ไทยไฝ้..ไฝ้กันแบบไทยๆ

ทันทีที่ได้ยินโฆษกประกาศว่าเป็นนักชกจากเขมร ต้นหิน เองฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกว่า มึงตายแน่!

ไทยไฟท์ การต่อสู้ด้วยศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่ได้รับการยอมรับกันไปทั่วโลกว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก โดยจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2553 การแข่งขันไทยไฟท์ จัดขึ้นเป็นประจำทั้งในประเทศรวมไปถึงต่างประเทศ

แต่หลังจากการที่ได้เห็นการแข่งขันที่แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา มันดันทำให้ ต้นหิน เริ่มรู้สึกตะหงิดๆ ใจยังไงชอบกลว่าจริงๆ แล้วจากที่ได้เห็นไปนั้นมันเป็นมวยปล้ำหรือมวยไทยกันแน่ มันเป็นมวยไทยหรือแค่จัดฉาก

 

4 จตุรเทพอวตาร ไทยไฟท์ ที่ชกกับใครก็ชนะ!

ยอมรับตามตรงว่าจากการที่ได้เห็นการจัดการแข่งขันไทยไฟท์ ครั้งแรกๆ ต้นหิน เองก็รู้สึกภาคภูมิใจไม่น้อยที่ศิลปะการต่อสู้อย่าง มวยไทย มันดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ชาวต่างชาติมากมายให้ความสนใจกันอย่างคับคั่งซึ่งในอดีตเราได้แต่ดูการแข่งขันชกมวยไทยจากรายการขาประจำอย่าง เวทีราชดำเนิน เวทีลุมพินี ศึกอัศวินดำ วันทรงชัยนายขนมต้ม รวมไปมวยช่อง 7 สี และมวยสยามอ้อมน้อย

ส่วนที่โกอินเตอร์หน่อยก็ต้องดิ้นรนหาดูเอาตามเคเบิลต่างๆ ที่มีนักมวยบ้านเราไปชกที่ญี่ปุ่น ซึ่งตอนนั้นที่ชื่อคุ้นหูหน่อยก็มี ก้าวไกล แก่นนรสิงห์ รายนี้ที่รู้จักก็เพราะดันไปเป็นตัวละครในเกมเพลย์สเตชั่นนั่นเอง

ส่วนอีกหลายคนก็พอดิ้นรนหาดูได้บ้างตามประสา แต่ในปัจจุบันประเทศไทยซึ่งเป็นต้นตำรับ มวยไทย ได้จัดการแข่งขันไทยไฟท์ขึ้นมาและมีนักชกชาวต่างชาติจำนวนมากที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้พี่ไทยไล่ต่อยจนหน้าหงาย

สาบานต่อหน้าสภาอันทรงเกียรติ ต้นหิน ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อเห็นการจัดการแข่งขันที่เริ่มเข้าข่ายปาหี่ มันก็เลยอดไม่ได้ที่จะสงสัย ซึ่งก็เชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ ท่านคงคิดเหมือน ต้นหิน เช่นเดียวกัน

ไม่ได้พูดว่าหากตัวเองได้ทำแล้วจะทำได้ดีว่านั้น แต่สิ่งที่เห็นมันอดน่ารำคาญใจไม่ได้กับ 2 พิธีกรอย่างคุณแมทธิว ดีน และน้าเน็ก (ด้วยความเคารพนะครับ) ซึ่งไม่รู้ว่าท่าน 2 คนนี้จะกระแดะพูดไทยคำอังกฤษคำไปถึงไหน

แต่ก็ต้องขอติไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า ภาษาของพวกคุณทั้ง 2 คนใช้ไม่ได้ทั้งไทยและอังกฤษเลย ประกาศชื่อนักมวยแบบสำเนียงมั่วๆ จนฟังไม่ได้ศัพท์ว่าตกลงนักมวยเค้าชื่ออะไรกันแน่ เลือกให้ดีครับจะพูดไทยก็ไทย จะพูดอังกฤษก็อังกฤษไปเลย เอาสักอย่าง

แถมยังแอบขำกับประโยคที่บอกว่า บาร์เซโลน่า จะมาเมืองไทยนำโดยกัปตันทีม คาร์ลอส ปูโยล และไลโอเนล เมสซี่ เข้าใจครับว่าท่านทั้ง 2 อาจจะไม่ค่อยรู้ชื่อนักฟุตบอล แต่ถ้าไม่รู้จริงๆ อันนี้ก็ต้องทำการบ้านกันหน่อยสิจ๊ะ เพราะคนเค้าดูเยอะอยู่นะ!

ส่วนการคัดเลือกนักมวยมาชก อันนี้เชื่อว่าหลายๆ คน ก็คงไม่อยากเห็นคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของตำราเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่นับวันเท่าที่เห็นยิ่งชก คู่ชกก็ยิ่งอ่อนแอลงๆ เรื่อยๆ เหมือนจ้างมาให้โดนต่อยเล่นๆ ซะอย่างงั้น ดูแล้วมันไม่สนุกเหมือนครั้งแรกๆ ครับ บ่องตงเบย!

เสียรมณ์มาก ฝรั่งมังค่าที่มาชกบางรายขึ้นชกไม่ถึง 50 ไฟท์ แต่มาเจอกับนักมวยไทยที่ชกมา 200-300 ไฟท์ ถามจริงครับจะเอาอะไรไปสู้ แถมความรู้สึกเดิมๆ มันวนเวียนอยู่กับคำว่า สไตล์ไทยๆ กับใจเขาใจเรา

คนไทยมักพูดอยู่เสมอว่าหากนักมวยไทยคนไหนไปชกที่ญี่ปุ่นต้องน็อกสถานเดียว มิฉะนั้นจะโดนโกง แต่ตอนนี้พวกฝรั่งเศสที่มาชกในไทยมันก็คิดแบบนี้ทั้งนั้นแหละ หากมวยสูสีๆ พี่ไทยกินตลอด

แถมวันนี้ยังมีการชกแบบลิงหลอกเจ้าตามกระแส สืบเนื่องจากการที่ในตอนนี้มีประเด็นร้อนเรื่อง ไทย-กัมพูชา พี่ไทยเลยเอาใจคนไทยแบบสไตล์ไทยๆ ด้วยการเชิญนักมวยเจ้าของฉายาขแมร์จอมโหด สัญชาติกัมพูชามาขึ้นชกกับ สุดสาคร ส.กลิ่นมี

ทันทีที่ได้ยินโฆษกประกาศว่าเป็นนักชกจากเขมร ต้นหิน เองฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกว่า มึงตายแน่! และสิ่งที่คาดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อนักชกเพื่อนบ้านโดนไป 3 ดอกแถมศอกกลับ บทสรุปก็คือหลับครับพี่น้อง

ซึ่งว่าไปแล้วตามประสาชาวบ้านก็เหมือนกับการเรียกเขมรมาให้พี่ไทยเอาฤกษ์เอาชัยก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินเรื่องข้อพิพาทนั่นเอง แหม่...เข้าใจทำนะครับ

สุดท้ายนี้ สิ่งที่อดขำไม่ได้ก็คือการเปิดตัวนักมวยแบบไทยๆ ทั้งที่ปากบอกปาวๆ ว่าอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทย แต่เพลงที่เปิดมานั้นเหมือนกับเอาใจวัยรุ่น และไม่เห็นจะเข้ากับสโลแกนของ ไทยไฟท์ แม้แต่น้อย

ซึ่งจริงๆ ต้นหิน ก็ไม่ได้อยากวิพากษ์วิจารณ์อะไรมากมาย แล้วก็ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากให้พี่ไทยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะเตือนฝ่ายจัดว่าระวังเรตติ้งตกนะท่าน

และที่กล่าวมาทั้งหมดก็ได้ต้องการโจมตีใคร เพียงแต่อยากดูมวยสนุกๆ กว่านี้เท่านั้นเอง ไม่ใช่เหมือน มวยปาหี่ เหมือนทุกวันนี้

เรื่องโดย "ต้นหิน"