(วิล) ล่า ท้า ผี !!

(วิล) ล่า ท้า ผี !!

(วิล) ล่า ท้า ผี !!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางเข้าสู่ช่วงสุดท้ายปลายอุโมงค์ แสงสว่างส่องประกายวาววับรอรับ ว่าที่แชมป์ให้ก้าวมาสัมผัสกับตำแหน่งที่ทุกท่านรอคอย หลังจากต่อสู้ฟาดฟันมากว่า 9 เดือนเต็ม

 

แน่นอนว่าสถานการณ์ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด ใกล้หยิบ มงกุฏินั้นมาครอบครองเต็มที ตำแหน่งแชมป์อย่างไม่เป็นทางการคั่วมาแล้วเป็นเดือน เหลือเพียงแค่ประกาศผลสอบปลายเทอมอย่างเป็นทางการ

หนำซ้ำคู่แข่งแย่งความเป็นใหญ่ในยุทธภพลูกหนังเมืองผู้ดีอย่าง แมนฯ ซิตี้ เพื่อนบ้านผู้น่ารัก เพิ่งพลาดท่าเสียตัว เอ้ย!! เสียทีให้ "น้องไก่" รัว 3 เม็ดในเวลา 7 นาที จิกเอาชนะไปได้ 3-1

ต้องบอกว่าเสียหายหลายแสนล่ะครับ เพราะก่อนหน้านี้ทัพ "เรือใบ" ที่พยายามทำภารกิจยื้อแชมป์ให้นานที่สุดกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่างเคร่งครัด จากชัยชนะ 3 เกมรวด ต้องมาสะดุดกึกด้วยน้ำมือของ สเปอร์ส

เอ๊ะ !! หรือว่า ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน อาจมีพลังงานบางอย่างหรือวิญญาณอยู่ ..ก็เป็นได้ !!

ใช่แล้วแหละ ลูกทีมของ อังเดร วิลลาส-โบอาส นายใหญ่วัยหนุ่ม กำลังลุ้นพื้นที่โควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างหนัก เบียดกันอย่างมันส์ กับ อาร์เซน่อล และ เชลซี ซึ่งหวยจะออกที่ใครยังมองไม่ออก เพราะแต้มเบียดกันชนิดหายใจรดต้นคอ
 

 

 

คู่ปรับแย่งแชมป์พลาดแล้วพลาดอีก เบื่อจุงเบยช่วยกดดันหน่อยสิ ไม่ตื่นเต้นเบย
 

 

สถานการณ์เกือบจะคล้ายคลึงกัน พอเหลือบไปมองพื้นที่บริเวณบั้นท้ายตารางบอลผู้ดี ที่ยังต้องค้นฟ้าคว้าดาวหาอีก 1 โควต้าไปนับหนึ่งใหม่กับลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ต่อจาก เร้ดดิ้ง และ คิวพีอาร์ (ทั้ง 2 ทีม มีอยู่ 24 คะแนน) ที่น่าจะจองศาลาล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

หากไม่นับรวม ซันเดอร์แลนด์, สโต๊ค ซิตี้ และ นิวคาสเซิ่ล ที่มี 37 คะแนน รั้งอันดับ 14, 15 และ 16 ตามลำดับ เหลือทีมที่เบียดลุ้นหนีตำแหน่งที่ไม่ต้องการอีก 2 ทีม คือ วีแกน (31 แต้ม) กับ แอสตัน วิลล่า (34 แต้ม)

ซึ่งหากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ มุมน้ำเงิน "เดอะ ลาติกส์" ถือ ว่ามีชั้นเชิงและประสบการณ์ที่เหนือกว่า จากการหนีตกชั้นหวุดหวิดมาแล้ว 3 ฤดูกาลติดต่อกัน (2009-10 อันดับ 16, 2010-11 อันดับ 16, 2011-12 อันดับ 15)
 

 

 

ใครที่คิดว่าเจอวิลล่า มันเป็นเรื่องง่ายและผูกขาด ทางที่ดีอย่าประมาทเผื่อใจไว้ก่อนก็ดี
 

 

ขณะที่มุมแดง เอ้ย!! วิลล่า เพิ่งผ่านประสบการณ์ดิ้นรนสุดขีดเมื่อซีซั่นที่ผ่านมานี้เอง ในยุคปรับเปลี่ยนการปกครอง ด้วยการจบอันดับ 16 มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนนเท่านั้น

ต้องบอกว่านับตั้งแต่หมดยุค มาร์ติน โอนีล ที่อำลาทีมไปเมื่อปี 2010 ขุนพล "สิงห์ผงาด" ทำตัวเหมือนขาดแม่ทัพใหญ่ผู้นำขบวนเดินหน้าฟาดฟันข้าศึก แม้ปัจจุบันจะผลัดเปลี่ยนมาเป็น พอล แลมเบิร์ต นายใหญ่ฝีมือดีคนหนึ่ง แต่ก็มิเทียบได้กับคนก่อน

ดีเดย์ 22 เม.ย.นี้ แอสตัน วิลล่า มีคิวยกพลบุก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กับเดิมพันธุ์ต่อลมหายใจในลีกสูงสุด และปฏิบัติการเหนี่ยวรั้ง แมนฯ ยูฯ ให้ก้าวไปหยิบแชมป์ช้าลง

 

ขณะที่ขุนพล "ปีศาจแดง" เนื้อตัวสั่นเทา ขนหน้าแข้งลุกสู้ ด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือกับ 3 แต้มในเกมนี้ เพื่อการีนตีตำแหน่งแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ชนิด 100 เปอร์เซ็นต์

 

 

 

เกมแรกที่ วิลล่า พาร์ค

 


ภาระกิจในอีก 90 นาทีในเบื้องหน้าของ แมนฯ ยูฯ เหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" มองข้ามช็อตไปถึงภาพการฉลองต้อนรับคืนสู่เหย้าถ้วยแชมป์ลีกที่ทุกคนคุ้นเคยเรียบร้อยแล้ว

สถิติบ่งชี้ว่าเหล่าแข้งอสูรเหนือกว่าสุดขีด โดยตลอด 34 เกมหลังสุดที่พบเจอกันมา เพิ่งพลาดท่าแพ้ให้กับ วิลล่า แค่ครั้งเดียว โดยเก็บชัยไปถึง 24 นัด และเสมออีก 9 ครั้ง

ที่น่าคิดพอให้เป็นประเด็นให้หวาดเสียวเล่นๆ ได้บ้าง คือครั้งล่าสุดที่แพ้ให้ วิลล่า นั้น มันดันเกิดขึ้นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จากประตูโทนของ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ จัดการซัดตอกหน้าบรรดาลูกป๋า คารัง เมื่อปี 2009

แต่นั่นเป็นเพียงรอยด่างสีจางๆ เมื่อกว่า 4 ปีผ่านมาแล้ว แต่ครั้งล่าสุดที่เจอกัน ณ เคหะสถานแห่งนี้ แมนฯ ยูฯ จัดการรัวยับไปถึง 4 ดอกเน้นๆ โดยไม่สูญเสียความบริสุทธิ์แม้แต่ประตูเดียว

 

 

ชิชาริโต้ ของแสลงของ วิลล่า ในเกมที่แล้ว
 

 

ในเลกแรกที่เจอกันซีซั่นนี้ แฟนบอล แอสตัน วิลล่า คงจำชายที่ชื่อ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หรือ "ชิชาริโต้" ได้ขึ้นสมอง

หลังจากสวมบทซูเปอร์ซับลงสนามมาใน 45 นาทีหลัง ซัดแฮตทริก (ภายหลังให้เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ รอน ฟลาร์ 1 ลูก) นำ "ผีแดง" คว้าชัย 3-2 ทั้งๆ ที่โดนนำไปก่อน 2-0

 

 

 

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงไปล่าแชมป์
 

 

เช่นนั้นแล้ว ขุนแข้ง "สิงห์ผงาด" ที่ฟอร์ม 5 นัดหลัง เก็บชัยไปถึง 3 นัด แพ้แค่เกมเดียว หมายมั่นที่จะปล่อยของย้อนเข้าตัวบรรดาเด็กผีคืนบ้าง เพื่อให้รู้รสชาติความเจ็บปวดที่พวกเขาได้รับนั้น มันเจ็บแสบมากเพียงไร

ขณะที่อีกฝ่าย ใจก็เริ่มพองโต ต้องการ 3 แต้ม เพื่อก้าวไปหยิบแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012-13 อย่างเป็นทางการ พร้อมกับที่ "อาร์วีพี" หอกตัวเก่งกลับมาระเบิดตาข่าย 2 เกมติด หลังฝืดมาร่วม 10 นัด

เพราะฉะนั้นแล้ว บอลคู่นี้ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะถ้าหากท่านไม่ได้ดูในคืนนี้ ท่านจะคุยกับเค้า.. ไม่ - รู้ - เรื่อง !!


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook