หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า เกล็น จอห์นสัน แบ๊กขวา และ สกอตต์ ปาร์เกอร์ เจออาการบาดเจ็บหลังจากเกมเสมอ ฝรั่งเศส และอาจไม่ได้ลงในเกมที่พบกับ สวีเดน แต่ล่าสุด รอย ฮอดจ์สัน ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะใช้ไลน์อัพ 11 คนแรก จาก 90 นาทีในนัดประเดิมทั้งหมด
โดย แอชลี่ย์ โคล ที่เจ็บข้อเท้าและไม่ได้ลงซ้อมสุดท้ายแล้วจะกลับมาฟิตสมบูรณ์ ขณะที่ แอชลี่ย์ ยัง ,อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน,โจเลียน เลสตค็อตต์ และ เจมส์ มิลเลอร์ ก็ลงซ้อมในขอบข่ายที่จำกัด ขณะที่ในรายของ มาร์ติน เคลลี่ ฟูลแบ๊กของ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ลงในเกมนี้เนื่องจากป่วย
"ยังคงไม่ได้มีการจัดทีม ซึ่งผมก็ไม่ได้เตรียมที่จะพูดในขั้นตอนนั้นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ตรงนี้คาดว่าน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ หรือ ปัญหาใดๆ และนักเตะก็ทำ ได้ดีในเกมพบกับ ฝรั่งเศส ซึ่งทั้งหมดก็หวังว่าจะได้ลงเล่นอีกครั้งในวันศุกร์"ฮอดจ์สัน ออกมาบอกใบ้เป็นนัย
5 วิธีที่จะเอาชนะ สวีเดน
เกมกับ สวีเดน ถือว่าไม่ใช่เกมง่าย เนื่องจากทีมจากแดน ฟรีเซ็กส์ ต้องการคว้าชัยชนะเพื่อกลับมามีความหวังในการเข้ารอบ ซึ่งก็ไม่ต่างจากทางด้าน อังกฤษ ที่หากเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ การทะลุสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายก็อยู่ไม่ ไกลเกินเอื้อม
ในคอลัมน์วันนี้มี 5 วิธี ที่จะทำให้พลพรรค "ทรี ไลอ้อนส์"ที่จะสามารถสร้างโอกาสและเอาชนะ สวีเดน ได้
แดนกลางเก็บบอลให้ได้พร้อมขึ้นไปเติมเกมรุก
จะสังเกตได้ว่า ในเกมทีมชาติที่ผ่านมาของอังกฤษ มักจะครองบอลในแดนกลางไม่ค่อยได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในเกมกับ สวีเดน ในนัดนี้ พวกเขาจะต้องเก็บบอลและเชื่อมเกมไปให้ได้ รวมถึงตัดเกม และพาลูกขึ้นไปกด ดันแนวรับฝั่งตรงข้ามให้มากกว่าในเกมแรกที่เสมอ ฝรั่งเศส
ขณะเดียวกัน ทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ สกอตต์ ปาร์เกอร์ ก็ต้องเล่นอย่างมีวินัย รวมทั้่งวางบอลไปข้างหน้าอย่างแม่นยำ พร้อมสื่อสารกับกองหน้าในการที่จะเข้าโจมตี และแม่นยำในจังหวะแถวสอง
แม่นยำในจังหวะเซตพีท
ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นทีมที่เล่นลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ จอห์น เทอร์รี่ ที่มักทำประตูได้บ่อยครั้งจากลูกฟรีคิก รวมถึง โจเลียน เลสค็อตต์ ก็แสดงให้เห็นแล้วในนัดเปิดหัวกลุ่ม ดี ที่ส่งให้อังกฤษขึ้นฝรั่งเศส
แม้ เกล็น จอห์นสัน อาจไม่ใช่นักเตะที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี แต่คู่หน้าอย่าง แดนนี่ เวลเบค และ แอนดี้ แคร์โรลล์ ถือเป็นเป้าหมายในการฝากความหวังในการเปิดลูกเซตพีทไปให้
ขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เกมนัดประเดิม ถือว่าวางบอลจากลูกฟรีคิกริมฝั่งขวา เข้ามาหน้าประตูได้อย่างยอดเยี่ยมแบบไร้ที่ติ ซึ่งในเกมกับสวีเดน ก็หวังว่ากองกลางจากถิ่น แอนฟิลด์ จะทำเช่นนั้นได้อีก โดยเฉพาะการเจาะไปที่เซนเตอร์ฮาล์ฟอย่าง อันเดรียส แกรนควิสต์ หรือแม้แต่ อันเดรส อิซั๊คสัน ผู้รักษาประตู
และดูเหมือนว่าแผงแบ๊กโฟร์ของ สวีเดน ชุดนี้จะมีความบกพร่องในลูกกลางอากาศอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากมี 2 ประตูของ อังเดร เชฟเชนโก้ เป็นเครื่องการันตี
ส่ง อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน เป็นตัวจริงอีกครั้ง
ถือเป็นแข้งสิงโตคำรามทีอายุน้อยที่สุด ในทีมชุดนี้ ที่สำคัญยังได้รับโอกาสจาก รอย ฮอดจ์สัน ให้ประเดิมสนามในเกมแรก ซึ่งแข้งจากอาร์เซน่อล ก็สามารถตอบแทนความเชื่อมั่นของ ฮอดจ์สัน ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ และเล่นอย่างมีวินัย รวมถึงตื่นเต้นไปกับจังหวะการพาบอล นอกจากนั้นยังกดดันแนวรับประสบการณ์สูงของฝรั่งเศส ได้ไม่เลวทีเดียว
การที่ไม่มี รูนี่ย์ ในเกมนี้ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น่าจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นอังกฤษ หลายๆ คน ที่ทำสิ่งที่เกินทำนายได้ใน 90 นาที
ปรับตำแหน่ง แอชลี่ย์ ยัง ให้เข้าที่เข้าทาง
หากจะให้คะแนนในตำแหน่งกองหน้าตัวที่ 2 ในเกมที่พบกับ ฝรั่งเศส แอชลี่ย์ ยัง ถือว่าโชว์ผลงานไม่ประทับใจ แม้จะมีช็อตที่จ่ายทะลุช่องไปให้ เจมส์ มิลเนอร์ ได้ยิงก็ตาม แต่ในจังหวะจบสกอร์ และสร้างความหวาด
เสียว ดาวเตะจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แทบจะไม่ทำให้ปรากฏ
อย่างไรก็ตามในทีมสิงโตคำรามชุดนี้ แอชลี่ย์ ยัง ถือเป็นผู้เล่นกุญแจสำคัญ และหาก อดีตแข้งจากวัตฟอร์ด เล่นเข้าฝักได้ เกมของพลพรรค "ทรีไลอ้อนส์"ก็คงไหลลื่นทีเดียว นอกจากนั้นเพื่อนร่วมทีมก็จะมีลุ้นทำประตูตามไปด้วย
กรณีในเกมกับ สวีเดน หาก ยัง โชว์ฟอร์มไม่ออก รอย ฮอดจ์สัน ก็คงต้องปรับแผน ด้วยการอาจจะต้องเอาแนวรุกรายนี้ออกมานั่งข้างสนาม หรือว่าถ่างไปเล่นริมเส้น และเปลี่ยน เจมส์ มิลเนอร์ หรือ อเล็กซ์ อ็อกเลด แช มเบอร์เลน คนใดคนหนึ่งออก หรือทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีผลกระทบน้อยที่สุด
ทำประตูไม่ได้ต้องรีบปรับเปลี่ยน
มันอาจจะดูว่าแย่ หรือ โง่ หากไม่สามารถทำประตูคู่ต่อสู้ได้ แต่จุดนี้ถือว่าเป็นการยากอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเกม สำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ซึ่งมีผลในการเข้ารอบอย่างเช่นเกมนี้
อังกฤษ เรียกว่าต้องสร้างโอกาส ในการเข้าทำกับ สวีเดน จนกว่าที่พวกเขาจะหมดปัญหาที่จะเข้าโจมตี และต้องเจาะเข้าทำจนกว่าจะส่งลูกเข้าไปตุงตาข่าย ในเกมนี้คาดว่า รอย ฮอดจ์สัน คงจะส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงเล่นในเกมรุกอีกครั้ง
ซึ่งนั่นถือเป็นภาระกิจที่มหาศาล ของกองหน้าผิวสีรายนี้ แต่หากแข้งจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เกิดปืนฝืดเล่นไม่ออก ก็คงต้องเปลี่ยนจินตนาการในการผลิตสกอร์ให้กับแนวรุกรายอื่นๆ
เรื่องโดย "ตัวต่อ"