25 ชั่วโมง 41 นาที

25 ชั่วโมง 41 นาที

25 ชั่วโมง 41 นาที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกๆ เกมเราอาจเคยพ่ายแพ้....ทุกๆ คราวแม้ไม่เป็นอย่างหวัง...แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน

ทุกๆ ทีมันอาจเป็นทีใคร...รู้ไว้เลยไม่ใช่ทีสุดท้าย...จะอย่างไรคงต้องวัดกัน

วินาทีที่เราต้องไปให้ถึง...วินาทีที่เราไม่ยอมแพ้!!!

ท่วงทำนองนี้ของ “พี่ตูน บอดี้สแลม” คงจะขอจัดให้กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ตอไม้ที่ตายแล้วในช่วงที่ผ่านมา

แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ณ เดอะ บริดจ์ ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เราได้เห็นนั้น มันผิดแผกแตกต่างกันออกไปจาก ตอร์เรส คนเดิมในช่วงที่ผ่านมา

คนที่ไร้แม้กระทั่งความรู้สึกในเกมที่ทีมทำประวัติศาสตร์ของทีมด้วยการคว่ำ นาโปลี ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ไปแบบสะใจกันทั้งเกาะ

การบรรจงเข้าไปกอดของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือชั่วคราวที่มีโอกาสค้างคืนเข้ามาทุกขณะ กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรได้ยังไงก็ไม่ทราบ

กระแสยังคงกลายเป็นเงา ไล่ถล่ม ตอร์เรส แบบยับเยิน

“สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ หนึ่งเดียวจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่เหลืออยู่ในรายการนี้ กลายเป็นที่น่าสนใจว่า ตอร์เรส จะสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้หรือไม่

เพราะว่ากันตามเชิง พวกเขาน่าจะชนะแบบแบเบอร์อยู่แล้ว

การสตาร์ตแรง ด้วยการออกนำไปก่อน 2 เม็ดจาก แกรี่ เคฮิลล์ ขึ้นมาโขก ตามด้วย กาลู หมดครึ่งแรกพวกเขานำอยู่ 2 เมล็ด

จากนั้นในครึ่งหลังเกมเดินมาถึงนาทีที่ 67 เฟร์นานโด ตอร์เรส มาพังประตูแรกได้สำเร็จ มันอาจจะเหมือนกับแป้ก ๆ แต่นั่นคือสิ่งที่เขาได้รับการตอบแทนแล้ว

หลังจากเล่นได้มาตลอดทั้งเกม

ก่อนจะทำได้ 1 ลูก และสามารถที่จะปิดแมตช์ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการถวายพานทองให้ ราอูล เมเรเลส คนที่จ่ายให้เขายิงสองเม็ด

พูดกันตรงๆ หาก ตอร์เรส มั่นใจกว่านี้ เขาน่าจะตะบันเองมากกว่าในจังหวะนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคู่ต่อสู้จะอ่อนกว่า จะต่ำชั้นกว่า อย่างน้อยๆ ตอร์เรส ก็สามารถที่จะยุติผลงานอันน่าช้ำชอกใจได้สำเร็จแล้ว

การเล่นเป็นกองหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพังประตู และที่เขาทำได้นั้นต้องรอคอยมานานถึง 25 ชั่วโมง 14 นาทีเลยทีเดียว

ถ้าจะนับเวลาก็คือ 1,541 นาที    

ยิ่งไปกว่านั้น กว่า 25 เกมที่ลงสนามและไม่สามารถยิงได้นั้น ตอร์เรส มีโอกาสมากมายรวมเบ็ดเสร็จ 50 ครั้ง กว่าที่จะคลำเป้าเจอ

ต้องดูว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร

ตอร์เรส เคยกลับมาเล่นได้อย่างน่ากลัว ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเขายิงประตูได้ แม้ว่าจะพลาดแบบไม่น่าให้อภัยในจังหวะหลุดเดี่ยว แต่ก็ยังกลับมาเล่นได้ดีในเกมกับ สวอนซี ก่อนจะโดนใบแดงไล่ออกไป

เกมกับ เกงค์ อาจจะยิงได้ แต่เขาก็ไม่ได้เล่นดีอะไรมากมายนัก จนกระทั่งทำอะไรใครไม่ได้เลย 25 นัดหลังสุดในทุกรายการ

จนท้ายที่สุดมันปกปิดความย่ำแย่ไม่ได้เมื่อโดนตัดออกจากทีมชาติสเปน ทั้งที่ ดาวิด บีญ่า ดาวยิงอันดับ 1 ยังไม่พร้อม

อะไรจะเกิดขึ้นนับจากนี้ มันตอบยากจริงๆ หลังจาก ตอร์เรส เล่นดีเกมนี้ แต่เขามีโอกาสสูงมากที่จะต้องกลับไปเป็นตัวสำรองในเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลางสัปดาห์นี้

“สากกะเบือ” ที่หลุดจากวิญญาณของเขาไปเมื่อวันวาน จะกลับมาอีกหรือเปล่า

เป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ!!!

บี แหลมสิงห์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook