"5 แข้งตำนาน".. เล่นแดนผู้ดีช้าเกินไป

"5 แข้งตำนาน".. เล่นแดนผู้ดีช้าเกินไป

"5 แข้งตำนาน".. เล่นแดนผู้ดีช้าเกินไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น่าจะเป็นที่แน่นอนแล้วนะครับว่าในซีซั่นหน้าเราอาจไม่ได้เห็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เล่นในพรีเมียร์ลีกอีกต่อไป

หลังบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาว 7 เดือน ก่อนที่มีข่าวออกมาว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะตัดสินใจยกเลิกข้อเสนอสัญญาใหม่ของเจ้าตัว ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือคนเก่งได้เร้าให้ต้นสังกัดมอบสัญญาใหม่ให้ยอดดาวยิงรายนี้เพื่อตอบแทนฟอร์มเยี่ยมที่ซัดไปถึง 28 ประตูให้กับทีม

น่าเสียดายครับที่สุดท้าย "ซลาตัน" ได้บอกปัดโอกาส

เพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพ ที่สุดแล้วแข้งวัย 35 ปีก็ได้ตอบปฏิเสธสัญญาใหม่ฉบับนี้ไป อิบราฮิโมวิช นั้นไม่ต้องการที่จะรับค่าเหนื่อยไปวันๆ แต่ตัวเองกลับทำตัวไม่คุ้มค่าเงิน นั่นจึงทำให้ ซลาตัน เลือกที่จะรักษาตัวให้หายขาดเสียก่อน หลังจากนั้น "ค่อยว่ากัน"

ว่าไปแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า กระนั้น ซลาตัน ไม่ใช่พ่อค้าแข้งเพียงรายเดียวครับที่ตัดสินใจโยกมาเล่นแดนผู้ดีช้าไป ที่ผ่านมามีดาวเตะเข้าขั้นตำนานหลายรายที่จนแล้วจนรอดก็ลีลาไม่ยอมมาเล่นลีกอังกฤษอย่างใครเขา แต่เมื่อตัดสินใจโยกย้ายมา..

ถึงเวลานั้น "ก็สายไปเสียแล้ว"

วันนี้เราจะขอพาทุกท่านพบกับ 5 ตำนานที่เลือกมาเล่นพรีเมียร์ลีกในช่วงบั้นปลายอาชีพ แต่ด้วยการที่แก่เกินแกงไปแล้วทำให้เส้นทางของพวกเขาเหล่านี้ไม่เปรี้ยงปร้างและปิดฉากสวยหรู "เท่าที่ควร"

บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์

 633010980

"บาสตี้" ถือเป็นตัวอย่างที่ดีและเพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆไม่นาน

หลังจากที่เป็นถึงตำนาน บาเยิร์น มิวนิค อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมันรายนี้ก็ตัดสินใจโยกย้ายมาหาความท้าทายช่วงบั้นปลายในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด กับ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าเสียดายครับที่เส้นทางอาชีพของเจ้าตัวนั้นไม่เคยกลับไม่รุ่งโรจน์อีกเลย

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ชไวนี่ ต้องพบกับอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ที่พีคที่สุดและน่าจะเลวร้ายที่สุดในอาชีพของเจ้าตัวคงเป็นซีซั่นนี้ที่ ชไวน์สไตเกอร์ หลุดจากทีมกระทั่งทีมชุดใหญ่ เนื่องเพราะ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือผู้เข้ามาใหม่นั้นไม่ชอบสไตล์เป็นการส่วนตัว

แม้จะแสดงความเป็นมืออาชีพด้วยการมาซ้อมและเต็มที่เหมือนเดิม ต่อให้เล่นให้ทีมสำรองก็ตาม จนชนะใจ มูรินโญ่ แต่สุดท้าย แข้งวัย 32 ปีก็ได้เล่นแค่ในบอลถ้วย 1-2 นัด ส่วนในลีกเจ้าตัวไม่เคยได้เป็นตัวจริงหรือลงสนามซักครั้งเดียว

ก่อนที่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวเพิ่งได้ฤกษ์ระเห็จไปเล่นให้ ชิคาโก้ ไฟร์ ที่อเมริกาพร้อมกับยุติฝันร้ายเสียที

พาทริค ไคลเวิร์ต

 660972706

อดีตสุดยอดกองหน้าของ บาร์เซโลน่า ช่วงต้นยุค 2000 ลองจินตนาการดูครับว่าหาก ไคลเวิร์ต ได้มาเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล พร้อมจับคู่กับ อลัน เชียเรอร์ ช่วงพีคๆ มันจะสะเด่ามากซักแค่ไหน!??

น่าเสียดายที่นั่นดันมาเกิดขึ้นช่วงบั้นปลายอาชีพ ทำให้เราไม่เคยได้เห็นการประสานงานที่สุดยอดของทั้งสองเลย

หลังบาดเจ็บออดๆแอดๆ ไคลเวิร์ต ก็ย้ายจาก บาร์ซ่า มาเล่นให้ "สาลิกาดง" เมื่อฤดูกาล 2004-05 น่าเสียดายครับที่แม้จะลงไป 26 นัดในลีกและทำผลงานใช้ได้บางเกม รวมถึงอุตส่าห์ซัลโวทุกรายการรวมแล้วกว่า 13 ลูก แต่ในความรู้สึกของแฟน "ทูน อาร์มี่" แล้ว ดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์นั้นได้ผ่านจุดพีคไปแล้ว และโดยรวมถือว่าน่าผิดหวังมากกว่าเข้าเป้า

นั่นทำให้หลังจบฤดูกาล นิวคาสเซิ่ล ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาระยะสั้นที่ทำไว้กับเจ้าตัว และทำให้ ไคลเวิร์ต กลายเป็นจอมพเนจรเล่นให้กับ บาเลนเซีย, พีเอสวี และ ลีลล์ เรื่อยมา แต่ด้วยอาการบาดเจ็บก็ทำให้สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจรีไทร์ไปแบบเงียบๆเมื่อปี 2008 ปิดฉากอาชีพไม่ใช่แบบที่ควรจะเป็น

เอ็ดการ์ ดาวิดส์

 661598766

ช่วงรุ่งโรจน์ถ้าจะพูดถึงมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนที่สุดครบเรื่องชื่อของ "เอ็ดการ์ ดาวิดส์" ต้องติดหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ภาพสมัยบู๊สุดโหดและมีทั้งทีเด็ดลูก ยิงตีนหนักสมัยเล่นให้ ยูเวนตุส ยังคงติดตาท่านผู้ชม น่าเสียดายครับที่กว่า ดาวิดส์ จะย้ายมาเล่นในลีกอังกฤษกับ สเปอร์ส ก็ปาไปเมื่อตอนอายุ 33 ปีเสียแล้ว

และแน่นอนด้วยวัยขนาดนี้ "มันช้าเกินไป"

ดาวิดส์ ไม่ใช่มิดฟิลด์ครบเครื่องแบบเคย แม้ซีซั่นแรกเจ้าตัวจะลงเล่นในลีกเกือบทุกนัด แต่ก็ยิงไปได้แค่ลูกเดียวเท่านั้น แถมยังเชื่องช้าและทำให้ทีมต้องเสียบอลหลายครั้งด้วย

มิหนำซ้ำ ปีสุดท้ายที่เล่นให้ทีมเจ้าตัวก็เจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนจนเล่นในลีกไปแค่ 9 นัด ก่อนจะโยกย้ายกลับ อาแจ็กซ์ เลิกเล่นไป 2 ปีแล้วกลับมาเล่นใหม่กับ คริสตัล พาเลซ ในแชมเปี้ยนชิพ กระทั่งแขวนสตั๊ดแบบเงียบๆกับ บาร์เน็ต ทีมนอกลีก ชนิดที่หมดคราบตำนาน

เฟร์นานโด เอียร์โร่

 fernando-hierro-bolton.0

ก่อนจะมี เซร์คิโอ รามอส ก็มี เฟร์นานโด เอียร์โร่ นี่แหละ ที่เป็นปราการหลังต้นตำรับแห่งการทำประตู อดีตเซนเตอร์ระดับตำนานรายนี้ค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด มาเกือบทั้งชีวิต(14ปี) พร้อมกับทำประตูไปถึง 102 ลูก และกวาดมาแล้วเกือบทุกแชมป์มากมาย

แต่กว่าที่ เอียร์โร่ จะมาเล่นในลีกอังกฤษ ก็ปาไปตอน 34 ขวบ แถมยังเป็นกับทีมอย่าง โบลตัน

อย่างไรก็ตาม อายุกลับไม่ใช่อุปสรรคที่จะมาทำอะไร เอียร์โร่ ในช่วงบั้นปลายอาชีพกลับทำได้ดีเกินคาด ด้วยการผนึกกำลังกับเพื่อนเก่าสมัย มาดริด อย่าง อิบัน คัมโป รวมถึง เจย์ เจย์ โอคาชา และ ยูริ จอร์เกฟฟ์ พา โบลตัน สร้างปฐมบทตำนานที่ยิ่งใหญ่ด้วยการจบอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของสโมสรที่เล่นในพรีเมียร์ลีก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทีมต้องหนีตกชั้นตลอด

นั่นคือซีซั่นสุดท้ายที่ เอียร์โร่ โลดแล่นบนสังเวียน ก่อนที่หลังจากนั้นเจ้าตัวจะประกาศอำลาสนาม แต่ก็เต็มไปด้วยการคร่ำครวญของแฟนบอลเมืองผู้ดีที่โอดโอยด้วยความเสียดาย

เพราะหาก เอียร์โร่ มาเร็วกว่านี้ซักหน่อย บางทีพรีเมียร์ลีกอาจเต็มไปด้วยสีสัน "มากกว่านี้" เสียอีก

เฮนริค ลาร์สสัน

 73517367

"หนึ่งในสิ่งที่ผมเสียดายมากที่สุดก็คือเขานี่แหละ ผมน่าจะเซ็นเขามาให้เร็วกว่านี้ และตอนที่เขามา เขาก็กลายเป็นส่วนสำคัญที่สุดของทีมได้ทันที"

เมื่อคำพูดนี้ออกจากปากของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อไหร่ ก็ย่อมการันตีถึงความเก่งกาจที่พ่อค้าแข้งคนหนึ่งจะได้รับ ลาร์สสัน ย้ายจาก เฮลซิงเบิร์ก มาเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบยืมตัว เพื่อเป็นการฆ่าเวลาหลังลีกสวีเดนปิดฤดูกาล

แต่แม้จะเป็นเวลาแค่ 10 สัปดาห์เท่านั้น แต่สิ่งที่ ลาร์สสัน แสดงออกมา "มันเข้าขั้นตำนาน"

ดาวเตะวัย 37 ปี ณ เวลานั้น อาจทำไปได้แค่ลูกเดียวใน 7 นัดที่ลงเล่นให้ทีม แต่สิ่งที่ผู้คนไม่มีวันลืมคือทัศนคติที่แสดงออกมาในสนาม, ความเป็นมืออาชีพ และการมีส่วนร่วมกับเกมรุกที่ถึงจะเบิกสกอร์ไม่ได้ แต่ ลาร์สสัน ก็คือผู้ทำทางให้กับทีม

ตามกฏแล้วการจะได้เหรียญพรีเมียร์ลีกควรที่จะต้องลงเล่นไม่ต่ำกว่า 10 นัด แต่สำหรับ ลาร์สสัน แล้ว หลัง "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์ลีกได้ในปีนั้น สโมสรก็จัดการส่งเหรียญรางวัลมอบให้เจ้าตัวเป็นที่ระลึกเพื่อตอบแทนฟอร์มเยี่ยมที่มอบให้กับทีมแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม

นี่แค่ 2 เดือนเศษๆยังแผ่อิทธิพลได้ขนาดนี้..

ไม่อยากจะคิดครับว่าถ้าเล่นไปกว่า 2-3 ปีในช่วงพีคๆนั้น เจ้าตัวจะ "โชว์คลาส" ออกมามากขนาดไหน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook