วิกฤติของ "กุหลาบไฟ"

วิกฤติของ "กุหลาบไฟ"

วิกฤติของ "กุหลาบไฟ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีก่อน นั่นคือปีที่ แบล็คเบิร์น ได้รับการเชิดหน้าชูตาในฐานะทีมที่สองในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ "พรีเมียร์ลีก"

ภายใต้การเทคโอเวอร์ของ แจ็ค วอล์คเกอร์ ประธาน "กุหลาบไฟ" ณ เวลานั้น ทีมดังจากแลนคาเชียร์คือสโมสรที่สุดยิ่งใหญ่พร้อมกับมีซูเปอร์สตาร์ ณ ตอนนั้นอย่าง อลัน เชียเรอร์ และ คริส ซัตตัน เป็นตัวชูโรง

ก็เป็นธรรมดาที่ไม่มีใครยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า จากวันนั้นถึงวันนี้.. กาลเวลาย่อมเปลี่ยนไปตามสภาพ และอายุขัย หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงเข้าสู่ยุคต้น 2000 ความร้อนแรงของ แบล็คเบิร์น เริ่มเจือจางลงพร้อมกับแปรสภาพเป็นทีมกลางตาราง

กระนั้นก็ยังมีโมเมนต์ฉาบฉวยได้บอลถ้วย ลีก คัพ ให้เห็นบ้าง และทำให้แฟนๆได้ชื่นใจ

 1217855

แต่ใครเล่าจะคิดล่ะครับว่าภายหลังการเข้ามาของกลุ่มทุน "เวนกี้ส์"..

นับจากนั้นเส้นกราฟชีวิตของ "แบล็คเบิร์น" จะค่อยๆดิ่งเหว จบจนกระทั่งปัจจุบัน

ชื่อชั้นเกรดมีระดับอย่าง "แบล็คเบิร์น" จะไม่เคยได้กลับคืนลีกสูงสุดอีกเลย!

หลัง 44 นัดบนเวทีแชมเปี้ยนชิพ ผ่านไปถึงตรงนี้ แบล็คเบิร์น อยู่อันดับ 22 มี 45 แต้ม แต่นั่นไม่เท่ากับการที่พวกเขาเก็บชัยได้แค่นัดเดียวตลอด 10 เกมหลังสุดที่ลงสังเวียน

 617253486

"สโมสรมีเงินในคลัง 40 ล้านปอนด์ แต่กลับเซ็นแต่ตัวฟรีไม่คว้าใครมาเลย มันเป็นไปได้อย่างไรที่เราไม่ใช้เงินเลยแม้แต่นิดเดียว!?" โจชัวหนึ่งในสาวกพันธุ์แท้ของทีมกล่าวอย่างมีอารมณ์

"พวกเขาไม่เคยมีการอธิบายการกระทำเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไปจ้างใครที่ไหนก็ไม่รู้มาทำงาน ในตอนนี้ สโมสรนี้ไม่ใช่ของพวกเราอีกต่อไป มันเป็นของใครหน้าไหนก็ไม่รู้ไปแล้ว"

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนในเกมล่าสุดที่เสมอกับ บริสตอล ซิตี้ คาบ้าน 1-1 แฟนบอล แบล็คเบิร์น บางส่วนต่างประท้วงด้วยการเดินเข้าจากสนามในนาทีที่ 18 และออกจากสนามในนาทีที่ 75

โจชัว และ แซม มิลเลอร์ สองพี่น้องต่างวัยต่างก็เป็นหนึ่งในแฟนบอล 2,500 รายที่เข้าร่วมประท้วงเจ้าของทีมรายนี้ เช่นเดียวกับ แดนนี่ ไรท์ หนึ่งในสาวกที่ซื้อตั๋วปีมากว่า 20 ปี แต่แล้วเจ้าตัวกลับล้มเลิกการเข้าไปชมเกมของสโมสรตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน ด้วยเหตุผลที่รับไม่ได้กับการกระทำของ "เวนกี้ส์" ที่ทำสโมสรสุดรักตนเละเทะไม่มีชิ้นดี!

 601884180

"นี่เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ผมเชียร์ทีมมาเลย ผมจะไม่ไปที่นั่นอีกแล้ว เพราะการจัดการของทีมนั้นเละเทะจนแทบไม่เหลือซาก"

"ในตอนนี้มีแฟนบอลเพียงน้อยนิดที่เข้าชมเกม ส่วนที่เหลือนั้นเลิกเข้าชม ผมเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้ไม่รักทีมนะ หากแต่ต้องการประท้วง และรับไม่ได้กับการกระทำของทีม"

แล้วเพราะอะไรกันหรือที่ทำให้แฟน แบล็คเบิร์น นั้นเอือมระอากับ เวนกี้ส์!?

หากจะว่ากันถึงวีรกรรมที่เศรษฐีจากอินเดียนี้ปู้ยี้ปู้ยำ ให้เขียนเป็นเรียงความ 8 หน้าก็ไม่เสร็จ เอาเป็นว่าตั้งแต่วันแรกที่ เวนกี้ส์ เข้ามาฮุบทีมเจ้าตัวก็ประกาศครับว่า ภายใน 4 ปีจะพา แบล็คเบิร์น พุ่งทะยานไปลุยชปล.ให้ได้!

 106369943

เท่านั้นไม่พอ เจ้าตัวยังเคยคุยโวที่จะดึงซุปตาร์อย่าง กาก้า และ โรนัลดินโญ่ เข้าสู่ทีมอีกต่างหาก แต่แล้วผลที่ได้กลับตรงกันข้ามราวกับนรก

"กุหลาบไฟ" กลายเป็นทีมที่มีหนี้สินบานตะไท ซ้ำร้ายกว่านั้นยังโดนแบนจากการซื้อ-ขายเป็นเวลากว่าหนึ่งปี แม้จะพ้นโทษกลับมาแล้วแต่เอาแค่เงินจ่ายค่าเหนื่อยยังแทบไม่มี ต้องอาศัยขายนักเตะกินพร้อมเซ็นฟรีไปวันๆ

เช่นเดียวกับช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านไป ในขณะที่ทีมกำลังเผชิญกับมรสุม..

เวนกี้ส์ กลับไม่ให้งบผู้จัดการทีมซื้อตัวเลยซักราย!

มิหนำซ้ำล่าสุดยังมีการเปิดเผยอีกว่า ตลอด 6 ปีหลังสุดที่เข้าเทคโอเวอร์ทีม อัดนูร์ราดฮา เดไซ ประธานสโมสรตัวแสบเคยมาสอดส่องชมเกมแค่ 2 นัดเท่านั้น!

 632928160

"ผมยังจำได้ดีถึงสมัย จอห์น วิลเลี่ยมส์ เป็นประธานสโมสร ยามที่ทีมแพ้เขาจะใจสลายไปกับผู้จัดการทีม และนักเตะด้วย"

"ผมจำได้แม่นเลยว่า จอห์น นั้นไม่คุยกับใครเลยตลอดการเดินทางกลับจากการเล่นทีมเยือน เขาหัวใจสลาย และสุดหดหู่"

"แต่ในตอนนี้หลายสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว เอาตามตรงนะ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า กลุ่มทุน เวนกี้ส์ รู้บ้างรึเปล่าว่ามีใครอยู่ในสโมสรบ้างด้วยซ้ำไป"

ถึงตรงนี้ชะตากรรมของ แบล็คเบิร์น เหลืออีกเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น คืนวันเสาร์นี้พวกเขามีคิวเปิดบ้านครั้งสุดท้ายพบกับ แอสตัน วิลล่า ก่อนปิดท้ายด้วยเยือนเบรนท์ฟอร์ด

 671499224

แน่นอนครับ นี่คือสองบิ๊กเกมที่ไม่ต่างกับ "นาทีชีวิต"

ในขณะที่ยักษ์หลับอย่าง นิวคาสเซิ่ล กำลังจะกลับคืนสู่ลีกสูงสุด "กุหลาบไฟ" กลับเจียนอยู่เจียนไปและส่อแววจะร่วงโรยราวกับไม่มีสิ้นสุด ช่องว่างที่ห่าง เบอร์มิงแฮม เพียงแค่ 2 แต้ม ฟังดูอาจไม่เยอะ แต่จากฟอร์มการเล่นและความมั่นใจในปัจจุบัน..

คุณแน่ใจนักหรือว่า แบล็คเบิร์น ทีมนี้จะเอาตัวรอดจากวิกฤตินี้ได้!??

คงเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อย ถ้าหากพวกเขานั้นตกชั้น แต่บางทีนี่คงเป็นสัจธรรมของฟุตบอลเหมือนเช่นที่ พอร์ทสมัธ เคยเจอ หรือ แบร็ดฟอร์ด เคยโดน กระทั่ง น็อตต์ส เคาท์ตี้ ที่ไม่เคยกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกเลย

 aa

แบล็คเบิร์น กำลังจะเป็นอีกทีมครับที่โดนพิษของอสูรประธานสโมสร "กลืนกิน"

จากวันที่คู่หู "SAS" อลัน เชียเรอร์ และ คริส ซัตตัน พาทีมสร้างประวัติศาสตร์ น่าเศร้าที่ในวันนี้ "กุหลาบ" ที่เคยเบ่งบานในวันนั้นมาวันนี้กลับไม่สดใสอีกต่อไป

2 นัดนับจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ แต่ในฐานะแฟนที่เคยติดตามพวกเขาในอดีตนึกแล้วก็ได้แต่แอบใจหายเบาๆ

กาลเวลาช่าง "เปลี่ยนแปลง" ไปมากเหลือเกิน..

คงได้แต่ภาวนาให้พวกเขาไม่ร่วงโรย และหายไปตลอดกาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook