ภารกิจของแต่ละทีม

ภารกิจของแต่ละทีม

ภารกิจของแต่ละทีม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นัดปิดฤดูกาลของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี ในวันอาทิตย์ (13 พ.ค.) ที่จะถึงนี้ ถือเป็นนัดสั่งลาที่น่าจะได้ลุ้นกันมันสุด ๆ ไปเลย

เนื่องเพราะว่า แฟนบอลยังจะได้ตามลุ้นผลการแข่งขันที่จะมีผลต่อการลุ้นแชมป์, หนีตาย และลุ้นโควตาบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นับนิ้วรวมแล้วถึง 6 คู่เลยทีเดียวเชียวละครับ

ไม่เหมือนหลาย ๆ ซีซั่นที่ผ่านมา ที่เกมนัดส่งท้ายของฤดูกาล จะหาแมตช์ที่มีความหมาย ต้องตามลุ้นกันอยู่แค่ไม่กี่นัด

ในโซนหนีตายนั้น มาถึงตรงนี้ ก็เหลือเพียงแค่ ควีนส์ปาร์ค กับ โบลตัน ที่ต้องดิ้นรนกันในเฮือกสุดท้าย โดยสถานการณ์ของทีมทหารเสือราชินี ดีกว่าตรงที่มีแต้มสะสมนำหน้าโบลตัน อยู่ 2 แต้ม แต่ที่แย่กว่าก็คือ แมตช์สุดท้ายของทีมทหารเสือ คือการไปเยือนถิ่นทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้

ในขณะที่ แมตช์สุดท้ายของ "เดอะทร็อตเตอร์" โบลตัน ง่ายกว่ามาก แม้จะต้องออกนอกบ้านเช่นกัน แต่ทีมที่พวกเขาต้องไปเยือน ก็คือทีมที่ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมายแล้วอย่าง "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้

งานนี้ ทีมใดจะอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องอ่านไปเรื่อย ๆ จนจบคอลัมน์นะครับ

สำหรับในกลุ่มลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก ก็คือ อันดับ 3 และ 4 (ในกรณีเชลซี ไม่ได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก) ระหว่าง ปืนใหญ่ "อาร์เซนอล", "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส และ "นกสาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นั้น

สถานการณ์ของทั้ง 3 ทีม ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเองทั้งนั้น โดย ปืนใหญ่ ของอาร์แซน เวนเกอร์ ถ้าบุกไปเอาชัยเหนือ เวสต์บรอมวิช ได้ ก็ไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันของทั้ง สเปอร์ส และ นิวคาสเซิล ว่าจะออกหัวหรือก้อย

ในขณะที่ ทีมไก่เดือยทองของแฮร์รี่ เรดแนปป์ ก็ต้องเอาชัยเหนือฟูแล่ม ให้ได้ แล้วลุ้นให้ ปืนใหญ่ ไม่ชนะ เวสต์บรอมวิช พวกเขาก็จะได้อันดับที่ 3

ส่วนทีมนกสาลิกาดง ของอลัน พาร์ดิว ต้องบุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน เพียงสถานเดียว แล้วลุ้นให้อาร์เซนอล และ สเปอร์ส แพ้ทั้งคู่ พวกเขาจึงจะคว้าอันดับ 3 หรือไม่ก็ให้ทีมใดทีมหนึ่งแพ้ แล้วพวกเขาชนะ อย่างน้อย ๆ นิวฯ ก็จะซิวอันดับที่ 4 พออุ่นใจเอาไว้ก่อน

แต่! ใครจะได้เฮในนัดสุดท้าย ก็ขอให้อ่านต่อไปเรื่อย ๆ ครับ

แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ของแฟนบอล ยังคงใจจดใจจ่ออยู่กับการตามลุ้นแชมป์ของ 2 ทีมเมืองแมนเชสเตอร์ ทั้ง ซิตี้ และ ยูไนเต็ด ที่จะต้องมาตัดสินชะตากรรมกันในวันสุดท้ายของซีซั่นพอดี

สถานการณ์มาถึงตรงนี้ ผมมักจะเจอคำถามจากพรรคพวกเพื่อนฝูง คนที่รู้จัก ซึ่งจะยิงคำถามเข้าใส่แบบไม่ให้ได้ทันตั้งตัวเลยว่า ปีนี้ ใครจะเป็นแชมป์

ผมก็มักจะตอบแบบ "แบ่งรับแบ่งสู้" อยู่เสมอว่า แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสดีกว่า แต่ว่าก็อย่าได้คิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะหมดสิทธิก้าวไปเป็นแชมป์บอลลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 20 เป็นอันขาด

เหตุผลที่ผมบอกออกไป ไม่ใช่เพราะผมมั่นใจในทีม "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค ว่าจะบุกไปคว้าชัยชนะ หรือแบ่ง 1 คะแนนมาจากทีมเรือใบสีฟ้าที่ เอติฮัต สเตเดี้ยม หรอกครับ

แต่! ที่ผมตอบพรรคพวกไปว่า แมนฯ ยูฯ ยังมีโอกาส เนื่องจากว่าพวกเขา จะบุกไปเอาชนะเหนือทีม "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ด้วยสกอร์ถล่มทลายเกินกว่า 10 ประตู จนมีประตูได้-เสียสะสม แซงหน้า แมนฯ ซิตี้ จนได้

ใครจะบอกว่า ผม "ฝัน" ไปหรือเปล่าก็ช่างเถอะ แต่ที่ผมคิด และมักจะตอบออกไปเช่นนี้ เพราะผมเชื่อว่า ในนัดสุดท้ายของบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้นั้น ทุก ๆ ทีม ล้วนแล้วแต่จะต้อง "พึ่งตัวเอง" แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นหากอยากจะไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเอง

ทีมเรือใบสีฟ้า ของโรแบร์โต้ มันชินี่ ก็จะต้องคว้าชัยเหนือควีนส์ปาร์คให้ได้ และควรจะยิงประตูตุนเอาไว้สักหน่อย เพื่อเดินหน้าไปสู่แชมป์แบบสบายใจหายห่วง ไม่ต้องไปสนใจว่า คู่แข่งร่วมเมืองจะยิงซันเดอร์แลนด์มากมายแค่ไหน

ทีมปิศาจแดง ของท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็จะต้องบุกไปเอาชัยแบบฟ้าถล่มดินทลายเหนือ ซันเดอร์แลนด์ ให้ได้ เพื่อไล่แซงหน้าทีมคู่แข่งรวมเมืองได้อย่างที่หวัง เพื่อเป็นแชมป์สมัยที่ 20

ทีมปืนใหญ่ ของอาร์แซน เวนเกอร์ ก็จะต้องบุกไปคว้าชัยเหนือ เวสต์บรอมวิช ที่ฮอว์ธอร์น ให้ได้ เพื่ออันดับที่ 3 แน่ ๆ แบบไม่ต้องไปสนผลงานของคู่แข่งในนัดสุดท้าย

ทีมไก่เดือยทอง ของแฮร์รี่ เรดแนปป์ ก็ต้องเอาชัยในลอนดอนดาร์บี้เหนือ ฟูแล่ม ให้ได้ก่อน เพื่อให้ได้อย่างน้อยอันดับ 4 แล้วก็แช่ง อาร์เซนอล ให้ไม่ชนะในนัดสุดท้าย เพื่อเป็นที่ 3 หรือถ้าแช่งไม่สำเร็จ ก็ยังได้ไปแช่ง เชลซี ให้แพ้ บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมดังแห่งลอนดอนตอนเหนือ จึงจะได้สิทธิไปเล่นบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป

ทีมนกสาลิกาดง ของอลัน พาร์ดิว ก็ต้องบุกไปชนะเอฟเวอร์ตัน ให้ได้ก่อน แล้วแช่งให้ทั้งอาร์เซนอล และ สเปอร์ส แพ้ทั้งคู่ หรือไม่ก็ให้ อาร์เซฯ แพ้, สเปอร์ส เสมอ ทีมยักษ์ใหญ่จากภาคอีสาน ก็จะได้สิทธิไปเล่นบอลแชมเปี้ยนส์ลีกในฐานะอันดับ 3 หรือถ้าได้ที่ 4 ก็ค่อยไปแช่งเชลซี อีกที

ในขณะที่เป้าหมายของทีมทหารเสือราชินี ของมาร์ค ฮิวจ์ส ต้องบุกไปคว้าอย่างน้อย 1 แต้มจากถิ่นเอติฮัต สเตเดี้ยม พวกเขาก็จะอยู่รอดปลอดภัย ส่วน โบลตัน ของโอเว่น คอยล์ ก็ต้องบุกไปชนะสโต๊ค แล้วเชียร์ให้ แมนฯ ซิตี้ มีชัยเหนือ ควีนส์ปาร์ค พวกเขาก็จะได้อยู่ต่อ

เรียกว่า แต่ละทีม ต่างก็มีภารกิจของตัวเองที่จะต้องกระทำให้แล้วเสร็จ เพียงแต่ว่า ภารกิจของบางทีม (แมนฯ ซิตี้ , อาร์เซนอล , สเปอร์ส , โบลตัน) ดูไม่ยากเกินไปกว่าที่พวกเขาจะกระทำ

แต่สำหรับบางทีม (แมนฯ ยูฯ, นิวคาสเซิล, ควีนส์ปาร์ค)  ภารกิจในนัดสุดท้าย มันยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่าหนัง "มิสชั่น อิมพอสซิเบิล" แค่นั้นเองครับ

ทว่า! สุดท้ายแล้ว ใครจะสมหวัง หรือผิดหวัง ไม่เกิน 5 ทุ่มของวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคมนี้ ได้รู้กัน

เฮียนอส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook