Premier League Preview

Premier League Preview

Premier League Preview
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุดสัปดาห์นี้แล้วนะครับที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีจะได้กลับมาสร้างความสนุกสนาน ลุ้นเชียร์ให้กับแฟนบอลทั่วโลกเหมือนเดิมอีกครั้ง

หลังจากปิดซีซั่นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพร้อมกับการคว้าแชมป์ไปครองของทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเบียดบี้แย่งแชมป์กับคู่แข่งร่วมเมืองตัวฉกาจอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนิดที่ต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล แถมยังเป็นการลุ้นกันแบบใจหายใจคว่ำกว่าที่ ซิตี้ จะทำสำเร็จ

เริ่มสัปดาห์แรกมา พรีเมียร์ลีกก็แบ่งเตะเป็น 3 วัน เสาร์, อาทิตย์ และจันทร์ หรือมันเดย์ไนต์ ซึ่งก็จะได้ลุ้นกันสนุกในช่วงสุดสัปดาห์ต่อเนื่องอย่างแน่นอน มีหลายเกมเหมือนกันที่น่าสนใจและหยิบยกมาพูดวิเคราะห์วิจารณ์ถึงความน่าจะเป็น และผลการแข่งขันที่คาด

ซึ่งหลังจากที่ฤดูกาลจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการแบบนี้ คอลัมน์ หรือพื้นที่ตรงนี้ที่ผมเคยเขียนถึงความเคลื่อนไหวของพรีเมียร์ลีก ภายใต้ชื่อ Premier League Inside เดิมก็จะปรับเปลี่ยนกลับไปเป็น Premier League Preview

ซึ่งจะเป็นฉบับที่วางแผงในวันศุกร์ และพูดถึงปรีวิวของเกมที่น่าสนใจในสัปดาห์นั้น ขณะที่ฉบับวางแผงวันอังคาร ก็จะกลับไปอยู่ในชื่อเดิมที่ชื่อ Premier League Review ซึ่งจะหยิบเอาเกร็ด หรือสถิติที่น่าสนใจต่างๆหลังเกมในสัปดาห์นั้นมาพูดถึงกัน

สำหรับวันนี้คงขอเริ่มด้วยความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกก่อนที่จะจบท้ายด้วยมุมมองของผมสำหรับเกมที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์แรก

ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านคงจำชื่อของ ฟาบริซ มูอัมบ้า กองกลางผู้โชคร้ายของ โบลตัน วันเดอเรอร์ส กันได้ เพราะหากย้อนกลับไปในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา

ในเกมนั้น มูอัมบ้า วัย 24 เกิดล้มหมดสติและหยุดหายใจไปชั่วขณะระหว่างเกม แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาล และไม่ได้เล่นฟุตบอลอีกเลยนับตั้งแต่นั้น

แต่เขาก็ยังมีโอกาสได้กลับมาปรากฏตัวที่สนาม รีบ็อค สเตเดี้ยม รังของ โบลตัน ต่อหน้าแฟนบอลก่อนเกมที่พบกับ สเปอร์ส เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับกำลังใจ และความปรารถนาดีของแฟนๆ และทีมแพทย์ทั้งของ โบลตัน และ สเปอร์ส ที่ช่วยกันดูแลเขาอย่างเต็มที่ช่วงที่เขาหมดสติไป

ล่าสุดครับมีการยืนยันแล้วว่า มูอัมบ้า ที่กำลังมีอนาคตรุ่งโรจน์กับ โบลตัน ก่อนจะล้มเจ็บไปได้ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้วตามคำแนะนำของแพทย์ หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์เขาเพิ่งจะเดินทางไปที่ เบลเยียม เพื่อเข้ารับการผ่าตัดย่อยที่หัวใจของเขา

ซึ่งหลังจากได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลอาการของเขาแล้ว ก็ทำให้ มูอัมบ้า ตัดสินใจที่จะยุติอาชีพการเป็นนักฟุตบอลอย่างเด็ดขาด

สำหรับ มูอัมบ้า นั้น เขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกหัดกับ อาร์เซนอล ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และย้ายมาอยู่กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งเป็นทีมที่เขาได้แจ้งเกิดอย่างเต็มที่จากสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง โดยเล่นให้กับ เดอะ ทร็อตเตอร์ส เป็นเวลาถึง 4 ฤดูกาลด้วยกัน

ต่อกันที่ข่าวการย้ายทีมที่น่าสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เมื่อล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาแล้วว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซนอล สามารถตกลงเกี่ยวกับค่าตัวในการย้ายทีมของดาวเตะดัตช์ เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวของลีกเมื่อฤดูกาลก่อนได้สำเร็จแล้ว

โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 24 ล้านปอนด์ และสัญญาที่จะเซ็นนั้นมีระยะเวลา 4 ปี ซึ่งเบื้องต้น ยูไนเต็ด จะจ่ายเงิน 22.5 ล้านปอนด์ให้กับ อาร์เซนอล ก่อน และจะจ่ายเพิ่มอีก 1.5 ล้านปอนด์ให้ หากว่า ยูไนเต็ด สามารถคว้าแชมป์ใดแชมป์หนึ่งก็คือ พรีเมียร์ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในช่วง 4 ปีนับจากนี้

ก่อนหน้าที่จะลงเอยกันได้ระหว่าง อาร์เซนอล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ก็มีคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ยูเวนตุส ที่ต้องการจะได้กัปตันทีม "ปืนใหญ่" ไปร่วมทีมด้วยเหมือนกัน

แต่ในที่สุด ฟาน เพอร์ซี่ ก็ถูกปล่อยตัวไปให้กับ ยูไนเต็ด หลังจากที่เซอร์ อเล็กซ์ สามารถเจรจาต่อรองค่าตัวของดาวเตะวัย 29 ลงมาจากที่ เวนเกอร์ เรียกร้องไว้ในตอนต้น 25 ล้านปอนด์ได้สำเร็จ

สำหรับ ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยิงประตูได้อย่างระเบิดเถิดเทิง 44 ประตูจากการเล่นไป 57 เกมให้กับทั้งต้นสังกัดและการเล่นให้กับทีมชาติ ย้ายจาก เฟเยนอร์ด ร็อตเตอร์ดัม ใน ฮอลแลนด์ บ้านเกิดมาอยู่กับ อาร์เซนอล ตั้งแต่เมื่อปี 2004

พร้อมกับทำสถิติลงเล่นให้กับทีมไป 278 เกมทำไป 132 ประตูและยังได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษทั้งจากสถาบันผู้สื่อข่าวสายฟุตบอล และจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพด้วย

อย่างไรก็ดีเขามีโอกาสได้คว้าแชมป์ร่วมกับทีมเพียง 2 รายการเท่านั้นคือ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2004 และอีกหนึ่งรายการคือแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2005

พูดถึง ฟาน เพอร์ซี่ แล้ว ก็ขอต่อไปที่การวิเคราะห์วิจารณ์เกมที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้กันต่อไปเลยแบบเนียนๆ เพราะการมาของ ฟาน เพอร์ซี่ ที่ไม่ได้ถูกส่งลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องเกมสุดท้ายของ อาร์เซนอล

น่าจะทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถส่งเขาลงเล่นเป็นประเดิมเกมแรกได้ในเกมที่ ยูไนเต็ด จะยกพลไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน ปาร์ค ในเกมมันเดย์ไนต์ของสัปดาห์แรก

อย่างไรก็ดีการมาเยือน เอฟเวอร์ตัน ในช่วงขวบปีหลังๆก็ไม่ใช่งานที่ง่ายนักสำหรับลูกทีมของท่านเซอร์ โดยเฉพาะเจ้าถิ่นเองก็มีนักเตะชั้นดีในแนวรุกอยู่หลายคนนำโดย นิกิก้า เยลาวิช หัวหอกทีมชาติโครเอเชีย หรือกองหน้าตัวใหม่จากสกอตแลนด์อย่าง สตีเว่น เนย์สมิธ

แต่ฤดูกาลนี้แฟนๆของ เอฟเวอร์ตัน จะไม่ได้เห็นลีลาการเล่นที่เร้าใจ และการฉลองประตูแบบกวนๆของ ทิม เคฮิลล์ อีกแล้วหลังจากเจ้าตัวได้ย้ายทีมไปในช่วงซัมเมอร์ แต่แกนหลักคนอื่นๆอย่าง สตีเว่น พีนาร์, มารูยาน เฟลไลนี่ หรือแม้กระทั่งในแนวรับอย่าง ฟิล จากีลก้า และ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังอยู่กันครบ

ด้าน ยูไนเต็ด ผู้มาเยือน หาก ฟาน เพอร์ซี่ ฟิตพร้อมเต็มที่ มีโอกาสที่จะได้เห็นการจับคู่ของดาวยิงดัตช์ผู้นี้กับ เวย์น รูนี่ย์ แน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นระบบการเล่นจากเดิมที่ท่านเซอร์ใช้มาบ่อยๆในช่วงหลายฤดูกาลหลังอย่าง 4-3-3 หรือ 4-5-1 ก็จะสลับสับเปลี่ยนไปเป็น 4-4-2 ในทันที

นอกจากข่าวดีเกี่ยวกับ ฟาน เพอร์ซี่ แล้ว เซอร์ อเล็กซ์ ยังได้นักเตะที่เคยบาดเจ็บอย่าง เนมานย่า วีดิช ซึ่งเป็นหัวใจหลักในแนวรับยุคปัจจุบันของทีมหายกลับมา รวมถึงอีกคนก็คือ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ มิดฟิลด์ร่างบางทีมชาติสกอตแลนด์ ซึ่งมีอาการป่วยจนไม่ได้ลงสนามให้กับทีมมาร่วม 9 เดือนกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง

ความน่าจะเป็นของเกม:

ได้ ฟาน เพอร์ซี่ มาน่าจะทำให้ขู่แนวรับของทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดีเจ้าถิ่นเองก็คงสู้ยิบตาแน่ หาก ยูไนเต็ด มาแบบรอจังหวะ ไม่เปิดเกมบุกแบบย่ามใจเกินไป โอกาสจะหยิบ 3 คะแนนน่าจะเป็นไปได้ แต่หากประมาทลูกโด่ง หรือมาร์กตัว เยลาวิช ไม่ดี ก็มีโอกาสจะถูกแบ่งแต้มได้เช่นกัน

ผลการแข่งขันที่คาด:

เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1

อีกหนึ่งเกมที่ขอหยิบมาพูดถึงคงจะเป็นการออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่เพื่อป้องกันแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โปรแกรมนัดแรกไม่หนักมากนักเมื่อจะได้เฝ้าบ้านของตัวเอง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ 1 ใน 3 น้องใหม่สำหรับฤดูกาลนี้อย่างทีม "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน

ทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กินแห้วไปแล้วสำหรับ ฟาน เพอร์ซี่ และก็ปล่อยนักเตะส่วนเกินออกจากทีมไปอย่าง เวย์น บริดจ์ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ แต่ก็คงไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับทีมมากนัก โดยเชื่อกันว่า มันชินี่ คงจะเร่งซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาในช่วงก่อนตลาดปิดเป็นแน่

โดยตอนนี้กุนซือชาวอิตาเลียนอยากจะได้กองหลังทีมชาติเดนมาร์กของ ลิเวอร์พูล ก็คือ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาอย่าง กอนซาโล่ อิกวาอิน จาก เรอัล มาดริด แต่ดูจากความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาก็คงไม่ง่ายนักหากจะดึงผู้เล่นทั้ง 2 รายที่ว่านี้มาร่วมทีมด้วย

อาการบาดเจ็บของ โจ ฮาร์ท และ แกเร็ธ แบร์รี่ ทำให้ทั้งคู่ต้องถอนตัวจากเกมอุ่นเครื่องที่ อังกฤษ เฉือน อิตาลี ไป 2-1 เมื่อคืนวันพุธ ขณะที่ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ก็เป็นอีกคนที่ยังต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ

รายของ ฮาร์ท ซึ่งเจ็บหลังหากเล่นไม่ได้ คอสเตล ปันติลิม่อน ก็จะได้ทำหน้าที่แทนเหมือนในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ส่วน แบร์รี่ นั้น ตัวใหม่อย่าง แจ๊ค ร็อดเวลล์ ที่ได้มาจาก เอฟเวอร์ตัน มีลุ้นลงเล่นแทน

ด้าน เซาแธมป์ตัน แม้จะเคยเป็นทีมที่คุ้นหูแฟนบอลบ้านเรามานาน แต่หลังจากตกชั้นไปหนสุดท้าย พวกเขาก็อาจจะหลุดจากกระแสความสนใจไปบ้าง อย่างไรก็ดีการกลับมาเที่ยวนี้น่าสนใจว่าพวกเขาจะยืนระยะได้ดีแค่ไหนภายใต้การนำทีมของกุนซือ ไนเจล แอ็ดกินส์

โดยในช่วงปิดฤดูกาล แอ็ดกินส์ ได้คว้านักเตะใหม่มาเสริมทีมหลายราย อาทิ เปาโล ก๊าซซานิก้า ผู้รักษาประตู, นาธาเนี่ยล ไคลน์ แบ็กขวา, สตีเฟ่น เดวิส กองกลาง และ เจย์ โรดริเกวซ กองหน้า เรียกว่าเตรียมพร้อมในทุกๆตำแหน่ง

อย่างไรก็ดีหากดูจากชื่อชั้นของนักเตะที่มีอยู่แล้ว ก็ต้องกาหัวไว้ก่อนว่า พวกเขาน่าจะต้องเหนื่อยหนักแน่ในการเอาตัวรอดจากการตกชั้นในฤดูกาลนี้ โดยการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเกมสุดท้ายในบ้านตัวเองเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เพิ่งจะโดน อูดิเนเซ่ ทีมแกร่งจาก อิตาลี บุกมายำถึง 4-0

ความน่าจะเป็นของเกม:

ชื่อชั้นและตัวผู้เล่นของ ซิตี้ เหนือกว่า เซาแธมป์ตัน เยอะ ยิ่งเป็นการเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองในบ้านด้วย เชื่อว่า มันชินี่ และลูกทีม คงจะเน้นเป็นพิเศษเพื่อ 3 คะแนนเพียงสถานเดียวเท่านั้น ซึ่งดูแล้วพวกเขาไม่น่าจะพลาด ทีมเยือนคงหวังมาอุดและหาจังหวะสวนกลับ แต่ดูแล้วคงจะต้านให้ได้ตลอดทั้ง 90 นาทีคงลำบาก

ผลการแข่งขันที่คาด:

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เซาแธมป์ตัน 3-0

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook