บุคลิกที่ต้องการ

ชัยชนะของ “เรือใบสีฟ้า” ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม บนเกมที่ถือว่าทดสอบอะไรพวกเขาหลายต่อหลายอย่าง ตั้งแต่ก่อนเกม และระหว่างเกม เรื่อยไปจนถึงแทบจะสิ้นเสียงนกหวีด
    
ก่อนเกมยังคงไม่มี แว็งซ็องต์ กอมปานี ที่ติดโทษแบนไปแบบน่าสงสัยถึง 4 นัด หรือจะเป็นการขาด ยาย่า ตูเร่ ที่เห็นผลชัดเจนในแดนกลาง

กระทั่งมาได้ 2 ประตู ถึง 1 ชั่วโมง ไม่กี่นาที จากว่าที่นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีอย่าง ดาวิด ซิลบา ที่สร้างเกมมาให้ ซาเมียร์ นาสรี่ หลุดเข้าเขตโทษกดเต็มแรงด้วยขวาตุงตาข่าย ต่อด้วยการสังหารในระยะเผาขนของ โจลีออน เลสค็อตต์

จังหวะและบรรยากาศพาไปให้พวกเขาเสียสมาธิและถูกตีไข่แตกจากนั้นแค่นาทีเดียว จากการยิงของ เจอร์เมน เดโฟ ที่ได้ลงตัวจริงเพราะ เอ็มมานูแอล อเดบายอร์ หมดสิทธิลงเล่นตามกฎห้ามเจอทีมที่ปล่อยให้ยืมตัว
      
จากนั้นก็มาถูกตีเสมอจาก เกเร็ธ เบล นักเตะที่ถูกตั้งค่าหัวให้ว่า หากย้ายทีมก็จะต้องเป็น “สถิติโลก”

สุดท้ายแล้ว พวกเขามาได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และการยิงจุดโทษอย่างเยือกเย็นของ “เอล เกรียน” มาริโอ บาโลเตลลี่
    
ทำให้ ซิตี้ ปิดจ๊อบเกมสำคัญสุดๆ แบบนี้ลงได้อย่างน่าประทับใจ

ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่วินาที กำลังจะเสียประตู

เป็นอีกบททดสอบที่พวกเขาสามารถก้าวผ่านไปได้อย่างน่าประทับใจอย่างที่สุด พร้อมกับทำให้ สเปอร์ส ที่ทำดีที่สุดแล้วมีระยะห่างออกไปเป็น 8 คะแนน
       
ว่ากันตามเชิง โอกาสลุ้นแชมป์แทบจะหมดไปแล้ว
     
ซิตี้ เล่นได้ตามที่ตัวเองต้องการ ผลการแข่งขันแบบนี้ส่งผลให้พวกเขานั้นมีโอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมากขึ้นไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องไปสนใจผลการแข่งขันระหว่าง อาร์เซนอล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

พร้อมกับจะเตรียมไปเล่นคาร์ลิ่ง คัพ รอบตัดเชือก นัดที่ 2 ได้อย่างมั่นใจ

ผิดกับอีกหนึ่งมุมที่พวกเขาจะต้องเจอกันนั่นคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เล่นได้อย่างย่ำแย่ หรือถ้าไม่เกินเลยจนเกินไปจะบอกได้ว่า ฟอร์มอันห่วยที่สุดตั้งแต่ เคนนี่ ดัลกลิช รีเทิร์นมาคุมทัพเลยก็ว่าได้
     
คำจำกัดความก็คือ “ไม่เอาอะไรสักอย่าง”
      
สมควรแล้วที่ ดัลกลิช จะออกมาฉะลูกทีมผ่านสื่อครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ามารับงานกว่า 1 ขวบปี ว่า นักเตะไม่แสดงความเคารพต่อคู่แข่ง
     
ตามทรงแล้วถือว่า “แรงมาก”

“ที่สโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ไม่มีใครชอบดูหมิ่น หรือไม่แสดงความเคารพต่อคนอื่น ซึ่งถ้านั่นเป็นปัญหา และถ้าพวกเขาคิดว่า เกมนี้มันไม่สำคัญเท่าเกมถัดไป ก็แล้วแต่พวกเขา ตามสบายเลย แต่คนที่คิดแบบนั้นจะไม่ได้อยู่ที่นี่แน่ นักเตะบางคนไม่พร้อมที่จะเล่นเกมนี้เลย แน่นอนว่ามันไม่ถูกต้องแน่”
      
ประเด็นนี้โดนเลยครับ
     
ทุกสิ่งอย่างได้สั่งสอนนักเตะบางคนที่เล่นเหมือนกับซังกะตาย ไร้สมาธิ แม้ว่าเกมนัดต่อไปกับ ซิตี้ จะสำคัญมาก เพราะเท่ากับว่ากำลังจะได้ชิงบอลถ้วยได้สำเร็จ
    
แต่มันก็ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะกระทำการแบบนี้

บุคลิกที่แฟนฟุตบอลไม่ว่าทีมไหนๆ ก็ต้องการ มันคือเรื่องที่ต้องรู้หรือ คอมมอนเซนส์ ว่า คุณจะต้องเต็มที่เมื่อได้ลงสนาม
      
อย่างน้อยแฟนๆ ที่ตามมาเชียร์ หรือกระทั่งถ่างหูถ่างตารอดูรอเชียร์อยู่นั้นเขาจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเห็นซมอบี้อยู่ในทีมที่เค้ารัก
      
อย่างน้อยถ้าไม่เห็นแก่ใคร

ก็ควรจะเห็นแก่เกียรติตัวเอง!

เรื่องโดย " บี แหลมสิงห์ "