ทำไมต้องกลั่นแกล้งผมด้วย

ถือเป็นมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตอีกครั้งของนายกสมาคมฟุตบอล นายวรวีร์ มะกูดี ที่ตั้งแต่ขึ้นมารับตำแหน่งเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สมัยที่ 2 ก็โดนพายุโหมกระหน่ำมาโดยตลอด จนแทบจะไม่มีความสุขในชีวิตเลย

และมรสุมครั้งล่าสุดที่เข้ามาในชีวิตของนายวรวีร์ ก็คือการโดนฟ้องจาก บ.แด-อัน 21 ของประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับเรื่องของสิทธิประโยชน์เมื่อ 5-6 ปีก่อน โดยเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

แต่สุดทางด้านนายกสมาคมฟุตบอลฯ ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวความบริสุทธิ์ของตัวเป็นแล้ววานนี้ (27 ส.ค.) โดยเนื้อหาสาระในการแถลงข่าวมีดังนี้

"เรื่องทั้งหมดตนเองถูกกลั่นแกล้งโดนใส่ร้ายเพื่อที่จะดิสเครดิตและทำลายชื่อเสียง ซึ่งตนไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ตั้งทีมกฎหมายเพื่อฟ้องกลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว หากจะมีการฟ้องจริงๆ ทำไม่ไม่ดำเนินการตั้งแต่ในตอนนั้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือการกระทำเพื่อต้องการทำลายชื่อเสียงของตนและเกียรติยศของวงศ์ตระกูล"

"เรื่องเงินที่บอกว่าโอนมาผมก็ไม่รู้ว่าโอนให้ใคร? และทำไมเรื่องถึงเพิ่งจะมาดัง ทั้งๆ ที่ผ่านมานานแล้ว"

"ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนกลั่นแกล้งและทำเช่นนี้แต่คิดว่าคงมีหลายคนเหมือนกัน อย่างที่คดีที่ดินที่หนองจอก ผมได้บริจาคที่ดินส่วนตัวเพื่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลฯ แต่ก็ถูกกล่าวหาว่าเอาเงินฟีฟ่ามาใช้ ผมไม่อยากทะเลาะกับใครและเมื่อถูกรังแกผมจำเป็นต้องสู้และออกมาแสดงความบริสุทธิ์"

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าท้อหรือไม่กับสิ่งที่เกิดขึ้น? "บังยี" กล่าวว่า "ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม่ต้องทำเช่นนี้และทำไปเพื่ออะไร ที่ผ่านมาผมทำความดีให้วงการฟุตบอลไทยมาเยอะทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง และเคยทำทีมชาติไทยในการเป็นแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัยติดต่อกันแม้จะไม่ได้อยู่เบื้องหน้าก็ตาม ซึ่งทีมระดับโลกก็ยังทำไม่ได้ในการคว้าแชมป์ติดต่อกันยาวนานขนาดนี้"

"ผมยอมรับว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาผลงานของ ทีมชาติไทย ไม่ดีและน่าผิดหวัง แต่ผมก็พยายามปรับปรุงและทำทุกอย่างให้ดีขึ้นด้วยการจ้างโค้ชระดับโลกมาทำทีมและเสียเงินค่าเหนื่อยปีละ 30-40 ล้านบาท ซึ่งจะให้มันดีขึ้นอย่างทันตาเห็นก็คงเป็นเรื่องยาก ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา"

ซึ่งทั้งหมดนี้ความจริงเป็นเช่นไรก็คงมิอาจทราบได้ แต่ผมนั้นเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และสักวันมันก็ต้องปรากฏ ใครทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ใครกลั่นแกล้งใครสักวันก็ต้องโดนลงโทษเอง เพราะฉะนั้นเราเองก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีทางของมัน แล้วสักวันความจริงมันจะเปิดเผยออกมาเอง

เรื่องโดย "บุคคลนิรนาม"