ผมขอโทษ! "เสี่ยฟลุ๊ค" ประกาศลาตำแหน่งผจก. "ราชันมังกร"

ผมขอโทษ! "เสี่ยฟลุ๊ค" ประกาศลาตำแหน่งผจก. "ราชันมังกร"

ผมขอโทษ! "เสี่ยฟลุ๊ค" ประกาศลาตำแหน่งผจก. "ราชันมังกร"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สืบเนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวาย ในช่วงพักครึ่งแรก ในเกมส์ ที่ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดบ้าน เอาชนะชลบุรี เอฟซี 5-1 เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเหตุการณ์เกิดจากการที่ ติอาโก้ คุนญ่า นักเตะชลบุรีฯ สาดน้ำเข้าใส่ "เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร นิติกาญจนา ก่อนที่ กองหน้าบราซิลของ "ฉลามชล" จะโดน ผจก.ทีม ราชบุรีฯ เข้าไปตบที่ด้านหลังศรีษะ และก่อนจะมีเหตุการณ์บานปลายชุลมุนและมีบุคคลที่สามเข้ามา

และทำให้ มีกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ กันอย่างหนักในโลกโซเชี่ยล ล่าสุด ในวันจันทร์ที่ 10 ก.ค. เวลา 16.00 ณ โรงแรม มาริออท สุขุมวิท 24 ซึ่งทางด้าน ผจก. ฟลุ๊ค ธนวัชร นิติกาญจนา พร้อมด้วยโรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผอ.สโมสร ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"ก่อนอื่น ผมขออธิบายย้อนกลับไปว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามันไม่น่าจะเกิดขึ้น จริงๆแล้วเราจบครึ่งแรกด้วยการออกนำไปก่อน3-0 ทว่าพอจบครึ่งแรก นักเตะชลบุรี เข้าไปเพรชเชอร์ผู้ตัดสิน ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ ผมเองก็ต้องออกไปคุยกับผู้ตัดสินเช่นกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ทีมตนเอง วินาทีที่เหตุการณ์ที่คุนญ่าสาดน้ำใส่ผมนั้น ว่ามันเกิดขึ้นเร็วมากผมเองก็ยอมรับว่าทำไปโดยไม่ทันยับยั่งชั่งใจ ผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งย่อมมีอารมน์ความรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ แต่ผมก็ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมานึกย้อนผมก็ไม่มั่นใจว่าหากมีคนมาโยนของใส่ จะสามารถนิ่งต่อการกระทำแบบนั้นได้หรือไม่”

“ส่วนเรื่องของการ์ด นั้น ตามหน้าที่ เขาก็ต้องตามหน้าที่ของเขา เมื่อเขาเห็นว่าผมอาจจะโดนกระทำ จึงได้มีปฏิกิริยา แต่ก็จริง ที่เขาทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งตามหน้าที่ เขาควรที่จะเข้ามาห้ามมากกว่า และจากเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้น ผมก็ได้คุยกับทางทีมแล้วว่า การ์ดคนนั้น จะไม่ได้เข้ามาที่สนามแห่งนี้อีก”

“ซึ่งหลังจบเกมผมก็ได้รับข้อความจากผู้ใหญ่หลายๆท่านที่ได้ส่งข้อความมาหา หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเขา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรเหมือนกัน และจากเหตุการณ์นี้มันทำให้เกิดกระแสในวงกว้าง ที่อาจจะไปเกี่ยวพันกับภาพรวมของวงการฟุตบอลไทย ดังนั้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบผมขอยุติบทบาทในการทำหน้าทีของผู้จัดการทีมราชบุรีมิตรผล เอฟซี ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป

และจะไม่ลงไปในเขตเทคนิคอีกต่อไป ซึ่งคนที่จะให้ทำหน้าที่ต่อ ก็คือ โรเบิร์ต และผมก็มั่นใจว่าจะสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี จนสามารถที่จะผลักดันให้มีนักเตะจากทีมราชบุรีฯ ก้าวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ วันนี้ ก็ 2-3 คน ชุดยู -23 อีก 3 คน รวมไปถึง ยู-19 ก็ยังมีเช่นกัน ผมถือว่า ผมได้ทำและประสบความสำเร็จเรื่อยๆมา ในลีกนั้น เราก็ไต่จากทีมท้ายตาราง มาถึงทีมที่อยู่ อันดับ 6-8 และวันข้างหน้า ผมก็ตั้งเป้าว่าจะก้าวสู่ อันดับที่ดีกว่า 3-2-1 ต่อไป และในวันนี้ นอกจากปีที่แล้วเราจะมีสนามเป็นของตัวเอง ปีนี้เราก็มีถึง 4ทีม ทั้งทีมใหญ่ ทีมสำรอง และยู 15,ยู 13 อีก ผมภูมิใจที่พาทีมมาถึงจุดนี้ได้

“ และที่ผ่านมา ผมก็พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ผมสร้างทีมนี้ขึ้นมา และ รักทีมนี้เป็นเหมือนลูกของผมเป็นเบบี้ ของผม แต่ด้วยเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ในตอนนี้ผมคิดว่า การที่ผมยอมลดบทบาทออกมาน่าจะดีที่สุด ส่วนจะทำหน้าที่หรือตำแหน่งอะไรนั้น ก็ต้องดูว่าในทีมมีตำแหน่งอะไรให้ผมทำ และเมื่อวันหนึ่งหากว่า ผมสามารถ ที่จะต้านทานแรงกดดัน หรือสงบนิ่งกับเรื่องราวต่างๆได้ก็อาจจะกลับมา แต่ในตอนนี้นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด” สุดท้ายก็อยากจะขอโทษกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" รวมไปถึงทางผู้บริหารฝั่งชลบุรี กับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดแบบนี้

สำหรับเรื่องที่ผมโพสต์ ในเฟชบุ๊ควันนั้น กับใบแดง ที่เขาโดน และผมก็นึกว่าผมเองก็โดนเหมือนกัน และหากว่าจากเหตุการณ์ณ์นั้นผมก็รู้สึกเห็นใจคุนญ่าหากว่าจะต้องโดนแบนหนักจากเหตุการณ์หรืออารมณ์ ชั่ววูบ เพียงแค่ 10วินาทีหรืออาจจะไม่ถึง ก็อยากฝากเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมการพิจารณาต่อไป และก็ต้องขอขอบคุณ แฟนบอล ของชลบุรี และ ราชบุรี ในวันนั้น ที่หลังจากเหตุการณ์ณ์ กลับมาเล่นในครึ่งหลัง ทั้งสองฝ่ายก้ยังมีสปิริตเชียร์กันด้วยดี จนกระทั่ง จบเกมการแข่งขัน ต้องขอชื่นชม สปิริตของแฟนๆทั้งสองทีม

ขณะที่ทางด้าน โรเบิร์ต ที่นั่งแท่นผู้จัดการคนใหม่ของ ราชบุรี มิตรผล ได้ตอบคำถามจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องของการรักษาความปลอดภัยว่า “เหตุการณ์ณ์ในวันนั้น หากเป็นที่อื่น ถ้าสมมุตว่านักเตะเรา ไปสาดน้ำใส่ผู้จัดการทีม ทีมอื่น หรือ ผู้บริหารทีมอื่น อาจจะเกิดเหตุวุ่นวายมากกว่านี้ หรืออาจจะคุมแฟนบอลไม่อยู่เลยก็เป็นได้ แต่นี่ หลังเหตุการณ์ณ์ เรายังสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ และยังสามารถดำเนินการแข่งขันได้”


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook