็นอีกเกมที่ผู้ตัดสินเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ กับผลการแข่งขันที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในฤดูกาลนี้

คราวนี้คือ คริส ฟอย

อย่างไรก็ตาม แม้จะชนะในเกมนี้แต่ ยูไนเต็ด กำลังมีปัญหาอย่างชัดเจนในแดนกลาง ยิ่งการนำ สโคลส์ กลับมาเล่นแบบนี้

เหมือนกับการเปิดแผลตัวเอง

ไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะมีปัญหาในเรื่องนี้แบบเต็มจัง ทั้งที่ในยุคของเขานั้นมีมิดฟิลด์ตัวกลางชั้นดีอยู่ในทีมมากมายไม่ว่าจะเป็น ไบรอัน ร็อบสัน, นีล เว็บบ์, ไมค์ ฟีแลน, พอล อินซ์, รอย คีน

ที่สำคัญมันดูเหมือนกับว่า จะติดสปีดพร้อมเทอร์โบเข้าไปอีกในการเปิดตัวคู่กลางอย่าง อันแดร์สัน กับ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เมื่อต้นซีซั่น แต่จากนั้นทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด

เกมนี้ก็เช่นเดียวกัน ไม่ต้องหยิบประเด็นที่ว่าหาก ซิตี้ มี 11 คนเท่ากันรับรองว่าชนะแน่ นั่นมันง่ายเกินไป เพราะเกมลักษณะแบบนี้มันบอกไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนามแห่ง เอฟเอ คัพ

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ เมื่อมีผู้เล่นมากกว่า สกอร์เหนือกว่าแบบยับเยินถึง 3 เม็ด ไม่น่าจะต้องตกอยู่ในสภาวะกดดัน และเครียดกันยกทีมจนเกือบจะโดนไล่ตีเสมอด้วยซ้ำ

ทั้งที่เกมนี้ ซิตี้ แทบจะไม่มีอะไรเลยเมื่อแดนกลางขาดพลังปะทุของ ยาย่า ตูเร่ และการเชื่อมเกมของ เกเร็ธ แบร์รี่ รวมทั้งต้องเล่น 10 คนเกือบจะทั้งเกม

น่าเสียดายที่ แมนฯยูฯ ก็มีปัญหาตรงนี้เช่นกัน จะออกรบกันทั้งทีทำไมถึงไม่มี “แม่ทัพ”

ยามนี้ สโคลส์ ไม่ใช่คำตอบ มีอย่างเดียวก็คือ ภาวนาให้ เคลฟเวอร์ลี่ย์ กลับมาเร็วๆ และเล่นให้ได้เหมือนเดิม เหมือนกับที่เคยเล่นไว้กับ อันแดร์สัน

เพราะถามว่าจะซื้อนักเตะมาเพิ่มหรือไม่นั้น มันน่าจะมีคำตอบว่า “ไม่ซื้อ” มากกว่า “ซื้อ”

หากคำตอบสุดท้ายเป็นอย่างหลังถือว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เนื่องจากที่มีอยู่ตอนนี้มันไม่ไหวจริง ๆ แต่ถ้าหากเป็นคำตอบแรก ตอบว่า “ไม่ซื้อ” ขึ้นมา

ปัญหานี้ไม่มีทางแก้แน่นอน!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

คอลัมน์ may i come in please นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook